อดีตเจ้าหน้าที่พนักงาน NSA และ whistleblower เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน คาดการณ์ไว้ใน Twitter ว่า ผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (CIA) คนใหม่ – นางจีนา ฮาสเปล (Gina Haspel) อาจต้องเผชิญกับการจับกุม หากเธอเดินทางเข้าไปในสหภาพยุโรป ในข้อหา มีส่วนร่วมเป็นผู้นำโครงการทรมานผู้ต้องสงสัย และละเมิดสิทธิมนุษยชนในคุกลับของ CIA
“น่าสนใจ: ผู้อำนวยการ CIA คนใหม่ ฮาสเปล (๋Gina Haspel) ผู้ซึ่งเคย “ทรมานผู้ต้องสงสัยบางคน” อาจไม่สามารถเดินทางไปยังสหภาพยุโรปเพื่อพบปะกับหัวหน้าสายสืบอื่น ๆ ได้ โดยไม่ต้องถูกจับกุม อันเนื่องมาจากข้อร้องเรียน @ECCHRBerlin ที่มีไปยังพนักงานอัยการแห่งชาติของเยอรมนี,” สโนว์เดน โพสต์ข้อความทวีต ขณะกล่าวเชื่อมโยงไปยัง รายงานโดย ศูนย์สิทธิตามรัฐธรรมนูญ และสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ระบุการร้องเรียนทางอาญาที่ยื่นต่อนาง ฮาสเปล ในปี 2017
การร้องเรียนทางอาญาของ ECCHR ได้ยื่นต่อพนักงานอัยการแห่งชาติของเยอรมนีในวันที่ 6 มิถุนายน 2017 ซึ่งเป็นผลของการติดตาม การร้องเรียนครั้งแรกที่เคยยื่นไปในปี 2014 โดยมีการติดตามผลตามมาในปี 2015 และ 2016
ในการร้องเรียน ECCHR กล่าวว่า ฮาสเปล เป็นหัวหน้าของนักจิตวิทยาชื่อดัง อย่าง James Mitchell และ Bruce Jessen ผู้รับผิดชอบการพัฒนาโปรแกรมทรมานผู้ต้องสงสัยในเรือนจำลับของ CIA และที่ศูนย์กักกันอ่าวกวนตานาโม
ตามที่ ECCHR ระบุ- นาง ฮาสเปล เคยเป็นผู้ดูแลการทรมาน Abu Zubaydah ซึ่งเป็นนักโทษที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Gitmo ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้จัดเตรียมการโจมตีก่อการร้าย 11 กันยา แม้ว่าเขาจะไม่เคยต้องเผชิญกับคดีอาญา หรือข้อหาอย่างเป็นทางการ ในปี 2002 นาย Zubaydah ถูกขังอยู่ในเรือนจำลับของCIA ในประเทศไทย ที่เรียกว่า “Cat’s Eye” หรือ “Green Site Detention” สถานที่ที่พวกผู้ต้องสงสัยถูกทรมานด้วยการกรอกน้ำให้สำลัก (waterboarded) เทคนิคการสอบสวนอันทารุณที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สนับสนุน
อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ต่อมาเธอได้ดำเนินการออกคำสั่งให้ CIA ทำลายวิดีโอหลักฐานเกี่ยวกับการทรมานนักโทษด้วยวิธีกรอกน้ำให้สำลัก และหลักฐานอื่นๆที่บ่งชี้ว่าเธอมีความเกี่ยวข้องกับการทรมานผู้ต้องสงสัย สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า เธอสำนึกอยู่ตลอดเวลาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมาย และเป็นอาชญากรรม
การเข้าสืบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯเกี่ยวกับการทำลายหลักฐานวิดีโอ ยุติลงโดยปราศจากการตั้งข้อหาใดๆ ขณะที่ทรัมป์ อ้างเมื่อเดือนที่แล้วว่า วิธีทรมานดังกล่าวได้ผล และบ่งชี้ว่า คณะที่ปรึกษาด้านความมั่นคงระดับหัวแถวของเขาสนับสนุนให้รื้อฟื้นนำเทคนิคการสอบปากคำดังกล่าวกลับมาใช้ใหม่
ทรัมป์เปิดเผยด้วยว่า เขาผัดผ่อนให้ เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมและ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการ CIA คนล่าสุด หาข้อสรุปว่าอะไรที่สามารถทำได้และอะไรที่เป็นการละเมิดกฎหมาย “ผมเพิ่งได้พูดคุยกีบบุคคลระดับสูงสุดของหน่วยข่าวกรองเมื่อเร็วๆ นี้ และผมตั้งคำถามพวกเขาว่า มันจะได้ผลจริงหรือ วิธีทรมานได้ผลหรือไม่ และคำตอบที่ได้ คือ ใช่ ถ้าถามผม เราจำเป็นต้องใช้ไฟสู้กับไฟ”
องค์กรดังกล่าว เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เยอรมันดำเนิน “มาตรการที่เหมาะสม” ซึ่งรวมถึง “การออกหมายจับ” หาก ฮาสเปล เดินทางไปยังเยอรมนี หรือเขต Schengen
จินา ฮาสเปล ถูกเลือกโดยทรัมป์ และได้รับการแต่งตั้งโดย ไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการ CIA เมื่อวันพฤหัสบดี (2 ก.พ.) โดยเธอถูกทาบทามเป็นผู้อำนวยการซีไอเอหลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ประกาศเมื่อวันอังคารว่า เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน จะออกจากตำแหน่งเลขาธิการรัฐ และจะถูกแทนที่ด้วย ไมค์ ปอมเปโอ ผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ CIA คนปัจจุบัน อย่างไรก็ดี ทั้ง ปอมเปโอ และ ฮาสเปล จะต้องได้รับการยืนยันจากวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ
ในการแถลงแต่งตั้งรองผู้อำนวยการคนใหม่ของซีไอเอ ปอมเปโอ กล่าวว่า ฮาสเปล เป็นผู้นำที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า มีความพร้อม และมีความสามารถอันน่าอัศจรรย์ในการทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จและเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนที่อยู่รอบๆ ตัวเธอ
Sources: sputniknews Reuters
