ถอดสัญลักษณ์ลึกลับ MV เพลงดังซุป’ตาร์ Taylor Swift -สะท้อนด้านมืดอุตสาหกรรมเพลงสากล

2480

เพลงดังล่าสุดในปี 2017 ของ นักร้องซุปเปอร์สตาร์สาว เทเลอร์ สวิฟต์ อย่างเพลง Look What You Made Me Do ว่ากันว่า เป็นเพลงที่บอกเล่า พร้อมประชด ประชันชีวิตในอดีตของเธอเอง อย่างไรก็ดี สิ่งที่เป็นที่สังเกตได้จาก MV เพลงดังกล่าว คือ สัญลักษณ์ต่างๆมากมาย ที่ปรากฏอยู่อย่างโจ่งแจ้ง

โดยหากเราลองนำเอาสัญลักษณ์เหล่านั้นมาพิจารณา เปรียบเทียบจากความรู้เกี่ยวกับศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง เราจะพบว่า สัญลักษณ์เหล่านั้นได้สะท้อนให้เห็นถึงด้านมืด และความมุ่งมั่นในการควบคุมความคิดของประชาชน โดยมือที่อยู่หลังม่านวงการบันเทิงและอุตสาหกรรมเพลงระดับสากล

อย่างไรก็ดี ซุปเปอร์สตาร์สาวเทเลอร์ สวิฟต์ เองก็ไม่ใช่ผู้เล่นคนใหม่ หรือตัวละครใหม่ของเกมการเมืองนี้ ย้อนกลับไปในปี 2009 สาวเทย์เลอร์เคยปรากฏความเกี่ยวเนื่อง เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมด้านมืดเกี่ยวกับอุตสาหกรรมบันเทิง มันเป็นขั้นตอนเมื่อศิลปินสาวริเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง ภายหลังที่เธอถูกแดกดันด้านความสามารถ โดยนักร้องชื่อดัง คานเย เวสต์ (Kanye West) ระหว่างพิธีกล่าวสุนทรพจน์กลางเวทีในงานมอบรางวัลประจำปีให้กับมิวสิกวิดีโอ (VMAs) ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว เทย์เลอร์ได้ฟื้นกลับเข้าสู่ความภาคภูมิใจอีกครั้ง โดยการปรากฎตนด้วยชุดเดรสสีแดงอย่างมีนัยสำคัญ ในฐานะนักร้องสาวคนใหม่ ผู้มีชื่อเสียง และพร้อมถวายตัวให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ นี่คือช่วงที่ผลงานในวงการของเทเลอร์ เริ่มถูกแต่งแต้ม และสอดแทรกไปด้วยรหัสลับ โปรแกรม และสัญลักษณ์ต่างๆของกลุ่มคนชนชั้นสูง (องค์กรลับอิลลูมินาติ)

8 ปีต่อมา ในงานมอบรางวัล VMAs ประจำปี 2017 เทเลอร์ เปิดตัววิดีโอใหม่ของเธอ Look What You Made Me Do  (ที่ถูกเรียกกันว่า LWYMMD ใน Twitter) แน่นอนว่า เนื้อหาของวิดีโอมันชัดเจนมาก ไม่มีอะไรที่ MV ตัวนี้ ต้องการสื่อ นอกจากการชี้ว่า ตอนนี้เธอเป็นทาสของอุตสาหกรรมอย่างเต็มตัวแล้ว

แหล่งข้อมูลสื่อมวลชนส่วนใหญ่ ที่พยายามจะถอดรหัสวิดีโอนี้  มักจะอธิบายว่า วิดิโอดังกล่าวมีความเกี่ยวเนื่องกับ เรื่องดราม่า ที่ศิลปินสาว เคยมีปัญหากับศิลปินคนอื่นๆ ในวงการ อย่างเช่น กับ คานเย เวสต์  (Kanye West) คิม คาเดเชียน (Kim Kardashian) อดีตเพื่อนรู้ใจ ศิลปินเคธี เพอร์รี่ (Katy Perry) และแฟนเก่าของเธอเอง นั่นคือ เคลวิน แฮริส (Calvin Harris)

อย่างไรก็ตาม การอภิปรายในประเด็นที่ว่านี้เพียงประการเดียว อาจทำให้พวกนักเขียนต้องละเลยภาพและเนื้อหาที่สำคัญอื่นๆของวิดีโอไปเกือบประมาณ 90% เพราะความจริงแล้ว เมื่อลองพิจารณารายละเอียดต่างๆ เราย่อมต้องรู้สึกได้ว่ามันมีเรื่องอื่นๆซุกซ่อนอยู่ในวิดิโอชิ้นนี้มากกว่าแค่เรื่องซุบซิบดารา อย่างไม่ต้องสงสัย

บรรดากลุ่มคนที่มีอิทธิพลเหนืออุตสาหกรรมบันเทิง จำเป็นต้องกำหนดวัฒนธรรมอำมาตย์ในรูปแบบนี้ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และวางมันอยู่ ณ ส่วนหน้าของวัฒนธรรมประชานิยม เพื่อควบคุมจิตใจและชี้นำความคิดของผู้คน ขณะที่ตอนนี้ คือเวลาอันสมควร สำหรับการนำเอา ศิลปินผู้มีชื่อเสียง และมากความสามารถ อย่าง เทเลอร์ สวิฟต์ ออกมาใช้ ในฐานะเครื่องมือมอมเมาประชาชนอย่างเต็มกำลัง ด้วยกับมิวสิควิดีโอที่กำลังถล่มทลายสถิติการเข้าชมของ YouTube และ Spotify

มิวสิควิดิโอเพลง Look What You Made Me Do  แสดงความชัดเจนตรงนี้อย่างเป็นที่สังเกตได้ มันเป็นเสมือนแถลงการณ์เปิดตัวบทบาทใหม่ที่เทเลอร์ได้รับการสถาปนาจากกลุ่มชนชั้นสูง หรือ ระบบอำนาจนี้อย่างเป็นทางการนั่นเอง

โดยเป้าหมายหลักของระบบอำนาจนี้ คือ การแสดงภาพ แผนการ หรือ โปรแกรมควบคุมบรรดาทาส ให้มีหลากหลายบุคลิกภาพ ที่ตนสามารถเรียกใช้ได้ตามต้องการ เรียกกันว่า Beta Programming (Sex Kitten programming – โปรแกรมทาสทางเพศ หรือโปรแกรมแมวเหมียวยั่วสวาท) เป็นโปรแกรมควบคุมจิตใจ ที่ถูกนำใช้ เพื่อสร้าง และส่งเสริมทาสทางเพศ สำหรับสนับสนุนการค้ามนุษย์ในโลกใต้ดินของกลุ่มชนชั้นสูง

หากเราสังเกต เราจะพบว่า อุตสาหกรรมบันเทิงล้วนถูกเติมให้เต็มไปด้วยสัญลักษณ์แมวเหมียวของโปรแกรม Beta Kitten ดังกล่าว ในกรณีนี้ กลุ่มชนชั้นสูงได้นำเสนอแนวความคิดการค้ามนุษย์ผ่านสื่อมวลชน โดยใช้ความนิยมของ ศิลปินสาวเทย์เลอร์ สวิฟท์ เป็นเครื่องมือ

They Made Her Do It พวกเขาให้เธอทำมัน

เพื่อให้เข้าใจถึงสภาวะทางความคิด หรือแนวความคิด อันเป็นเนื้อแท้เบื้องหลังมิวสิควิดีโอดังกล่าว เราแทบไม่จำเป็นต้องมองไกลเกินกว่าชื่อเพลงของมันเอง ซึ่งมันมีชื่อว่า  “ดูสิว่าเธอบังคับให้ฉันต้องทำอะไร” (Look What You Made Me Do)

ผู้ควบคุมอุตสาหกรรมเป็น “เจ้าของ”  ศิลปินสาว – เทย์เลอร์ สวิฟต์ คือ ทรัพย์สินและกรรมสิทธิ์ของพวกเขา และพวกเขาก็บีบให้เธอทำทุกอย่างที่จำเป็น เพื่อผลักดันแผนการต่างๆ

มิวสิควิดีโอ ได้สาธยายในเชิงสัญลักษณ์ ให้เรามองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหล่าดารา ที่หลงเข้าไปในระดับที่สูงขึ้นของวงการมายา โดยแม้ว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จอย่างบ้าคลั่ง แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็กลายเป็นทาสของอุตสาหกรรม ที่ปราศจากชีวิตที่เป็นอิสระของตัวเอง ทั้งเสียง ภาพ และแม้กระทั่งบุคลิกของพวกเขาต่างถูกเป็นกรรมสิทธิ์และถูกชักใยโดยมือที่อยู่หลังม่าน

วิดีโอนี้ไม่เพียง แต่แสดงให้เห็นภาพเทย์เลอร์ ในฐานะทาสของอุตสาหกรรม แต่มันยังได้ประกาศว่า เธอได้รับการ “เลื่อนขั้น” ขึ้นไปสู่สถานะของนักบวชขั้นสูง ให้แก่ลัทธิ หรือองค์กรลับของกลุ่มชนชั้นสูงดังที่ว่ามานี้  มันอาจจะฟังดูน่าขัน บางที มันก็คงจะเป็นเรื่องไร้สาระ หากวิดิโอไม่ได้แสดงถึงสิ่งนี้อย่างโจ่งแจ้ง

The Video – วิดิโอ

วิดีโอเริ่มต้นด้วยภาพ ซอมบี้สาวเทย์เลอร์ สวิฟท์ กำลังฟื้นขึ้นจากความตาย ผีดิบ ซอมบี้สวิฟต์ ฟื้นขึ้นจากหลุมฝังศพ และเริ่มร้องเพลงเกี่ยวกับคนบางคนที่เธอไม่ชอบ

I don’t like your little games ฉันไม่ชอบเกมโกงจุกจิกของเธอ

Don’t like your tilted stage ไม่ชอบเวทีเอียงได้ของเธอหรอกนะ

The role you made me play และฉันก็ไม่ชอบบทบาทที่เธอยัดเหยียดให้ฉัน

Of the fool, no, I don’t like you บทบาทของคนโง่ ไม่ ฉันไม่ชอบเธอ

I don’t like your perfect crime ฉันไม่ชอบอาชญากรรมอันแสนสมบูรณ์แบบของเธอ

 How you laugh when you lie เวลาที่เธอหัวเราะ เมื่อเธอโกหก

You said the gun was mine เธอโยนว่า กระบอกปืนนั่นเป็นของฉัน

Isn’t cool, no, I don’t like you (oh!) มันไม่ดีเลย ฉันไม่ชอบเธอเลยจริงๆ

มีการอ้างว่า ประโยคแรกๆของบทเพลงนี้ เทย์เลอร์กำลังพูดถึงเรื่องดราม่าระหว่างเธอกับ ศิลปิน คานเย เวสต์ และ/หรือ เคธี เพอร์รี่ เพราะทั้งคู่ต่างเคยแสดงอยู่บนเวที ที่เอนเอียงได้ อย่างไรก็ดี หากเราลองพิจารณาเนื้อหาของวิดิโอ เราจะพบว่า เธออาจกำลังร้องเพลงเกี่ยวกับ ผู้ที่ควบคุมเธอ หรือ กลุ่มคนผู้ที่กำลัง “เล่นเกมจุกจิก” โดยใช้เธอเป็นหมากตัวหนึ่ง และยัดเหยียดเธอให้ยอมรับ “บทบาทที่พวกเขาบังคับให้เธอเล่น”

จากนั้น เราเห็นภาพ ผีดิบ เทย์เลอร์ กำลังฝังกลบเทย์เลอร์ในเวอชั่นก่อนหน้า

เทย์เลอร์คนเก่าตายลงแล้ว และกำลังถูกฝังกลบโดยเทย์เลอร์คนใหม่ นี่คือจินตภาพสุดแสนคลาสสิค ที่กลุ่มอำนาจมืด สร้างขึ้นเพื่อบ่งชี้ถึงการกำเนิดของบุคลิกภาพใหม่ของหุ่นเชิดของพวกเขา

ทั้งนี้ ภาพของศพเทย์เลอร์คนเก่า วางอยู่ข้างๆ บุคลิกภาพใหม่ ซึ่งกำลังนอนอยู่ในกองเพชร

เทย์เลอร์คนใหม่กำลังอยู่ในอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยเพชรนิลจินดามากมาย ข้างๆเธอมีธนบัตร 1 ดอลลาร์

ในโปรแกรมล้างสมอง MK เพชรถูกนำมาใช้เพื่อบ่งชี้ถึง แมวเหมียว (ทาสทางเพศ) ที่อยู่ในระดับที่เป็นที่น่าพอใจ จนสามารถถูกยกระดับให้อยู่ในฐานภาพที่สูงที่สุดได้ หากจะเทียบเพื่อให้เราเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น ในทัศนะของกลุ่มชนชั้นสูง สาวเทย์ ณ วันนี้ เป็นทาสที่ไปไกลถึงระดับ “ประธานาธิบดี” แล้วนั่นเอง

“ในการให้สัญญาณยอมรับ บรรดาทาสของเหล่าชนชั้นสูง (อำมาตย์) จะสวมใส่เพชร เพื่อบ่งชี้ว่า ตนอยู่ในระดับ ประธานาธิบดี พวกเขาจะใส่ทับทิม เพื่อเน้นว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Oz  เพื่อการค้าประเวณี และสวมมรกต เพื่อแสดงถึงโปรแกรมล้างสมอง เพื่อธุรกิจเกี่ยวกับยาเสพติด” – Fritz Springmeier เขียน จากหนังสือเกี่ยวกับสัญลักษณ์ต่างๆของกลุ่มอิลลูมินาติ (The Illuminati Symbolism to Create Mind Control Slaves)

ฉากต่อไป ได้นำเสนอ Taylor ในฐานะศิลปืนที่ได้รับการสถาปนาว่าเป็น “มหาปุโรหิต” ของอุตสาหกรรมบันเทิง โดยสัญลักษณ์ที่บ่งชี้ถึงสิ่งนี้ ก็คือ การสร้างฉากเหมือนกับภาพที่ปรากฏบนไพ่ทาโรต์

เราเห็นภาพศิลปินสวิฟต์ นั่งอยู่ระหว่างเสาทั้งสอง ขณะที่บรรดางูก็กำลังเลื้อยคลานขึ้นมาตามขั้นบันได

มหาปุโรหิต ที่ปรากฏอยู่บนไพ่ทาโรต์ แสดงภาพหญิงสาวนั่งอยู่ระหว่างเสาเมซอนิค (ลัทธิเมสัน) ที่มีชื่อว่า Joachin และ Boaz.

อย่างไรก็ดี เราสังเกตได้ว่า มีงูรายล้อมศิลปินสาวมากมายในมิวสิควิดิโอ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?

สื่อจากหลายสำนัก ล้วนเขียนวิเคราะห์ว่า งูพวกนี้ เชื่อมโยงกับ “งูพิษ” ที่ดาราคู่ปรับคนดัง อย่าง คิม คาร์เดเชียน เคยใช้เรียกเทย์ลอร์ออกสื่อโซเชียว มันก็อาจจะเป็นไปได้เช่นนัั้น แต่เมื่อเราลองพิจารณาบริบทลึกลับของฉากสุดแสนอลังการนี้ อีกเช่นเคย การปรากฏของงูมากมาย ย่อมต้องแสดงถึงแนวคิดที่ลึกซึ้งยิ่งไปกว่าการอ้างถึงเรื่องซุบซิบระหว่างศิลปินดารา

แน่นอน “งู” เป็นสัญลักษณ์ที่มีความสำคัญอีกประการหนึ่งของอิลลูมินาติ โดยงูมีส่วนเกี่ยวข้องกับลูซิเฟอร์ ซึ่งหมายถึง “ผู้ส่องแสง” ซึ่งเป็น “ผู้ช่วยชีวิต” ในรูปลักษณ์ของงู ที่นำความรู้มาสู่อาดัมและอีฟ โดยการโน้มน้าว หรือ กระซิบกระซาบ ให้พวกเขากัดแอปเปิล ผลเลื่องลือ (*ลูซิเฟอร์ เป็นคำภาษาละติน จากการถอดเสียงคำภาษาฮีบรู ในหนังสืออิสยาห์ บทที่ 14 ข้อที่ 12 เป็น คำที่คริสตชนรุ่นหลัง ใช้เรียกแทนตัวตนของปีศาจก่อนตกจากสวรรค์)

เมื่อเป็นเช่นนี้ ความเป็นไปได้ก็คือ ภาพวิดิโอดังกล่าว ได้ให้ความหมายว่า เทย์เลอร์ ได้รับการสถาปนาเป็นมหาปุโรหิตในระบบของกลุ่มชนชั้นสูงลึกลับอย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ ในแต่ละเสา บริเวณที่เธอนั่ง ยังถูกจารึกไว้ด้วยคำว่า  ET TU BRUTE วลีภาษาละตินหมายถึง “และเจ้าล่ะ บรุตุส?” คำเหล่านี้ เป็นที่โด่งดังมาจากบทละครเรื่อง จูเลียส ซีซาร์ (Julius Caesar) ของนักประพันธ์ชื่อก้องโลก วิลเลียม เชกสเปียร์(William Shakespeare) โดยคำนี้ เป็นบทที่กล่าวโดย ซีซาร์ขณะที่เขาถูกแทงจนถึงแก่ความตาย ด้วยน้ำมือของเพื่อน และบุตรบุญธรรมของเขาเอง นามว่า บรุตุส (Brutus)

สิ่งนี้ให้ความหมายว่าอย่างไรในบริบทของเทย์เลอร์ สวิฟต์? เธอคือ  จูเลียส ซีซาร์ ของอุตสาหกรรม ผู้ซึ่งถูกแทงโดยปัจเจกบุคคลที่มีสถานะด้อยกว่าเธอหรือ? ไม่ว่ามันจะหมายความว่าอย่างไร เรากลับเข้าใจมันได้ทันที จากภาพฉากในลำดับต่อไป

ถึงแม้สาวเทย์ จะถูกยกระดับเป็นมหาปุโรหิตของวงการมืดนี้ ซึ่งเธอมีตำแหน่งสูงส่ง คล้ายกับตัวละคร จูเลียส ซีซาร์ ทว่าเธอก็ยังคงเป็นเพียงหมากตัวหนึ่ง ที่มีสิทธิ์มีเสียง ตามแต่ความปรารถนาของผู้ที่ควบคุมเธอเพียงเท่านั้น

ในขณะที่เทย์เลอร์กำลังร้องซ้ำท่อนฮุกของเพลง  “Look what you made me do” ซึ่งให้ความหมายว่า “ดูสิว่าเธอบังคับให้ฉันต้องทำอะไร” เธอก็ขับรถพุ่งชนบางสิ่งอย่างเต็มแรง

ในภาพเหตุการณ์พุ่งชนนั้น เรามองเห็นเทย์เลอร์แต่งตัวเต็มยศ ราวกับว่า การทำร้ายตัวเอง คือ เรื่องที่เป็นที่นิยมเหมือนกับแฟชั่น

ทำไมเทย์เลอร์ต้องร้องท่อนที่กล่าวว่า “ดูสิว่าเธอบังคับให้ฉันต้องทำอะไร” ขณะที่เธอกำลังขับรถชน? ใครเป็นคนบีบให้เธอต้องทำสิ่งนี้? คำตอบของคำถามเหล่านี้ เริ่มชัดเจนขึ้นในเชิงสัญลักษณ์วิเคราะห์ทันที ภายหลังจากที่เธอลงจากรถ….เราเห็นเทย์เลอร์สวมเสื้อคลุมแมว – อีกหนึ่งวิธีบ่งชี้ถึงโปรแกรมล้างสมอง แมวเหมียวยั่วสวาท Beta Kittens ขององค์กรลับสุดยอดชนชั้นสูง ที่เราได้กล่าวไว้ในตอนเริ่มต้นนั่นเอง เพื่อให้สิ่งต่างๆชัดเจนยิ่งขึ้น เราพบแมวเหมียวตัวใหญ่ นั่งติดกับเธอภายในรถยนตร์ด้วย นอกจากนี้ เธอยังถือถ้วยรางวัลแกรมมี่ของเธอ สิ่งนี้ย้ำเตือนให้เรารู้ถึงค่าใช้จ่ายที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่ภายใต้แสงสีแห่งความบันเทิง แสนรื่นรมย์ – นั่นคือการสูญเสีย หรือ การทำลายล้างตนเอง

เมื่อสวิฟต์ร้องเพลงท่อน “ดูสิ่งที่คุณบังคับให้ฉันทำ” เธอกำลังพูดไปยังอุตสาหกรรมที่เป็นเจ้าของเธอจริงๆ มันควบคุมเธอขึ้นสู่ความสำเร็จ และการผลักดันให้เธอต้องทำลายตัวเอง (และแม้แต่ยอมตาย) หากจำเป็น

ฉากลำดับต่อไป ได้อธิบายอย่างชัดแจน ถึงความหมายที่แท้จริงของการเป็น ดวงดารา สำหรับกลุ่มชนชั้นสูง

สวิฟต์ นั่งอยู่บนชิงช้า ในกรงนกขนาดใหญ่

มนุษย์ติดอยู่ในกรงนกเป็นสัญลักษณ์ที่ปรากฏอยู่บ่อยครั้ง เพื่อบ่งชี้ถึงการเป็นทาสของโปรแกรมล้างสมอง MK ของกลุ่มชนชั้นสูง ในวัฒนธรรมประชานิยม

ขณะที่กำลังติดอยู่ในกรง สวิฟต์ได้ร้องว่า:

I don’t like your kingdom keys ฉันไม่ชอบกุญแจสู่อาณาจักรของเธอ

They once belonged to me เพราะครั้งหนึ่ง มันเคยเป็นของฉัน

นี่เป็นคำศัพท์ที่โจ่งแจ้งของ MKULTRA – ผู้ควบคุมโปรแกรม MK ครอบครอง “กุญแจแห่งราชอาณาจักร” ของเหล่าทาส โดยการจำจองหรือควบคุมตัวตนหลักของ หรือตัวตนที่แท้จริงของทาสคนดังกล่าว

แม้ว่าเธอจะดื่มแชมเปญ และกินกุ้งล็อบสเตอร์อย่างหรูหรา ซึ่งเป็นการแสดงถึงชีวิตที่ฟุ่มเฟือย เทย์เลอร์กลับติดอยู่ในลูกกรง ที่ข้างหลังของมัน มีกองยามเฝ้าดูเธออยู่ในทุกๆความเคลื่อนไหว เห็นได้ชัดว่า เธอปราศจากชีวิตที่มีอิสระ

ฉากถัดไปแสดงภาพ สวิฟต์ เป็นลูกแมว Beta ที่ทำตัวเป็นหัวโจกลูกแมวตัวอื่น ๆ

ในภาพนี้ ศิลปินสาวสวมหน้ากากแมว ในขณะที่กำลังสวมเสื้อกุชชี่ ที่พิมพ์ลายรูปหัวแมว และคำว่า “ตาบอดเพื่อความรัก” เนื่องจากว่า ทาส MK ล้วนเป็นคนตาบอดกับสถานการณ์ต่างๆ และตาบอดในการเผชิญหน้ากับผู้ที่ควบคุมพวกเขา

ในอีกฉากหนึ่ง สวิฟต์เป็นหัวหน้ากองทัพ หุ่นยนตร์สาวสวิฟท์กำลังปราศรัยกับมวลชน พวกเธอเป็นหญิงสาว และในขณะที่สวิฟต์กำลังพูดอยู่นั่น เรายังมองเห็นรูปแมวเหมียวกำลังฉายอยู่บนหน้าจอ ที่ฉากหลังของเวทีปราศรัยอีกด้วย

หญิงสาวเหล่านี้ มีรูปลักษณะเป็นพลาสติก เป็นหุ่นยนตร์ไร้ชีวิต พวกเธอก็คือ แมวเหมียว beta ในอนาคตนั่นเอง

ในฐานะมหาปุโรหิต สวิฟต์มีอำนาจและอิทธิพลเหนือกลุ่มคนรุ่นถัดไปของอุตสาหกรรมแห่งทาส

ฉากนี้ ปรากฏภาพเหล่าหุ่นยนต์สาวนอนเรียงรายอยู่บนพื้น อย่างไร้ชีวิต และเรือนร่างของพวกเธอ ยังถูกแยกชิ้นส่วนออกอีกด้วย นี่เป็นวิธีสุดคลาสสิก สำหรับการสาธยายให้เห็นภาพ บรรดาทาสผู้ไร้อำนาจ แม้ว่า สวิฟท์จะจัดอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจกว่าสาวคนอื่น แต่เธอก็ยังคงสวมปลอกคอขนาดใหญ่ สิ่งนี้ย่ำเตือนเราว่า เธอยังคงตกเป็นทาสของโปรแกรมแมวเหมียวยั่วสวาท เพื่อส่งเสริมการค้ามนุษย์นี้

เทย์เลอร์คนเก่าสิ้นชีพแล้ว!

ฉากในตอนท้ายของวิดีโอ ได้แสดงให้เห็นถึง ความตายของ “เทย์เลอร์คนเก่า” และการถือกำเนิดขึ้นของบุคลิกภาพใหม่ของเทย์เลอร์

ในชุดสีดำ เทย์เลอร์คนใหม่ยืนอยู่เหนือกองพะเนินที่รวบรวมบทบาทเก่าๆในยบุคลิกภาพ หรือตัวตน(ทางการแสดง)ก่อนๆของเธอ

และในขณะที่เธอกำลังร้องเพลงท่อนที่ว่า “ดูสิ่งที่คุณบังคับให้ฉันทำ” เทย์เลอร์ก็กำลังเต้นไปมาอย่างเร้าร้อน แน่นอน พวกเขาสั่งให้เธอเต้นแบบนั้น พร้อมๆกับการทำสัญลักษณ์ตาข้างเดียวสุดคลาสสิคขององค์กรลับชนชั้นสูง (อิลลูมินาติ)

ถัดไป คือ ฉากที่แสดงสัญลักษณ์สุดคลาสสิคอีกรุปแบบหนึ่งของกลุ่มชนชั้นสูง

สวิฟท์เดินห่างจากรถที่พุ่งชนจนปะทุเป็นระเบิดขนาดใหญ่ ในขณะที่สวมเครื่องแบบแมวเหมียว

ฉากนี้ เป็นอีกหนึ่งฉากซ้ำซาก ที่อุตสาหกรรมบันเทิงของกลุ่มชนชั้นสูงนำออกมาฉายซ้ำแล้วซ้ำอีก  เราจะนำตัวอย่างจากมิวสิควิดิโอของศิลปินคนอื่น เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นภาพอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

ภาพข้างล่างนี่เป็นฉากสุดท้ายจากวิดีโอ Change Your Life ของศิลปิน Iggy Azalea

เราจะเห็นได้ว่า ศิลปิน Iggy Azalea กำลังเดินห่างออกมาจากสถานที่ที่รถเกิดปะทุระเบิดขึ้น เหมือนกับฉากในวิดิโอของเทย์เลอร์ ขณะที่เธอกำลังสวมใส่เสื้อพิมพ์ลายสัญลักษณ์ตาข้างเดียว ประจำองค์กรลับอิลลูมินาติ ผู้เป็นเจ้าชีวิตเหนือศิลปินที่เป็นดั่งทาสในอุตสาหกรรมบันเทิง สิ่งที่เป็นที่น่าสังเกตก็คือ มันมีแมวเหมียวอยู่ในภาพนี้เช่นเดียวกัน นั่นคือ สถานบันเทิงที่อยู่เบื้องหลังเธอ มันมีชื่อว่า “ชีต้า” – แน่นอนศิลปินเหล่านี้ คือทาสในโปรแกรมแมวเหมียวยั่วสวาท เพื่อโปรโมทการค้ามนุษย์

และจากนั้น สาวเทย์ก็ร้องเพลงต่อว่า:

“I’m sorry, the old Taylor can’t come to the phone right now.”

ขอโทษนะคะ แต่เทย์เลอร์คนเก่ามารับสายไม่ได้แล้วค่ะ

“Why? Oh ’cause she’s dead!”

ทำไมน่ะหรอ?” อ๋อ ก็เธอตายไปแล้วไงล่ะ!

มิวสิควิดิโอจบลงด้วยภาพเทย์เลอร์ สวิฟต์ในหลายๆบุคลิกภาพ กำลังถกเถียงระหว่างกันและกัน

เป็นเวลากว่าหลายปี และในทุกๆอัลบั้ม นับตั้งแต่ที่เธอก้าวเข้ามาในวงการบันเทิง เราจะเห็นได้ว่า เทย์เลอร์มีการเปลี่ยนบทบาทและบุคลิกภาพมากมายหลายครั้ง ในฉากนี้ บทบาทต่างๆเหล่านั้นกำลังยืนถกเถียงกันไปมา เพื่อเน้นย้ำให้เห็นถึงความแตกต่าง และความเป็นตัวตนที่ล้วนถูกสร้างขึ้นมา (ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง)

มีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่ผีดิบซอมบี้ ได้พูดไปยัง สวิฟต์คนก่อน ซึ่งมักจะดูอ่อนโยนกว่า มีนัยตาเศร้ามอง และสีหน้าประหลาดใจอยู่ตลอดเวลา

“Stop acting you’re all nice. You are so fake.” “หยุดแสดงท่าทีเหมือนเธอเป็นคนดี เธอมันแสแสร้ง”

นั่นคือสาระสำคัญของเรื่องราวทั้งหมด ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเธอล้วนเป็นสิ่งแสแสร้ง เธอได้รับการเปลี่ยนแปลงรูปโฉมและบุคลิกภาพเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ที่ควบคุมเธอตลอดระยะเวลาที่เจิดจรัสอยู่บนเวทีดุจดาวประกายแสง

ในภาพรวม เพลง Look What You Made Me Do บอกเล่า เรื่องราวเกี่ยวกับ ความตาย ความเย่อหยิ่ง ความโลภ การแก้แค้นความชั่วช้า ความเกลียดชัง การเยาะเย้ย อำนาจ การควบคุม การเอารัดเอาเปรียบ และความเห็นแก่ตัวเองเป็นสำคัญ มันเกี่ยวกับชีวิตในด้านที่เป็นลบ การทำลายล้าง ซึ่งหากจะกล่าวอย่างสั้นๆ วิดิโอนี้ กำลังแสดงให้เห็น ผลผลิตโดยทั่วไปของวัฒนธรรมประชานิยมที่เป็นพิษนั่นเอง

สรุป

เหมือนกับทุกสิ่งอื่นๆในหน้าประวัติศาสตร์ ความจริงเกี่ยวกับ เพลงและมิวสิควิดิโอ Look What You Made Me Do ถูกซุกซ่อนอยู่ในสัญลักษณ์รอให้ใครมาถอดรหัสและทำความเข้าใจกับมัน

ผ่านภาพวิดีโอดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า เทย์เลอร์ สวิฟท์ ได้รับการยกระดับสถานภาพของเธอในระบบของกลุ่มชนชั้นสูง โดยสำหรับ บรรดาบุคคลที่มีความมุ่งมั่นในการควบคุมและเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ศิลปิน ดารา เช่น เทย์เลอร์ จัดว่าเป็น “ทาส” ที่อยู่ในความเมตตาของพวกเขา และเมื่อเธอได้รับคำสั่งให้ทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อสร้างสรรค์ หรือบ่อนทำลายตนเอง พวกเขาก็ยอมทำมันแต่โดยดี ราวกับนี่ คือพิธีบูชายันต์ และเมื่อทำมันสำเร็จแล้ว สิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถพูดได้ หรือ เรียกร้องก็คือ: “ดูสิ่งที่คุณบังคับให้ฉันทำ”

Source: vigilantcitizen