รัฐมนตรีต่างประเทศจาก 16 ประเทศ รวมถึงตุรกี สเปน บราซิล และบังกลาเทศ ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อ 16 กันยายน เตือนอิสราเอลอย่าดำเนินการ “ที่ผิดกฎหมายหรือใช้ความรุนแรง” ต่อขบวนเรือ Global Sumud Flotilla ที่กำลังเดินทางไปยังกาซา
แถลงการณ์ระบุว่า ขบวนเรือมีเป้าหมายส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและเรียกร้องให้ยุติสงคราม พร้อมย้ำว่าทั้งสองเป้าหมายนี้สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรม ซึ่งรัฐบาลผู้ลงนามให้การสนับสนุน
รัฐมนตรีต่างประเทศจากตุรกี สเปน บังกลาเทศ บราซิล โคลอมเบีย อินโดนีเซีย ไอร์แลนด์ ลิเบีย มาเลเซีย มัลดีฟส์ เม็กซิโก ปากีสถาน กาตาร์ โอมาน สโลวีเนีย และแอฟริกาใต้ ลงนามในถ้อยแถลงนี้ โดยเตือนว่าหากมีการโจมตีเรือในน่านน้ำสากลหรือควบคุมตัวผู้โดยสารอย่างผิดกฎหมาย จะต้องมีการ “รับผิดชอบ”
ขบวนเรือส่งเสียงจากประชาชนโลก
ขบวนเรือซุมุดประกอบด้วยกว่า 40 ลำ บรรทุกสิ่งของจำเป็น เช่น ยารักษาโรคและนมผงทารก พร้อมผู้โดยสารกว่า 300 คน รวมถึงสมาชิกรัฐสภาจากฝรั่งเศส บราซิล สเปน อาร์เจนตินา แอลจีเรีย อิตาลี และเยอรมนี
บรูโน กิลกา โฆษกขบวนเรือกล่าวว่า “เรือบรรทุกทั้งความช่วยเหลือและข้อความแห่งการสนับสนุนจากประชาชนทั่วโลกต่อชาวปาเลสไตน์”
ทัดก์ ฮิกกีย์ นักแสดงตลกชาวไอร์แลนด์ หนึ่งในผู้โดยสาร กล่าวกับ Middle East Eye ว่า แม้เผชิญอุปสรรคและการโจมตี ขบวนเรือก็จะไม่หยุดเดินหน้า “เราจะไปต่อ ไม่ว่าจะเจอแรงต้านจากข้างในหรือข้างนอกก็ตาม”
นอกจากนี้ยังมีเรืออิสระ 2 ลำร่วมภารกิจ ได้แก่ เรือบรรทุกนักกฎหมายสากลทำหน้าที่สังเกตการณ์ และเรือกู้ภัย Lifesaver 2 จากอิตาลี
เผชิญการโจมตีซ้ำ
ในเดือนที่ผ่านมา ขบวนเรือซุมุดถูกโจมตีหลายครั้ง เช่น เมื่อ 10 กันยายน เรือ Alma ธงอังกฤษถูกโดรนโจมตีใกล้ท่าเรือตูนิเซียจนเกิดเพลิงไหม้บนดาดฟ้า วันก่อนหน้านั้น เรือ Family ถูกโดรนทิ้งระเบิดเพลิงใกล้ถังเชื้อเพลิง เกิดไฟลุกไหม้และถูกบันทึกภาพไว้
ก่อนหน้านี้ อิสราเอลเคยสกัดกั้นและยึดเรือช่วยเหลือในน่านน้ำสากล เช่น เมื่อ 27 กรกฎาคม ยึดเรือ Handala และลากเข้าเมืองท่าอัชดอด และเมื่อ 9 มิถุนายน ยึดเรือ Madleen พร้อมควบคุมตัวนักกิจกรรม 12 คน