องค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ซึ่งรวม 57 ประเทศสมาชิกและเป็นปากเสียงหลักของชาวมุสลิมกว่า 1.9 พันล้านคนทั่วโลก กลับถูกวิจารณ์ว่ากำลังสูญเสียบทบาทเชิงการเมืองที่แท้จริง แม้จะมีการประชุมฉุกเฉินและออกถ้อยแถลงประณามอิสราเอลอย่างเข้มข้น แต่ก็ยังคง “ติดอยู่ในวงจรของคำพูดที่ไม่ก่อผลลัพธ์” ตามบทวิเคราะห์ในเตหะรานไทมส์ของ ซาเวียร์ บียาร์ (Xavier Villar) นักวิชาการและนักเขียนชาวสเปน เจ้าของปริญญาเอกและปริญญาโทด้านการศึกษาเอเชียตะวันตกและเมดิเตอร์เรเนียนศึกษา ทั้งเชี่ยวชาญด้านอิหร่านศึกษา
พิธีกรรมทางการเมืองที่ไร้พลัง
บียาร์ เขียนว่า “OIC มักวนเวียนอยู่กับการออกแถลงการณ์ การประชุม การเรียกร้องเพื่อเอกภาพ แต่มักหยุดอยู่ที่ระดับถ้อยคำ ไม่อาจแปลงเป็นการกระทำที่มีผลจริง” เขาเน้นว่าอธิปไตยไม่ใช่เพียง “สถานะเชิงสัญลักษณ์” แต่ต้องถูก แสดงออกและบังคับใช้ จึงจะมีความหมาย
เขายกตัวอย่างการประชุมที่โดฮาล่าสุด หลังจากอิสราเอลโจมตีกาตาร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของผู้นำฮามาสระหว่างการหารือข้อเสนอหยุดยิง โดยที่ประชุมได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทบทวนความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจกับอิสราเอล พร้อมยืนยันสิทธิของชาวปาเลสไตน์ แต่บียาร์เห็นว่าทั้งหมดนี้ “ยังเป็นเพียงคำประกาศที่ขาดพลังเชิงปฏิบัติการ”
“ช่องว่างอธิปไตย” ของ OIC
บียาร์ วิเคราะห์ว่า ปัญหาที่แท้จริงคือ “ช่องว่างอธิปไตย” หรือ sovereign deficit ของ OIC ที่ไม่สามารถสร้าง “เจตจำนงทางการเมืองรวมหมู่” ได้ เนื่องจากแต่ละรัฐสมาชิกมีผลประโยชน์แตกต่างกันจนทำให้เกิดความแตกแยกเรื้อรัง
บียาร์ ระบุชัดว่า “OIC ไม่สามารถทำหน้าที่กำหนดศัตรูร่วม หรือบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรและการแทรกแซงทางการเมืองได้” จึงทำให้การเรียกร้องเพื่อเอกภาพกลายเป็นเพียง สัญลักษณ์ไร้น้ำหนัก
อิหร่าน: แบบอย่างของ “การกระทำเชิงอธิปไตย”
ในทางตรงกันข้าม บียาร์ ชี้ให้เห็นว่า อิหร่านคือประเทศที่แสดง “การกระทำเชิงอธิปไตย” อย่างแท้จริง แม้จะถูกคว่ำบาตรและโดดเดี่ยวในเวทีโลก แต่อิหร่านยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสนับสนุนขบวนการต่อต้านอิสราเอล การประณามผู้รุกรานอย่างเปิดเผย และการลงมือเชิงการเมืองและการทหารที่เป็นรูปธรรม
เขาอธิบายว่า “สำหรับอิหร่าน อธิปไตยไม่ใช่ถ้อยคำ หากแต่เป็นการลงมือที่มีพันธะทางศีลธรรมและการเมือง เพื่อยืนหยัดต่อต้านการกดขี่และทำความยุติธรรมให้เกิดขึ้นจริง”
สามข้อเสนอเพื่อให้ OIC ก้าวพ้นกับดัก
ตามการวิเคราะห์ของ บียาร์ในเตหะรานไทมส์ หาก OIC ต้องการกลับมามีบทบาทที่แท้จริง จำเป็นต้องก้าวข้ามถ้อยแถลงเชิงสัญลักษณ์ และกล้าที่จะทำสิ่งเหล่านี้:
- ระบุศัตรูอย่างชัดเจน – เลิกหลบเลี่ยงการเอ่ยชื่อรัฐหรือองค์กรที่ละเมิดสิทธิชาวมุสลิม
- ใช้มาตรการเชิงปฏิบัติ – เช่น การคว่ำบาตร การจัดส่งความช่วยเหลือโดยมีการกำกับดูแล หรือกลไกบังคับใช้
- สร้างเจตจำนงรวมหมู่ที่เป็นจริง – ปฏิรูปโครงสร้าง OIC เพื่อลดการครอบงำของบางประเทศ และสร้างกลไกการตัดสินใจที่มีผลผูกพัน
บียาร์ ย้ำว่า หาก OIC ไม่ก้าวข้ามจาก “พิธีกรรมถ้อยแถลง” ไปสู่การกระทำจริง ก็จะยังคงเป็น “องค์กรแห่งคำพูดที่ยิ่งใหญ่แต่ไร้พลังทางการเมือง” ในขณะที่อิหร่านกำลังแสดงให้เห็นว่า การประกาศอธิปไตยต้องมาพร้อม การลงมือและการเผชิญหน้า
เขาปิดท้ายใน เตหะรานไทมส์ ว่า “อนาคตของ OIC ในฐานะพลังการเมืองรวมหมู่ขึ้นอยู่กับการกล้าที่จะสะพานเชื่อมระหว่างวาทกรรมกับการกระทำจริงเท่านั้น”
คลิ๊กอ่านต้นฉบับเต็มจากเตหะรานไทมส์