ตำรวจมาเลเซีย เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (10 มี.ค.) ว่า เมื่อเดือนที่ผ่านมาที่ได้จับกุมผู้ก่อการร้ายต่างชาติเก้าคนในมาเลเซีย ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายที่มีฐานในแอฟริกาเหนือ ซึ่งรวมถึงสมาชิกกลุ่มภราดรภาพมุสลิม (อิควานฯ) แห่งอียิปต์ ที่วางแผนก่อเหตุโจมตีครั้งใหญ่ในหลายประเทศ เบร์นานิวส์รายงาน
มูฮัมหมัด ฟูซี ฮารูน จเรตำรวจมาเลเซีย แถลงว่า การจับกุมครั้งนี้ ประกอบด้วยชาวมาเลเซียสองคน ชาวอียิปต์หกคน และชาวตูนิเซียหนึ่งคนระหว่างวันที่ 2 และ 9 กุมภาพันธ์ ในพื้นที่คลังวัลเลย์ (Klang Valley) และรัฐซาราวัก ทางตะวันออกของมาเลเซีย ชาวอียิปต์และตูนิเซียถูกเนรเทศออกนอกประเทศ
หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของกองบัญชาการตำรวจสหพันธรัฐมาเลเซียทำการจับกุมหลังจากได้รับข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองต่างประเทศว่า นักรบก่อการร้ายหลายคนกำลังวางแผนโจมตีหลายแห่ง ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับถูกระบุว่าเป็นสมาชิกของกลุ่ม “อันซอร อัล-ชารีอะห์” (Ansar-al Sharia) ในตูนิเซีย ซึ่งปฏิบัติการในแอฟริกาเหนือ และถูกจัดให้เป็นกลุ่มก่อการร้ายโดยสหประชาชาติ เพราะเป็นพันธมิตรกับอัลกออิดะห์ ตามที่ฟูซีระบุ
“การดำเนินการนี้เป็นปฏิบัติการต่อเนื่องในการต่อต้านการก่อการร้ายที่ดำเนินการในเดือนเมษายนและพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งชาวอียิปต์สองคนที่เป็นสมาชิกของกลุ่มภราดรภาพมุสลิมถูกจับกุม และถูกเนรเทศเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอซิส) และกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์” เขากล่าว
ฟูซีกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เริ่มขึ้นในซาราวักเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เมื่อชาวอียิปต์พร้อมด้วยชายหญิงชาวมาเลเซียถูกควบคุมตัว
“ทั้งสามคนซึ่งมีอายุระหว่าง 20 ถึง 54 ปี ถูกจับตัวเนื่องจากปิดบังข้อมูลเกี่ยวกับการปรากฏตัวของหน่วยปฏิบัติการ อันซอร อัล-ชารีอะห์ ซึ่งอยู่ในระหว่างการเดินทางในมาเลเซีย จัดหาที่พักให้พวกเขา และเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดหาที่พักงานและตั๋วเครื่องบิน ” เขากล่าว
จเรตำรวจมาเลฯ กล่าวต่อว่า ในวันเดียวกันนั้นเอง ชาวอียิปต์วัย 42 ปี ทำงานเป็นครูสอนศาสนาก็ได้ถูกจับกุมที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ผู้ต้องสงสัยยอมรับว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม และจัดหาที่พักให้แก่สมาชิกสองคนของ กลุ่มอันซอร อัล-ชารีอะห์ ซึ่งแทรกซึมเข้ามามาเลเซียในเดือนตุลาคม 2018
ชาวอียิปต์อายุ 24 ปีซึ่งเป็นนักเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในคลังวัลเลย์ถูกจับกุมที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์เช่นกัน ชายผู้ยอมรับว่าเป็นสมาชิกกลุ่มภราดรภาพมุสลิม และได้สารภาพว่าได้ซื้อตั๋วเครื่องบินให้สมาชิกกลุ่มอันซอร อัล-ชารีอะห์ สองคนที่เดินทางมาประเทศมาเลเซียในเดือนตุลาคมปี 2018 ตามรายงานของฟูซี
นักศึกษาชาวอียิปต์วัย 28 ปีผู้ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกกลุ่มอันซอร อัล-ชารีอะห์ และช่วยเหลือ อิซซาม มาร์ซูก อัล-ฮาฟิซ (Essam Marzouk Al Hafez) เจ้าหน้าที่อัลกออิดะห์ที่ถูกส่งตัวกลับประเทศของเขา ได้ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ในรัฐสลังงอร์ หัวหน้าตำรวจกล่าว
อีกสองวันต่อมาชาวตูนีเซียและชาวอียิปต์วัย 21 และ 22 ถูกจับที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ พวกเขาถูกสงสัยว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มอันซอร อัล-ชารีอะห์ และถูกจับกุมในปี 2559 เนื่องจากพยายามแอบเข้าไปในประเทศแอฟริกากลาง ฟูซี กล่าว
“ ผู้ต้องสงสัยทั้งสองเข้ามาในประเทศมาเลเซียโดยใช้หนังสือเดินทางปลอมของซีเรียโดยมีจุดประสงค์ในการใช้มาเลเซียเป็นจุดผ่านแดนก่อนเข้าสู่ประเทศที่สามเพื่อทำการโจมตี” เขากล่าว
เฟาซีกล่าวว่าชาวมาเลเซียวัย 50 ปี ที่ทำงานเป็นครูสอนภาษาอาหรับถูกจับกุมในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่สลังงอร์ ผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มภราดรภาพมุสลิมที่ถูกกล่าวหาว่าจัดหาที่พักให้แก่สมาชิกสองคนของอันซอร อัล-ชารีอะห์ เมื่อปีที่แล้ว
ในเดือนธันวาคม ฟูซีประกาศว่าตำรวจทำลายแผนการที่ถูกกล่าวหาเป็นของกลุ่มไอซิส ที่จะโจมตีศาสนสถานในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ด้วยการจับกุมผู้ต้องสงสัยสองคน ทั้งคู่อยู่ในหมู่ผู้ต้องสงสัยก่อการเจ็ดคน – ชาวมาเลเซียห้าคนและชาวฟิลิปปินส์สองคนถูกควบคุมตัวผ่านการตรวจค้นระหว่างวันที่ 19 และ 28 พฤศจิกายนในรัฐกลันตันรัฐสลังงอร์ ซาบาห์ และเคดาห์
สวรรค์ของที่หลบภัย
ฟูซีกล่าวว่า นักวิจัยระบุว่าผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติที่ถูกจับกุมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์กำลังพยายามทำให้มาเลเซียเป็นสวรรค์ที่ปลอดภัยของจุดผ่านและฐานโลจิสติกส์ พวกเขาถูกกล่าวหาว่าเข้าประเทศโดยใช้เอกสารที่ถูกกฎหมายและปลอม ในบางกรณีพวกเขาแต่งงานกับคนในท้องถิ่นเพื่อรับวีซ่าคู่สมรสและใช้ประโยชน์จากสถานศึกษาหรือธุรกิจที่ดำเนินการอยู่
“การแทรกซึมของนักรบผู้ก่อการร้ายต่างชาติในประเทศนี้จะต้องถูกดำเนินการอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากความพ่ายแพ้ของไอซิสในซีเรียและอิรัก” ฟูซีกล่าว “พวกเขาสามารถใช้ประเทศนี้เป็นฐานในการโจมตีประเทศอื่นๆ หรือเริ่มการโจมตีภายในประเทศ”
“เนื่องจากการปรากฏตัวของชาวต่างชาติอาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ผู้ต้องสงสัย (ต่างชาติ) ทั้งหมดจึงถูกส่งตัวกลับประเทศของตนตามบทบัญญัติของกฎหมายคนเข้าเมือง และถูกขึ้นบัญชีดำจากการเข้าสู่มาเลเซียตลอดชีวิต” ฟูซีกล่าว
อาห์หมัด อัลมูฮัมมาดี นักวิเคราะห์การต่อต้านการก่อการร้ายกล่าวกับ เบนาร์นิวส์ ว่า การจับกุมสมาชิกกลุ่มภราดรภาพมุสลิมสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานความมั่นคงของมาเลเซียและหน่วยข่าวกรองต่างประเทศที่เป็นมิตร
“กรณีดังกล่าวอาจส่งข้อความที่แข็งแกร่งไปยังกลุ่มภราดรภาพมุสลิมหัวรุนแรงว่า มาเลเซียไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเขาในการดำเนินงานได้อย่างอิสระอีกต่อไป” อาห์หมัด อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติมาเลเซียกล่าว
