“ฮาเกีย โซเฟีย” สนามใหม่แห่งความขัดแย้งระหว่างตุรกีและตะวันตก

316

ปัญหาของซีเรีย ไซปรัสและผู้ลี้ภัยเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ตุรกีมีความขัดแย้งกับประเทศในยุโรปอื่น ๆ  ซึ่งยังคงไม่ได้รับการแก้ไข และตอนนี้ปัญหาของการเปลี่ยนสถานะพิพิธภัณฑ์  “ฮาเกีย โซเฟีย”   เป็นมัสยิด ก็ยิ่งเพิ่มความขัดแย้งที่สะสมระหว่างตุรกีและตะวันตกมากขึ้น

หลังจากที่ศาลสูงตุรกีมีคำพิพากษาเมื่อวันศุกร์ว่า กฤษฎีกาที่ 1934 กำหนดเปลี่ยนสถานะ “ฮาเกีย โซเฟีย” (Hagia Sophia) โบสถ์คริสต์โบราณของนิกาย “ไบแซนไทน์” ในนครอิสตันบูล ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งปูทางไปสู่การเปลี่ยนคืนสถานะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ กลับไปเป็นมัสยิดอีกครั้ง ท่ามกลางความวิตกกังวลของนานาชาติ ประธานาธิบดีเทย์ยิป เออร์โดกาน ผู้นำตุรกี ไม่รอช้า ประกาศเปลี่ยนฮาเกีย โซเฟีย กลับไปเป็นมัสยิดตามคำพิพากษาของศาลทันที

ซึ่งตัวประธานาธิบดีเออร์โดกานเอง ที่เป็นคนเสนอให้คืนสถานะมรดกโลกที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 6 แห่งนี้ เป็นมัสยิด โดยสถานที่แห่งนี้ ถือเป็นศูนย์กลางจิตใจของชาวคริสต์ไบแซนไทน์ และอาณาจักรมุสลิมออตโตมัน ก่อนที่จะกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในตุรกีไปแล้วในขณะนี้

เมื่อแรกเห็นการเปลี่ยนพิพิธภัณฑ์เป็นมัสยิดในกรุงอิสตันบูลประเทศตุรกีอาจดูเป็นเรื่องปกติ แต่การเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างประเทศอย่างกว้างขวาง

หลายประเทศในยุโรปตะวันตกและยุโรปมีปฏิกิริยาทางลบต่อการตัดสินใจของรัฐบาลตุรกีเมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อ เปลี่ยนสถานะพิพิธภัณฑ์  “ฮาเกีย โซเฟีย”   เป็นมัสยิด  และบางประเทศก็แสดงความเสียใจต่อการตัดสินใจครั้งล่าสุดของรัฐบาล เออร์โดกาน

“ฮาเกีย โซเฟีย”    เวทีแห่งความขัดแย้งใหม่ระหว่างตุรกีและตะวันตก

ตุรกีมีความขัดแย้งกับประเทศตะวันตกมานานโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยุโรปและสหรัฐอเมริกา

ตุรกีมีความขัดแย้งหลากหลายกับกรีซอย่างมากเกี่ยวกับการสำรวจก๊าซในยุโรปและประเทศอื่น ๆ ในยุโรปที่สนับสนุนกรีซประณามการสำรวจก๊าซของตุรกีในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

อีกด้านหนึ่งอังการาและปารีสนั้นมีความขัดแย้งในเรื่องการแบ่งแยกผลประโยชน์ในกรณีของลิเบียอย่างหนัก และความขัดแย้งทางวาจา(สงครามน้ำลาย) ของพวกเขาอาจนำไปสู่ความเหตุความรุนแรงของสองประเทศ

นอกจากนั้นอเมริกายังกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการที่ตุรกีซื้อระบบขีปนาวุธ S-400 จากรัสเซียและการคุกคามของสหรัฐต่อตุรกีให้ยกเลิกการจัดซื้อขีปนาวุธ S-400 จากรัสเซียนั้นยังไร้ผล และตุรกีก็มุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือกับมอสโกที่มันค้านกับความต้องการของตะวันตก

ปัญหาของซีเรีย ไซปรัสและผู้ลี้ภัยเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ตุรกีมีความขัดแย้งกับประเทศในยุโรปอื่น ๆ  ซึ่งยังคงไม่ได้รับการแก้ไข และตอนนี้ปัญหาของการเปลี่ยนสถานะพิพิธภัณฑ์  “ฮาเกีย โซเฟีย”   เป็นมัสยิด ก็ยิ่งเพิ่มความขัดแย้งที่สะสมระหว่างตุรกีและตะวันตกมากขึ้น

ทำไมตะวันตกจึงอ่อนไหวต่อ ฮาเกีย โซเฟีย?

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่การดำเนินการและการใช้งานฮาเกีย โซเฟีย ในอิสตันบูลประเทศตุรกีมีความขัดแย้งที่รุนแรงระหว่างตุรกีและกรีซ
ประเด็นสำคัญในเรื่องนี้คือความพยายามของกรีซในการชำระบัญชีกับตุรกี
ดูเหมือนว่ากรีซนอกเหนือจากความขัดแย้งจำนวนมากกับตุรกี กำลังพยายามใช้ปัญหานี้เพื่อจุดประสงค์ของตัวเองกับตุรกี
กรีซพยายามที่จะเน้นย้ำในการแสดงบทบาทของยุโรปในกิจการภายในของตุรกีโดยการกล่าวหาตุรกีหลายต่อหลายครั้ง

การตัดสินใจของตุรกีในการเปลี่ยน ฮาเกีย โซเฟีย ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากประเทศตะวันตกอื่น ๆ รวมถึงฝรั่งเศสด้วยและดูเหมือนว่าฝรั่งเศสก็เข้าร่วมสู่ความตึงเครียดทางการทูตระหว่างตุรกีและกรีซด้วยจากการวิจารณ์ของเอเธนส์เกี่ยวกับการอ่านอัลกุรอานใน ฮาเกีย โซเฟีย ในอิสตันบูล โดยที่เอเธนส์อ้างว่า  พิธีกรรมทางศาสนาที่ ฮาเกีย โซเฟีย มัสยิดประวัติศาสตร์ที่โด่งดังของตุรกีขัดแย้งกับอนุสัญญายูเนสโกว่าด้วยการคุ้มครองสถานที่ทางประวัติศาสตร์

ตุรกี ได้อะไรจากการเปลี่ยนรูปแบบการใช้ประโยชน์ของ ฮาเกีย โซเฟีย?

รัฐบาลเออร์โดกานมีชื่อเสียงและเป็นที่รับรู้ในแนวคิดอิสลามของเขาที่นิยมแนวฆราวาสของตุรกี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมารัฐบาลเออร์โดกานประสบความสำเร็จที่สำคัญๆหลายอย่างในตุรกีแต่ภายในพรรคยุติธรรมและพรรคเพื่อการพัฒนา(พรรคของเออร์โดกาน)มีความร้าวฉานและขัดแย้งอย่างเห็นได้ชัด และอดีตสมาชิกพรรคและพันธมิตรของเออร์โดกาน บางคนรวมถึงอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ Davutoglu และคนอื่น ๆ เช่น อับดุลเลาะห์ โกล์ ( Abdullah Gul )ก็ได้เข้าร่วมกลุ่มสมาชิกนักวิจารณ์เออร์โดกาน

อย่างไรก็ตามการดำเนินการของเออร์โดกานเพื่อเปลี่ยนการใช้งานของฮาเกีย โซเฟีย  จากพิพิธภัณฑ์เป็นมัสยิดได้รับการต้อนรับอย่างกว้างขวางไม่เพียง แต่ในชุมชนของประเทศเท่านั้นแม้แต่นักวิจารณ์อย่าง Davutoglu ก็เข้าร่วมสนับสนุนกับบรรดาผู้สนับสนุนเออร์โดกาน ในเรื่องของฮาเกีย โซเฟีย เช่นกัน

การรับตอบรับจากสาธารณะและการสนับสนุนจากประชาชนสำหรับการดำเนินการของเออร์โดกาน ไม่เพียง แต่กีดกันการวิจารณ์ในประเทศของเขาในเวทีการเมืองเท่านั้นแต่จะนำไปสู่ความแข็งแกร่ง ความมั่นคงและสร้างภาพลักษณ์และตำแหน่งของรัฐบาลเออร์โดกาน ในตุรกีอีกด้วย นี่คือความสำเร็จที่สำคัญสำหรับเออร์โดกาน ในการเมืองภายในประเทศ

อีกด้านหนึ่ง ในเวทีต่างประเทศ การคัดค้านของประเทศตะวันตกและยุโรปต่อการตัดสินใจของเออร์โดกานนั้น ถือเป็น ถือไพ่ที่เหนือกว่าอย่างแท้จริงสำหรับเออร์โดกาน ในการเจรจาต่อรองกับตะวันตกในอนาคต และหลังจากนี้รัฐบาลเออร์โดกานจะมีไพ่ที่เรียกว่า “ฮาเกีย โซเฟีย” อยู่ในมือและสามารถใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่เมื่อเผชิญกับข้อพิพาทกับตะวันตก เช่นกรณีในลิเบีย ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซีเรีย ผู้ลี้ภัยและ…..  ซึ่งสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งต่อตำแหน่งการเจรจาต่อรองของอังการา

ประวัติ “ฮาเกีย โซเฟีย”

ฮาเกีย โซเฟียถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนี้ แรกเริ่มเดิมที ถูกสร้างขึ้นเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์และยังเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตก ยุคไบเซนไทน์ (Byzantine) โบสถ์แห่งนี้ทำหน้าที่เป็นวิหารของพระราชาคณะแห่งคอนสแตนติโนเปิล และเป็นโบสถ์ของนิกายไบแซนไทน์ในเวลาเดียวกันนานกว่า 1,000 ปี

ฮาเกีย โซเฟีย ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ 1,500 ปีก่อน ในฐานะวิหารคริสต์ออร์ทอดอกซ์ ต้องถูกแปรสภาพไปเป็นมัสยิด หลังอาณาจักรออตโตมันชนะสงคราม บุกยึดเมืองหลวงและดัดแปลงทุกสิ่งทุกอย่างภายในโบสถ์ และท้ายที่สุดก็เปลี่ยนเป็นมัสยิดของมุสลิม ในปีค.ศ.1453 หรือตรงกับพ.ศ.1996 แต่พอในปี พ.ศ.2477 สถานที่สำคัญแห่งนี้ ก็ถูกแปรเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในยุคแรกของตุรกีสมัยใหม่ภายใต้การนำของมุสตาฟา เคมัล อาตาเติร์ก ผู้ก่อตั้งตุรกีและประธานาธิบดีคนแรกของประเทศ และขณะนี้ ถูกขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก

source: moderndiplomacy

http://alwaght.com