เมืองและหมู่บ้านตามแนวชายฝั่งซีเรียเผชิญกับเหตุการณ์นองเลือดในวันศุกร์ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่กระทรวงกลาโหมและกองกำลัง “ความมั่นคงทั่วไป” เปิดปฏิบัติการทางทหาร อ้างว่าเป็นการตอบโต้ “การซุ่มโจมตี” โดยกลุ่มติดอาวุธที่ภักดีต่อรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีและโจมตีกองกำลังความมั่นคง
คำให้การจากผู้รอดชีวิต: “ถูกฆ่าเพราะอัตลักษณ์”
ริมา หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ เล่าว่า กองกำลังติดอาวุธสวมหน้ากากของ “ความมั่นคงทั่วไป” ได้บุกค้นบ้านของเธอในย่านอัลกูซูร์ เมืองบานิยาส โดยอ้างว่ากำลัง “ค้นหาเศษซากของระบอบเดิม” เธอเผยว่าครอบครัวของเธอถูกดูหมิ่นด้วยถ้อยคำที่มีลักษณะแบ่งแยกนิกาย ก่อนที่กองกำลังดังกล่าวจะกราดยิงสุ่มไปยังอาคารที่พักอาศัย ส่งผลให้สมาชิกครอบครัวของอาของเธอ 4 คนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ
หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มติดอาวุธอีกกลุ่มซึ่งมีสมาชิก 5 คน ได้บุกเข้าไปในอาคารและปล้นทรัพย์สินทั้งหมด รวมถึงเงิน ทอง โทรศัพท์มือถือ และรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณอาคาร ก่อนจะกราดยิงใส่รถยนต์คันอื่นที่อยู่ใกล้เคียง
การสังหารหมู่ในหลายพื้นที่ของซีเรีย
ในอีกฟากหนึ่งของย่านอัลกูซูร์ เมืองบานิยาส แหล่งข่าวยืนยันกับ Al-Akhbar ว่ากองกำลังความมั่นคงได้สังหารหมู่ครอบครัวของ ดร. บัสซาม ซุบห์ ภรรยาของเขา ดร. รูบา อัล-ชีค และลูกชายทั้งสองคน ไฮดารา และ วาร์ด ซึ่งเป็นนักศึกษาแพทย์ อีกทั้งมีรายงานว่าครอบครัวของ อิซซา นัซฮะ และลูกชายของเขา ดร. อิบราฮิม รวมถึงลูกสาวสองคน ฮาซาร์ และ นูร์ วัย 20 ปี ก็ถูกสังหารเช่นกัน
ขณะเดียวกัน “ศูนย์สังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย” (SOHR) รายงานว่ามีการสังหารหมู่พลเรือน 90 ราย ใน 3 พื้นที่ของซีเรีย โดยมีการดำเนินการ “ประหารชีวิตภาคสนาม” ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นการใช้ความรุนแรงเชิงนิกายที่คุกคามความสงบภายในประเทศ
การกำจัดเป้าหมายเชิงชาติพันธุ์และศาสนา?
แหล่งข่าวในพื้นที่มองว่าปฏิบัติการทางทหารที่อ้างว่าเป็นการ “กวาดล้างกลุ่มติดอาวุธของระบอบอัสซาด” อาจเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อดำเนินการ “กวาดล้างทางชาติพันธุ์” ต่อชาวอะลาวี ซึ่งเป็นกลุ่มชนที่ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนระบอบเดิม แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งโดยตรงก็ตาม แหล่งข่าวรายหนึ่งตั้งคำถามว่า “ชาวอะลาวีต้องจ่ายค่าชีวิตเพียงเพราะเกิดมาเป็นอะลาวี ในภูมิภาคที่ชื่อว่าชายฝั่งซีเรียหรือ?”
มีรายงานเพิ่มเติมว่าเหตุการณ์สังหารหมู่ยังเกิดขึ้นในพื้นที่ชนบทของจังหวัดลาตาเกีย โดยเฉพาะในหมู่บ้านมุคทาริยะ, อัล-ฮัฟฟะ และอัล-กุโบ ซึ่งทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก
การสังหารผู้นำศาสนาและผลกระทบทางสังคม
ขณะเดียวกัน “สภาอิสลามอะลาวีสูงสุดในซีเรียและพลัดถิ่น” แถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของ เชค ชะอ์บาน มานซูร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักการศาสนาอะลาวีที่มีชื่อเสียง หลังจากที่เขาและบุตรชายถูกจับกุมในวันศุกร์ ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นของซีเรีย
นอกจากนี้ มีการเผยแพร่วิดีโอบนโซเชียลมีเดียที่แสดงให้เห็นภาพศพของชายหนุ่มและผู้สูงอายุที่ถูกสังหาร และถูกทิ้งไว้บนท้องถนน
สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่าความขัดแย้งในซีเรียอาจกำลังเข้าสู่ช่วงใหม่ที่เต็มไปด้วยการสังหารหมู่และการกวาดล้างทางชาติพันธุ์ ซึ่งอาจทำให้วิกฤติภายในประเทศยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
กองบก.เอบีนิวส์ทูเดย์
แปลและเรียบเรียงจากอัลอัคบาร์