หลังจากการเสียชีวิตของ มะห์ซา อามินี (Mahsa Amini) ในเดือนกันยายน มาซิห์ อาลิเนจาด (Masih Alinejad) ผู้ประกาศข่าวของ Voice of America ภาคเปอร์เซีย ได้มีส่วนร่วมในการรณรงค์ทางสื่อ เพื่อกล่าวโทษ เจ้าหน้าที่ตำรวจอิหร่าน สำหรับการเสียชีวิตของอามินี และกระตุ้นให้ผู้คนทั่วโลก ประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิหร่าน
อาลิเนจาด เป็นบุคคลสาธารณะชาวอเมริกันเชื้อสายอิหร่าน เธอยังเป็นส่วนสำคัญของกลไกเพื่อขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ ซึ่งติดตามการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในอิหร่านมานานหลายทศวรรษ ‘นายจ้าง’ ของเธอ หรือVoice of America ภาคเปอร์เซีย เป็นส่วนหนึ่งจากเครือข่ายระหว่างประเทศขององค์กรผลิตโฆษณาชวนเชื่อที่สร้างโดย CIA
สื่อตะวันตกปฏิบัติต่อ อาลิเนจาด เสมือนเธอเป็นตัวแทนของการประท้วงในอิหร่าน แม้ว่าเธอจะทำงานให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ และไม่ได้อาศัยอยู่ในอิหร่าน
นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ของเธอกับสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่สายเหยี่ยว โปรสงครามของอิสราเอล ยังนำไปสู่ข้อสงสัยเบื้องหลังแรงจูงใจของเธอ
ในการนี้ Mint Press สื่อรัสเซีย จึงได้ตรวจสอบประวัติของเธอ เพื่อทำความเข้าใจ ถึงสาเหตุ ที่ทำไมเธอจึงถูกเลือกให้เป็นบุคคลสำคัญในขบวนการประท้วงระดับโลก ที่มีเป้าหมายโจมตีรัฐบาลอิหร่านนี้
- อาลิเนจาด ทำงานให้กับ Voice of America ภาคเปอร์เซีย ซึ่งเป็นกลุ่มสื่อของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ New York Times สื่ออเมริกันชื่อดัง อธิบายว่าเป็น “เครือข่ายโฆษณาชวนเชื่อทั่วโลกที่สร้างโดย CIA”
Voice of America ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของรัฐบาลสหรัฐฯ ในความพยายามเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง(ของประเทศต่างๆ) นับไม่ถ้วน โดยที่อาคารต่างๆของมัน ก็ถูกใช้ในฐานะ สถานที่ทรมานของ CIA
- หลังจากการเสียชีวิตของ มะฮ์ซอ อามีนี — อาลิเนจาด ได้ทวีตข้อความเป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วยจุดชนวนการเคลื่อนไหว และการประท้วงทั่วโลก
ทวีตต่างๆของ อาลิเนจาด อ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอิหร่าน ได้สังหารอามีนี ขณะที่ทวีตนี้ เป็นทวีต ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาโดยสื่อตะวันตก และถูกนำไปใช้เพื่อส่งเสริมการเคลื่อนไหวประท้วงระดับนานาชาติ
- ตามที่มีรายงานใน GovTribe เว็บไซต์ติดตามทางการเงิน ระบุว่า อาลิเนจาด ได้รับเงินทุนโดยตรงจากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเธอได้รับเงินสดจากรัฐบาลกลางมากกว่า 600,000 ดอลลาร์ ตั้งแต่ปี 2015
- อาลิเนจาด ได้แสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวอย่างไม่ลดละต่อประเทศเกิดของเธอ ทั้งยังคัดค้านข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน
- การสนับสนุนอย่างแน่วแน่ของเธอต่ออิสราเอล ซึ่งเป็นประเทศที่เธอบอกว่า ‘แทบรอไม่ไหวที่จะไปเยือน’ ยังได้รับคำชื่นชมในอิสราเอล และองค์กรที่สนับสนุนอิสราเอล เช่น AIPAC และ StandWithUs
- การเคลื่อนไหวของเธอดูเหมือนจะประกอบด้วยความพยายามโน้มน้าว ให้นักสตรีนิยมชาวตะวันตกใช้แนวทางที่แข็งกร้าวมากขึ้นต่อรัฐบาลอิหร่าน รวมถึงการสนับสนุนการแซงค์ชั่น ที่เป็นการลงทัณฑ์ต่อประเทศตนเองมากยิ่งขึ้น
- คณะกรรมการชาวยิว–อเมริกัน ซึ่งทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงต่างประเทศของอิสราเอล และเป็นผู้ให้ทุนร่วมกับการตั้งถิ่นฐานของอิสราเอล มอบรางวัล Moral Courage Award ให้กับอะลิเนจาด
— “เราต้องการตะวันออกกลาง ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อต่อต้านเผด็จการศาสนา มาซิห์ อาลิเนจาด
อิหร่านเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเป็นมะเร็งสูงที่สุดในโลก โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ 112,000 รายทุกปี แต่เพราะการคว่ำบาตร การนำเข้าเวชภัณฑ์ จึงลดลงมากถึง 60%
การคว่ำบาตรที่ มาซิฮ์ อาลิเนจาด สนับสนุน ถือเป็นการเข่นฆ่าผู้หญิงชาวอิหร่าน
“เมื่อพูดถึงโรคมะเร็ง ยาส่วนใหญ่ ที่เด็กภายใต้การดูแลของเราใช้นั้นอยู่ในกลุ่มยานำเข้า 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีราคาแพงและหายากมาก” – Arasb Ahamdian ผู้อำนวยการโรงพยาบาล MAHAK
_________
Source: MintPress News