“กาตาร์ – อิหร่าน – ตุรกี”  พันธมิตรใหม่ที่น่าจับตามองในภูมิภาค

819

พันธมิตรใหม่ที่จัดตั้งขึ้นโดยกาตาร์ ตุรกีและอิหร่าน โดยได้รับการสนับสนุนเป็นนัยจากรัสเซียและจีนทำให้สหรัฐฯ อิสราเอล และซาอุดิอาระเบียเกิดความกังวลอย่างมาก 

ผลที่ตามมาของการทำสงครามแปดกว่าปีในประเทศซีเรีย ได้เปลี่ยนแปลงพลวัตระดับภูมิภาคในลักษณะที่สหรัฐฯ และพันธมิตรไม่เคยจินตนาการมาก่อน 

สำนักข่าว อาร์ที เผยว่า เอกสารที่เปิดเผยแสดงให้เห็นว่าเป้าหมายชั่วคราวของวอชิงตันในซีเรียเพื่อสร้างความไร้เสถียรภาพในการบริหารงานของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด และมีความคาดหวังว่าจะลดอิทธิพลของอิหร่านในภูมิภาค

เป้าหมายโดยรวมและระยะยาวของสหรัฐอเมริกาคือการเปลี่ยนแปลงของระบอบในซีเรียซึ่งจะไม่มีวันเกิดขึ้น 

แน่นอนว่ากลยุทธ์การต่อต้านอัสซาดได้มาถึงจุดที่ว่า กองกำลังที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่านถูกส่งไปประจำการที่ชายแดนซีเรียและดินแดนที่ถูกยึดครอง ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อพันธมิตรหลักของวอชิงตันในภูมิภาค

หลังจากแปดปีของสงครามในซีเรีย ตอนนี้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งอีกครั้งในหมู่พันธมิตรระดับภูมิภาค ที่ทำให้พันธมิตรที่เก่าแก่และยาวนานของวอชิงตันโดยเฉพาะซาอุดิอาระเบียต้องสั่นคลอน 

ปัจจุบัน กาตาร์ อิหร่านและตุรกี กำลังรวมตัวกันในระดับภูมิภาค ซึ่งเกิดจากความตึงเครียดที่ก่อขึ้นโดยซาอุดิอาระเบียและรัฐอ่าวอื่น ๆ และในเรื่องนี้พวกเขาต้องโทษตนเองเท่านั้น  

หลังจากซาอุดิอาระเบียเป็นผู้นำแห่งพันธมิตรของรัฐอ่าวได้กดดันและคว่ำบาตรกาตาร์ในเดือนมิถุนายน 2017  โดฮาได้ตระหนักในทันทีว่าเขาสามารถพึ่งพาพันธมิตรหลักบางประเทศเพื่อต่อต้านมรสุมของกลุ่มพันธมิตรซาอุดิอาระเบีย 

พันธมิตรเหล่านี้กำลังเปิดเผยการรวมตัวกันใหม่อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะเป็นการลดความสมดุลของอำนาจในตะวันออกกลาง

เมื่อเราดูจุดยืนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงของแต่ละประเทศที่มีต่อซีเรียในช่วงแปดปีที่ผ่านมา  เราสามารถเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าพลังและอำนาจแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ประกอบขึ้นเป็นแกนและพันธมิตรนี้มีความน่าสนใจและน่าติดตามเป็นอย่างมาก 

เมื่อซาอุดิอาระเบียปิดกั้นพรมแดนทางบกเพียงแห่งเดียวของกาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ปิดกั้นการขนส่งจากท่าเรือไปยังโดฮา  กาตาร์ได้เข้าหาโอมาน ตุรกีและอิหร่านทันทีเพื่อเลี่ยงการถูกปิดล้อมและคว่ำบาตร

เที่ยวบินของกาตาร์เริ่มต้นเส้นทางใหม่ในน่านฟ้าของอิหร่าน และตุรกีใช้ประโยชน์จากสถานะทางทหารของตนปรากฏตัวในกาตาร์อันเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและความมุ่งมั่นต่อพันธะสัญญาต่อกาตาร์ 

ในที่สุด วิถีชีวิตประจำวันของกาตาร์ก็กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่ากาตาร์ไม่ได้ประสบปัญหา  แต่ได้ประสบกับเป็นปัญหาอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องราคาน้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยวและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดลง เป็นแต่แล้วหลังจากนั้นเขาก็สามารถใช้เงินสำรองของเขาอีกครั้งเพื่อต่อต้านผลกระทบจากการคว่ำบาตรและลดความเสียหายให้กับเพื่อนบ้านของเขาได้พอสมควร 

ในช่วงท้ายปี 2017  ตุรกี อิหร่านและปากีสถานได้เพิ่มการค้าทวิภาคีกับกาตาร์และทั้งสี่ได้รับประโยชน์จากความสัมพันธ์นี้ ในเวลาน้อยกว่าหกเดือนนับตั้งแต่เกิดวิกฤตกาตาร์ การค้าระหว่างอิหร่านและกาตาร์เพิ่มขึ้น 117%   ในเวลานั้นผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศจะดำเนินต่อไปอีกแม้หลังจากวิกฤติกาตาร์ภายใต้การนำของซาอุดิอาระเบียได้สิ้นสุดลง 

ความสัมพันธ์นี้ได้ก่อให้เกิดความกังวลอย่างมากสำหรับซาอุดิอาระเบียและสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนในสื่อ “อัลอาราบีย่า” ของซาอุดิอาระเบีย

อัล – อาราบีย่าเขียนบทความในหัวข้อ “อิหร่าน ตุรกีและกาตาร์ ทำลายความมั่นคงในภูมิภาคและผลประโยชน์ของสหรัฐฯ” และกลว่าเสริมว่าการออกห่างของกาตาร์จากแกนอาหรับ มันเป็นอันตรายที่ยิ่งใหญ่และเป็นภัยคุกคามที่อันตรายสำหรับซาอุดิอาระเบีย เอมิเรสต์ และบาห์เรน 

บทความดังกล่าวยังได้เขียนอีกว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและกาตาร์ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกปกปิดนั้นมันได้รับการเปิดเผยให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว และโดฮาได้เข้าร่วมกับอังการาและเตหะรานในการรวมเป็นพันธมิตรใหม่ต่อต้านซาอุดิอาระเบีย” 

อัลอาราบีย่า เขียนเสริมอีกว่า : “กาตาร์ได้นำตัวเองเข้าร่วมกับพันธมิตรระดับภูมิภาค ที่มีเป้าหมายเพื่อการบรรลุสู่อำนาจทางการเมืองอันสูงสุดโดยการสร้างความไร้เสถียรภาพในภูมิภาค”

สื่อของซาอุดิอาระเบียได้เขียนประโยคท้ายด้วยความโกรธและความกังวลอย่างแท้จริงว่า “กาตาร์กำลังเล่นอยู่กับไฟ” 

 

http://www.shabestan.ir/detail/News/775074