presstv – ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ของกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านได้กล่าวโดยตรงถึงรัฐบาลบาห์เรน โดยย้ำว่า ในกรณีที่มีการล่วงละเมิดใดๆ ต่อเชคอีซา กอซิมนั้น จะต้องเผชิญหน้ากับการต้านทานด้วยอาวุธอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งการล่มสลายของรัฐบาลนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของผลกระทบในด้านต่างๆ ของมัน
นายพล กอเซ็ม สุไลมานี ได้ชี้ว่า ดูเหมือนว่าราชวงศ์อาลิคอลีฟะฮ์กำลังใช้ประโยชน์ในทางมิชอบจากการเคลื่อนไหวด้วยสันติวิธีของประชาชน และไม่มีการประเมินอย่างรอบคอบถึงความโกรธแค้นของประชาชน และผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ได้กล่าวเสริมว่า มั่นใจได้เลยว่าพวกเขารู้ดีว่าการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนของท่านอายะตุลลอฮ์เชคอีซา กอซิม คือการล้ำเส้นแดงที่จะเป็นการจุดไฟเพลิงขึ้นในบาห์เรนและทั้งภูมิภาค สำหรับประชาชนจะไม่มีหนทางใดเหลืออยู่อีก นอกจากการยืนหยัดต้านทานด้วยการติดอาวุธ
นายพลกอซิม กล่าวเสริมว่า แน่นอนยิ่งว่าราชวงศ์อาลิคอลีฟะฮ์จะต้องชดใช้ และผลของมันจะไม่เป็นอื่นใด นอกจากการถูกทำลายของระบอบการปกครองที่กระหายเลือดนี้
นายพลกอเซ็ม ได้ชี้ถึงการกดขี่ของรัฐบาลบาห์เรนที่มีต่อประชาชนชาวบาห์เรน ว่า เป็นระยะเวลายาวนานหลายปีมาแล้วที่ประชาชนชาวมุสลิมและบรรดาผู้ถูกกดขี่ของบาห์เรน ตกอยู่ภายใต้การกดขี่ การแบ่งแยก ความอยุติธรรม การเหยียดหยามและการดำเนินการต่างๆ ที่รุนแรง ไร้มนุษยธรรมและยอมรับไม่ได้ของราชวงศ์อาลิคอลีฟะฮ์ (Al-Khalifa)
นายพลกอเซ็ม ยังได้ชี้ถึงการเรียกร้องสิทธิและการเดินประท้วงอย่างสันติวิธีของประชาชนบาห์เรนว่า ประชาชนผู้มีเกียรติและผู้มีความอดทนอดกลั้นเหล่านี้แม้จะมีการกดดันต่างๆ ที่หนักหน่วงและการปฏิบัติเยี่ยงการแบ่งแยกชนชั้นของราชวงศ์อาลิคอลีฟะฮ์ กระทั่งว่า มีการจับกุมผู้นำทางการเมืองและศาสนาบางคน การจับกุมคุมขังบรรดาสตรีและเด็ก การทรมานพวกเขาอย่างน่าหวาดกลัว การเพิกถอนสิทธิ์การเป็นพลเมืองของประชาชน การทำลายสิทธิต่างๆ ของพลเมืองและการก่ออาชญากรรมอื่น ๆ อีกนับสิบ โดยไม่เปิดโอกาสโอกาสให้มีการแก้ตัวใด ๆ โดยน้ำมือของราชวงศ์อาลิค่อลีฟะฮ์ ทั้งๆ ที่เป็นการเรียกร้องสิทธิต่างๆ อันชอบธรรมของตนด้วยสันติวิธี และการเพิ่มการกดดันต่างๆ นั้นก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาออกจากแนวทางแห่งสันติวิธีนี้ได้เลย
นายพลกอเซ็ม สุไลมานี ได้กล่าวว่า แต่ความอุกอาจท้าทายของราชวงศ์อาลิคอลีฟะฮ์ ได้ไปถึงจุดที่คนไม่สนใจต่อเกียรติของประชาชนและการเคลื่อนไหวด้วยสันติวิธีของพวกเขา และโดยอาศัยการเงียบเฉยอย่างมีนัยยะของสหประชาชาติและสหรัฐอเมริกาและบรรดาประเทศตะวันตก ได้ขยายขอบเขตของการก่ออาชญากรรมของตน การปราบปรามและการกดดันต่อประชาชนชาวบาห์เรนมากยิ่งขึ้นในทุกๆ วัน
ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ของกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านได้กล่าวเสริมว่า การจับกุมเชคอะลี ซัลมาน และผู้นำทางการเมืองและศาสนาคนอื่นๆ ของบาห์เรนอย่างผิดกฎหมายภายใต้การเงียบเฉยของประชาคมระหว่างประเทศนั้น ได้ดึงราชวงศ์อาลิคอลีฟะฮ์มาสู่ความอุกอาจท้าทายนี้ จนกระทั่งถึงขั้นคุกคามสิทธิมนุษยชนของนักการศาสนาที่โดดเด่นและผู้นำทางศาสนาของชาวชีอะฮ์ของบาห์เรน คือท่านอายะตุลลอฮ์ เชคอีซา กอซิม และได้ก่อให้เกิดการคาดคิดต่างๆ ที่น่าวิตกกังวลขึ้นในความนึกคิดของประชาชนในภูมิภาคและในบาห์เรน
ในตอนท้ายของคำแถลงการณ์ นายพลกอซิม สุไลมานี ได้กล่าวย้ำว่า บรรดาผู้สนับสนุนราชวงศ์อาลิคอลีฟะฮ์ พึงรู้เถิดว่า การหมิ่นประมาทต่อท่านอายะตุลลอฮ์เชคอีซา กอซิม และดำเนินการกดดันประชาชนชาวบาห์เรนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไปนั้น คือจุดเริ่มต้นของลุกฮือหลั่งเลือดซึ่งผลพวงต่างๆ ของมันจะอยู่ในความรับผิดชอบของบรรดาผู้ที่ให้ความชอบธรรมต่อความอุกอาจของบรรดาผู้ปกครองของบาห์เรน
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 มิถุนายน) ทางกระทรวงมหาดไทยประเทศบาห์เรน ดำเนินการถอนสัญชาติของ เชค อีซา กอซิม ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ในบาห์เรน โดยกล่าวหาว่าเขาใช้ตำแหน่งของตัวเองเพื่อประโยชน์ของต่างชาติ รวมทั้งปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกระหว่างนิกาย และยุยงให้เกิดความรุนแรง ขณะที่คำกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เป็นจริงแต่ประการใด