เจาะลึก! อะไรที่ทำให้ขีปนาวุธ Fateh-100 และ Jihad-2 ของฮิซบุลลอฮ์ทรงพลังและสำคัญในการต่อสู้?

8
ท่ามกลางการโจมตีของอิสราเอลต่อเลบานอนที่เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน ฮิซบุลลอฮ์ ขบวนการต่อต้านจากเลบานอน ได้แสดงแสนยานุภาพทางทหารเพื่อปกป้องดินแดน โดยใช้การโจมตีที่แม่นยำซึ่งสามารถเข้าถึงเป้าหมายในดินแดนยึดครอง การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงเป็นการตอบโต้แต่ยังแสดงถึงศักยภาพของฮิซบุลลอฮ์ในการยืนหยัดท้าทายต่ออำนาจไซออนิสต์

การเปิดตัวอาวุธใหม่อย่างระบบขีปนาวุธ Fateh-110 และ Jihad-2 ซึ่งได้รับการพัฒนาให้มีระยะยิงและพลังทำลายที่น่ากลัว เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของฮิซบุลลอฮ์ที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับฝ่ายตรงข้าม Fateh-110 ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลที่มีพิสัยการยิงถึง 300 กิโลเมตร สามารถโจมตีได้แทบทุกพื้นที่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอลจากฐานยิงในเลบานอน ความแม่นยำของขีปนาวุธรุ่นใหม่นี้ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น โดยมีอัตราความคลาดเคลื่อนเพียง 10 เมตร ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในอาวุธที่ทรงคุณค่าที่สุดในคลังอาวุธของฮิซบุลลอฮ์ นอกจากนี้ ระบบ Jihad-2 ซึ่งเป็นรุ่นพัฒนาต่อจาก Jihad-1 ก็ถูกเปิดตัวเช่นกัน โดยมีพิสัยการยิง 250 กิโลเมตร สามารถโจมตีเป้าหมายสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสะดวกต่อการขนย้ายและใช้งานในสงครามแบบกองโจร

นอกจากระบบขีปนาวุธแล้ว ฮิซบุลลอฮ์ยังได้เปิดตัวอาวุธใหม่อีกหลายชนิด รวมถึงระบบจรวด M80 ซึ่งเป็นจรวดขนาดเล็กที่สามารถยิงได้ไกลถึง 3.3 กิโลเมตร และมีรัศมีการสังหารครอบคลุมพื้นที่ 35 เมตร จรวด M80 นี้สามารถโจมตีกองกำลังศัตรูที่อยู่ใกล้กับแนวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมี Nasr-2 จรวดปืนใหญ่ที่มีความแม่นยำสูง ด้วยหัวรบขนาด 140 กิโลกรัมและระยะการยิงไกลขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า Nasr-2 ได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มพลังทำลายล้าง โดยเฉพาะเมื่อใช้โจมตีเป้าหมายที่มีการป้องกันแน่นหนา

ในวันที่ 7 พฤศจิกายน ฮิซบุลลอฮ์ได้เปิดเผยการใช้งานของระบบจรวดหลายลำกล้อง Malak-1 ซึ่งเป็นระบบยิงจรวดแบบเคลื่อนที่ได้ ความสามารถของ Malak-1 ในการยิงจรวดได้เร็วและไกลกว่ารุ่นก่อนหน้า ทำให้สามารถโจมตีตำแหน่งของศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการยิงจรวดเหล่านี้เกิดขึ้นจากฐานใต้ดินในป่าทางตอนใต้ของเลบานอน

มูฮัมหมัด อาฟิฟ โฆษกของฮิซบุลลอฮ์ ได้แถลงในการประชุมสื่อเมื่อวันจันทร์ว่า ข้ออ้างของเจ้าหน้าที่และสื่ออิสราเอลเกี่ยวกับการที่คลังขีปนาวุธของฮิซบุลลอฮ์ใกล้จะหมดลงเป็นเพียง “การกล่าวหาแบบไร้หลักฐาน” และเขาได้กล่าวเสริมว่า “ขีปนาวุธของเราจะตอบคำถามเหล่านั้นเอง” นอกจากนี้ อาฟิฟยังกล่าวย้ำว่า “ศัตรูยังไม่สามารถยึดครองหมู่บ้านใด ๆ ในเลบานอนได้เลย และตำนานแห่งป้อมปราการคิยามยังคงยืนหยัดเป็นพยานถึงความกล้าหาญ” เขายังกล่าวต่อว่า การใช้กำลังทางอากาศของอิสราเอลและการโจมตีพลเรือนจะไม่ทำให้ไซออนิสต์ประสบความสำเร็จในการครองพื้นที่ของเลบานอนได้

อาฟิฟย้ำว่าฮิซบุลลอฮ์พร้อมสำหรับการสู้รบระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ตามแนวชายแดนหรือภายในดินแดนของศัตรู พร้อมจะเผชิญหน้ากับศัตรูที่มุ่งหมายจะทำลายบ้านเกิดและผู้คนของพวกเขา ขณะเดียวกัน ความเข้มแข็งของฮิซบุลลอฮ์ในด้านการพัฒนาอาวุธและกลยุทธ์การรบยังคงทำให้ศัตรูต้องระมัดระวังและคอยจับตาดู