ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับการกระแพร่ระบาดของไวรัสมรณะโคโรน่า และอีกหลายประเทศก็กำลังเผชิญกับปัญหาอื่น ๆเช่นกัน แต่กลับมีรัฐบาลบางประเทศ กำลังแสดงพฤติกรรมที่น่ารังกียจกับทฤษฎีการสมรู้ร่วมคิด
ฮิซบุลเลาะห์เลบานอนเป็นกลุ่มการเมืองและปีกหนึ่งของกองกำลังติดอาวุธในประเทศนี้ ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลเลบานอนและประชาชนชาวเลบานอน ฮิซบุลเลาะห์สามารถสร้างกำแพงป้องกันการคุกคามทางทหารของอิสราเอลตลอดประวัติศาสตร์หลังจากการจัดตั้งขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีบทบาทที่สำคัญยิ่งในสถานการณ์พิเศษที่สร้างขึ้นโดยการแพร่กระจายของกลุ่มก่อการร้ายวะฮาบีตักฟีรีย์ในภูมิภาค
แม้ว่าฮิซบุลเลาะห์เลบานอนจะได้รับการสนับสนุนจากสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน แต่ก็เป็นองค์กรที่มีความอิสระในการกำหนดนโยบายและเป็นองค์กรที่ถูกกฎหมายอย่างเป็นทางการในประเทศเลบานอน ด้วยกับอุดมการณ์ แนวทางทางการเมืองและศาสนาขององค์กร ที่เป็นไปในรูปแบบเดียวกันกับสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ได้นำไปสู่การขยายความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง และแน่นอนที่สุดมันเกิดปฏิกิริยาด้านลบให้เห็นอยู่เสมอมาจากระบอบยิวไซออนิสต์ สหรัฐอเมริกา ซาอุดิอาระเบียและแม้แต่รัฐบาลตะวันตกบางชาติ
ฮิซบุลเลาะห์เลบานอน นอกจากจะเป็นแนวหน้าของการต่อสู้กับระบอบยิวไซออนิสต์แล้ว ยังมีบทบาทสำคัญในการทำลายกลุ่มก่อการร้าย ISIS ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากสหรัฐอเมริกา ซาอุดิอาระเบียและยิวไซออนิสต์
นอกเหนือจากการปกป้องและพิทักษ์เลบานอนแล้ว ฮิซบุลเลาะห์ก็ยังมีการดำเนินภารกิจอื่น ๆอีกมากมาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าองค์กรมีภารกิจที่หลากหลายในการให้บริการกับประชาชนในประเทศนี้
ปัจจุบันเลบานอนอยู่ในสถานการณ์การประท้วงเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ และรากเหง้าของการประท้วงเหล่านี้ก็เกิดมาจากการยั่วยุของตัวแทนจากต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและซาอุดิอาระเบีย ในสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดจากไวรัสโคโรนาในประเทศ ทางฮิซบุลเลาะห์ได้นำความสามารถมาสู่ระดับแนวหน้าในการต่อสู้กับโคโรนาและสามารถช่วยเหลือรัฐบาลเลบานอนและประชาชนโดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างทางศาสนาหรือความไม่ลงรอยทางการเมือง
ทั้งนี้ ฮิซบุลเลาะห์เลบานอน ถูกสหรัฐอเมริกาขึ้นบัญชีกลุ่มก่อการร้ายมานานแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกาเองก็เป็นแกนหลักที่สำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนองค์กรก่อการร้าย และเช่นกันระบอบการปกครองยิวไซออนิสต์และซาอุดิอาระเบียก็เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับสหรัฐอเมริกา
การแสดงความพึงพอใจของซาอุดิอาระเบียต่อการเคลื่อนไหวของรัฐบาลเยอรมันที่ประกาศให้ฮิซบุลเลาะห์เลบานอนเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายนั้น มันเป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นถึงความถูกต้องตามกฎหมายขององค์กรฮิซบุลเลาะห์ เนื่องจากการดำเนินการของฮิซบุลเลาะห์เลบานอนสามารถทำให้แผนการสมรู้ร่วมคิดหลายๆอย่างของซาอุดิอาระเบียในซีเรียและเลบานอนล้มเหลว และสามารถสกัดกั้นการแทรกแซงและการปลุกระดมของระบอบการปกครองของซาอุดีอาระเบียในภูมิภาคอีกด้วย
ระบอบยิวไซออนิสต์พอใจกับการกระทำของรัฐบาลเยอรมัน เป็นเรื่องปกติ เพราะฮิซบุลเลาะห์เลบานอนเป็นศัตรูหลักของระบอบไซออนิสต์ และยังไม่มีปฏิกิริยาอื่นใดอีกนอกจากนี้ที่ถูกแสดงออกมาโดยระบอบการปกครองยิวไซออนิสต์ ทั้งนี้รัฐบาลเยอรมันได้ดำเนินการตามเป้าหมายของระบอบการปกครองยิวไซออนิสต์และสหรัฐอเมริกา ด้วยการจัด “ฮิซบุลเลาะห์เลบานอน” เป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งการกระทำเช่นนี้ไม่อาจถือได้ว่ามันเป็นความต้องการของรัฐบาลแมร์เคิล( Merkel) แต่น่าจะมาจากแรงกดดันอย่างหนักจากสหรัฐอเมริกาและระบอบการปกครองยิวไซออนิสต์ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจดังกล่าว และการตัดสินใจครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาล แมร์เคิล แห่งเยอรมนี มีความอ่อนแอในความเป็นอิสระทางการเมือง
เราไม่อาจที่จะเพิกเฉย ปฏิเสธสถานะและบทบาทสำคัญของฮิซบุลเลาะห์เลบานอนในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายในภูมิภาคโดยเฉพาะกลุ่มก่อการร้าย ISIS ได้ ?! ยุโรปเป็นหนี้บุญคุณ ฮิซบุลเลาะห์เลบานอน เพราะหากพวกเขาไม่ได้เข้าไปในซีเรีย กลุ่มก่อการร้ายก็จะสามารถยึดอำนาจได้ทั้งในซีเรียและอิรัก และจากนั้นก็จะก่อความไม่สงบไปสู่ยุโรป เหมือนกับการกระทำของผู้ก่อการร้ายจำนวนหนึ่งที่เกิดขึ้นในบางประเทศในยุโรป แต่ตอนนี้ ISIS อ่อนแอลงในภูมิภาค การปฏิบัติการของผู้ก่อการร้ายก็ไม่ค่อยได้เกิดขึ้นในประเทศยุโรป
เป็นที่ชัดเจนว่า การตัดสินใจของรัฐบาลเยอรมันที่ประกาศให้ฮิซบุลเลาะห์เลบานอนเป็นผู้ก่อการร้าย ไม่เพียงแต่พลังขององค์กรฮิซบุลเลาะห์ จะไม่ถูกลดทอนลง แต่มันกลับยิ่งกล้าแข็งขึ้น และยังแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอในด้านนโยบายและยุทธวิธีที่หลากหลายของประเทศตะวันตกในการรับมือกับการก่อการร้ายต่อสายตาประชาคมโลก
source: akharinkhabar