5 ข้อเท็จจริง ที่คุณควรรู้เกี่ยวกับชาวผิวดำในอเมริกา

3887

สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติของประชากรมากที่สุดประเทศหนึ่ง และสัดส่วนของประชากรคนผิวสีในสหรัฐอเมริกาเองก็มีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหกทศวรรษที่ผ่านมา โดยทางศูนย์วิจัย Pew ได้รายงานเกี่ยวกับห้าข้อเท็จจริง ที่คุณควรรู้เกี่ยวกับประชากรชาวอเมริกัน

คนอเมริกันผิวสีในสหรัฐอเมริกามีมากกว่า 40 ล้านคนซึ่งคิดเป็นประมาณ 13 เปอร์เซ็นต์ของประชากรสหรัฐฯ ทั้งหมด ตามสถิติคนผิวดำในสหรัฐอเมริกามีการเติบโตอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในช่วงหกทศวรรษที่ผ่านมาและทางสถาบันศูนย์วิจัย Pew Research Center ได้รายงานห้าประเด็นทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับประชากรอเมริกันดังนี้

1. ช่องว่างทางการศึกษาระหว่างคนผิวดำและคนผิวขาวในสหรัฐอเมริกา

เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อเมริกา  ที่ 90% ของผู้ที่มีอายุ 25  ปีขึ้นไป สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย และสัดส่วนของนักเรียนผิวดำก็มีความสำคัญเช่นกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว 90%   ของพลเมืองทั้งหมดและ 78 เปอร์เซ็นต์ของประชากรผิวดำทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไปได้รับวุฒิการศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า

อย่างไรก็ตามร้อยละของคนผิวขาวอเมริกัน (เชื้อสายยุโรป) ที่สำเร็จการศึกษาในโรงเรียนระดับมัธยมอย่างสมบูรณ์มากกว่าร้อยละ 94  ดังนั้นแม้ว่าช่องว่างทางการศึกษาระหว่างคนผิวดำและคนผิวขาวในสหรัฐอเมริกายังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเทียบกับปีที่แล้วถือว่าลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ในปี 1993  การศึกษาในระดับมัธยมศึกษา มีช่องว่างการศึกษาระหว่างคนผิวขาวและคนผิวดำเป็นเกือบร้อยละ 14     และคนผิวดำที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ที่มีการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโทในมหาวิทยาลัยอเมริกัน จากร้อยละ 12 ในปี 1993  เพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 24 จากประชากรชาวผิวดำในปี 2017

2. คนผิวดำอพยพเพิ่มขึ้นห้าเท่า

การอพยพเข้าเมืองเป็นหนึ่งในเสาหลักของการเติบโตของประชากรในอเมริกา จนถึงปี 2010 มีเพียง 816,000 คน  ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาในฐานะผู้อพยพ(ไม่ใช่พลเมือง) แต่ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโดยมีผู้อพยพผิวดำมากกว่า 4.2 ล้านคนอาศัยและทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกา

เพียงแค่ในปี 2,000   อัตราการอพยพเข้าเมืองไปยังสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นร้อยละ 71   เมื่อเทียบกับปีก่อนนั้น โดยมีสัดส่วนของผู้อพยพชาวแอฟริกาคิดเป็นประมาณ 39%   อย่างไรก็ตามผู้อพยพผิวดำส่วนใหญ่ที่เข้ามาในสหรัฐฯยังคงเป็นของประเทศแถบแคริบเบียนในอเมริกากลางคิดเป็นประมาณ 49 เปอร์เซ็นต์ของผู้อพยพผิวดำทั้งหมด

3. ช่องว่างทางเศรษฐกิจ  มีความต่างสิบเท่าตัวในรายได้ระหว่างครอบครัวคนผิวขาวและผิวดำ

ในปี 2016  รายได้ต่อหัวของครอบครัวชาวยุโรปผิวขาวอยู่ที่ 171,000 ดอลลาร์และสำหรับครอบครัวชาวผิวดำมีรายได้แค่ 17,000 ดอลลาร์ต่อปี  ซึ่งมีความแตกต่าง สิบเท่าตัว ซึ่งความแตกต่างครั้งประวัติการณ์ระหว่างรายได้นี้นับจากปี 2007 เป็นต้นไป  ซึ่งสิ่งนี้มันสะท้อนให้เห็นถึงการแบ่งแยกและช่องว่างทางเศรษฐกิจที่ลึกซึ้งระหว่างครอบครัวชาวผิวดำและครอบครัวชาวยุโรปผิวขาวในอเมริกา และภาวะถดถอยและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปี 2007-2009  นำไปสู่ความยากจนของชนชั้นกลางและการแบ่งช่องว่างระหว่างชนชั้นในสหรัฐอเมริกาและการแบ่งชนชั้นระหว่างชาวผิวดำและผิวขาวนั้นสามารถเห็นได้จนถึงวันนี้

4. การเหยียดเชื้อชาติที่เพิ่มขึ้นต่อคนอเมริกันผิวดำในสหรัฐอเมริกา

ตั้งแต่ปี 2009  ซึ่งเป็นปีแรกที่โอบามาเข้าทำเนียบขาว แนวโน้มการเหยียดเชื้อชาติที่ดีกว่าด้านสีผิวในอเมริกาได้เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ปัญหาที่เพิ่มขึ้นของการเหยียดสีผิวต่อพลเมืองผิวดำในอเมริกาเมื่อเทียบกับประชาชนคนอื่น ๆ เห็นได้ชัดมากขึ้น  โดยในปี 2017 แปดคนจาก 10 คน  หรือคิดเป็นอัตราประมาณร้อยละ 80  มีการเหยียดสีผิวต่อคนผิวดำและแนวโน้มการแบ่งชนชั้นยังถือเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมในอเมริกา

เรื่องนี้หากมีการเปรียบเทียบเมื่อแปดปีก่อนมันจะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าตัว  เนื่องจากก่อนหน้านี้ร้อยละ 44  ของคนผิวดำระบุว่ามีการเหยียดสีผิวในสหรัฐอเมริกาและถือเป็นปัญหาของพวกเขาในสหรัฐอเมริกา  ในการเปรียบเทียบอย่างไรก็ตามมีเพียงครึ่งหนึ่งของคนผิวขาว หรือร้อยละ 54  เชื่อว่ามีการเหยียดสีผิวจริงในสหรัฐอเมริกา ในปี2009   ร้อยละ 22 ของคนผิวขาวในอเมริกาที่ประกาศว่าการเหยียดเชื้อชาตินั้นเป็นปัญหาสังคม นี่แสดงให้เห็นว่าคนผิวดำเกือบ 80  เปอร์เซ็นต์ประสบปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ แต่เรื่องนี้สำหรับคนผิวขาวให้ความสำคัญในการถกเถียงเพียงแค่   50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

5. โอกาสที่ไม่เท่าเทียมของคนผิวดำในอเมริกา  

คนผิวดำและคนผิวขาวชาวอเมริกันมองว่าการกระจายตัวของโอกาสทางสังคมและผลประโยชน์ในสังคมมีความแตกต่างกัน  ร้อยละ 68 ของคนผิวดำเชื่อว่าคนผิวขาวมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมในสังคมมากกว่าคนผิวดำ และในขณะที่คนผิวขาวเพียง 16  เท่านั้นที่เชื่อในการกระจายสิ่งอำนวยความสะดวกทางสังคมที่ไม่เท่าเทียมกันระหว่างคนผิวขาวและคนผิวดำ

ที่น่าสนใจไปกว่านั้น  มากกว่าครึ่งของคนผิวดำเชื่อว่าทรัมป์มีการวางแผนงานเฉพาะสำหรับกลุ่มคนผิวขาวเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่คนผิวขาวส่วนใหญ่เชื่อว่าในยุคของทรัมป์มีความยุติธรรมได้รับการกระจายงานสู่สังคม

source: https://iuvmpress.com