อัลมานาร์/อัลอัคบาร์ (18 ก.ย.) — เชค อะลี ดะอ์มูช ประธานคณะกรรมการบริหารของฮิซบุลเลาะห์ ยืนยันว่าไม่มีใครสามารถปลดอาวุธฝ่ายต่อต้านได้ พร้อมเตือนรัฐบาลไม่ให้ลากกองทัพเข้าสู่การเผชิญหน้ากับขบวนการ ย้ำว่าฮิซบุลเลาะห์ยังคง “เปิดกว้างต่อการสนทนาและการเจรจา”
ในการปราศรัยต่อหน้ากลุ่มนักวิชาการศาสนาในกรุงเบรุต ดะอ์มูชกล่าวว่า “ผู้ที่คาดหวังว่าการต่อต้านจะยอมจำนนต่อแรงกดดันและการข่มขู่ย่อมเป็นเพียงความเพ้อฝัน และผู้ที่เชื่อว่าการต่อต้านอ่อนแอลงย่อมเพ้อฝันยิ่งกว่า” พร้อมเตือนรัฐบาลว่าอย่าพยายามดึงกองทัพเข้าสู่การปะทะกับประชาชนของตนเอง โดยหน้าที่ของกองทัพคือ “รับมือการรุกราน รักษาสันติภาพภายใน และสร้างเสถียรภาพ ไม่ใช่เผชิญหน้ากับชาวเลบานอน”
ดะอ์มูชย้ำว่า “ทางออกเดียวคือการเจรจาระดับชาติว่าด้วยยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ” และฮิซบุลเลาะห์เปิดกว้างต่อการพูดคุย แต่เขายืนยันว่า “ข้อเสนอใดก็ตามที่นำไปสู่การปลดอาวุธและทำให้เลบานอนสูญเสียปัจจัยแห่งพลัง เราจะไม่ยอมรับ และเล่ห์เหลี่ยมใดๆ ในเรื่องอาวุธจะไม่สามารถหลอกใครได้”
เขายังชี้ว่า “การรุกรานของสหรัฐฯ ต่อเลบานอนและภูมิภาคเป็นหลักฐานยืนยันว่าการต่อต้านคือความจำเป็นในเชิงชาติ” พร้อมประกาศว่า “เราจะไม่ยอมให้ใครพรากเอาพลังและแนวป้องกันสำคัญที่สุดของเราและของเลบานอนไป เพียงเพื่อปรนเปรอสหรัฐฯ และอิสราเอล และเราจะไม่ยอมให้เลบานอนกลายเป็นรัฐที่อ่อนแอ ถูกคุกคามได้ง่ายจากทั้งภายในและภายนอก”
ประธานคณะกรรมการบริหารฮิซบุลเลาะห์ยังระบุว่า ความแข็งแกร่งและความยืนหยัดของ “แนวร่วมการต่อต้านและพันธมิตรระดับชาติ” รวมถึงการสนับสนุนอาวุธจากฐานมวลชน ทำให้รัฐบาลต้องชะลอความพยายามทำลายประเทศ โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลหลงเชื่อมายาคติที่สหรัฐฯ และอิสราเอลปลูกฝัง ว่าการต่อต้านอ่อนแอลง และสามารถถูกบังคับยอมจำนนได้ผ่านมติ การกดดัน การโจมตี และการขู่ทำสงครามทำลายล้าง