irna – โอมาร์ คัยยาม โรมาโต้ เมาเต้ หนึ่งในแกนนำกลุ่มก่อการร้ายเมาเต้ที่มีสายสัมพันธ์กับไอซิส ได้ประกาศตนผ่านเฟสต์บุก ว่า ตัวเองคือ “ระเบิดเวลา”ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สื่อต่างๆในฟิลิปปินส์ได้สะท้อนข่าวกันอย่างแพร่หลายเมื่อวันจันทร์ที่12 มิถุนายน เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายซึ่งนำโดยผู้นำเมาเต้และน้องชายของเขา ในวันที่ 23 พฤษภาคมได้บุกยึดเมืองมาราวีครอบครองได้ส่วนหนึ่งในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ จากนั้นได้ปักสัญลักษณ์ของไอซิสบนตึกอาคารในเมืองมาราวี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นระเบิดเวลา ก่อนที่เขาจะพูดออกมาด้วยซ้ำไป
รัฐบาลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อนหน้านี้ก็มีความกังวลเกี่ยวกับการก่อตัวและการจัดตั้งรัฐอิสลาม(ไอซิส)ในภูมิภาคและการก่อตัวของไอซิสในเมืองมาราวีนั้นย่อมเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาคทั้งหมด
ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เชื่อว่าในขณะที่การต่อสู้เพื่อเอาเมืองมาราวีกลับคืนใกล้เข้าสู่สามสัปดาห์ที่ผ่านสามแล้ว และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 200 คน ซึ่งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าภูมิภาคนี้ได้เข้าสู่สถานการณ์ที่สุ่มเสียงอย่างมาก
รายงานชิ้นนี้ได้ชี้ถึงประวัติของแกนนำเมาเต้ ซึ่ง “โอมาร์ คัยยาม” และ ‘อับดุลลาห์’ เมาเต้ พร้อมกับครอบครัวและน้องสาวได้เติบโตในเมืองมาราวี ซึ่งส่วนใหญ่ของประชากรในเมืองนี้เป็นชาวมุสลิม
ตามรายงานระบุ เมืองนี้ตามประวัติศาสตร์ถือเป็นศูนย์กลางของอิสลามบนเกาะใหญ่ของเกาะมินดาเนาในฟิลิปปินส์และนับจากที่สเปนเข้าล่าอาณานิคมในประเทศนี้แล้ว ทำให้กลายเป็นเมืองที่มีความยากจนอย่างแพร่หลายและถูกละเลยจากรัฐ
เพื่อนบ้านของครอบครัว ‘เมาเต้’ กล่าวว่า ในปี 1990 บรรดาพี่น้อง ‘เมาเต้’ พวกเขาดูเหมือนคนปกติทั่วๆไป พวกเขาเรียนรู้ภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลีและเล่นบาสเกตบอลบนท้องถนนของเมือง
หลังจากปี 2000 โอมาร์ คัยยาม เข้าศึกษาต่อในประเทศอียิปต์ และอับดุลลาห์ได้เดินทางไปศึกษาในจอร์แดนซึ่งทั้งสองมีความสันทัดภาษาอาหรับอย่างมาก โอมาร์ เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยอัซฮัรในกรุงไคโร และเขาได้พบกับหญิงสาวซึ่งเป็นลูกสาวของผู้รู้มุสลิมชาวอินโดนีเซียคนหนึ่ง และทั้งสองก็ได้แต่งงานกัน จากนั้นได้เดินทางกลับไปยังประเทศอินโดนีเซีย เขาได้สอนในโรงเรียนของพ่อตาจนถึงปี 2011 และในปี 2011 นั้นเขาได้เดินทางกลับไปยังเกาะมินดาเนา
รายงานระบุว่า มีความเป็นไปได้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวเขาเริ่มมีความคิดคลั่งไคล้และสุดโต่ง
รายงานดังกล่าวเผยว่า บรรดานักเรียนร่วมรุ่นในกรุงไคโรที่ศึกษาในเวลาเดียวกันเขาไม่เคยเห็นความคลั่งไคล้ของเขาแต่อย่างใด
ส่วนอับดุลลาห์ เมาเต้ พี่ชายที่ได้เดินทางศึกษาต่อในประเทศจอร์แดนนั้น ไม่มีข้อมูลรายละเอียดของเขาเลย และเขากลับมายังเกาะมินดาเนาเมื่อไหร่ ก็ยังเป็นปมคำถามอยู่….
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของฟิลิปปินส์เชื่อว่า เมาเต้ เป็นหนึ่งในบรรดาสี่กลุ่มก่อการร้าย – วาฮาบี ไอซิส ที่ได้ร่วมสาบานในการจงรักภักดีกับแกนนำไอซิส และเมาเต้เป็นแกนนำของกลุ่มก่อการร้ายนี้ ซึ่งกลุ่มเมาเต้ ถือเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่มีสมาชิกที่ ฉลาดที่สุด มีการศึกษามากที่สุดและเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่สลับซับซ้อนในฟิลิปปินส์
กลุ่มเมาเต้ ได้ประกาศตนครั้งแรกในปี 2013 ด้วยการวางระเบิดไนต์คลับใน ‘Chagayan de Oro’ และเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมาที่ได้วางระเบิดในเมืองดาเวา ‘บ้านเกิด’ โรดริโก ดูเตเต้ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์
สมาชิกของเมาเต้ถูกจับกุมตัวหลังจากลอบวางระเบิดดังกล่าวและอ้างว่าเป็นการโจมตีตามคำสั่งของผู้นำอาบู ซายาฟ
ขณะนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์กำลังเผชิญหน้ากับความขัดแย้งในภาคใต้ของประเทศที่เป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาค แต่หากมองไปที่ประวัติศาสตร์และสถานการณ์ในมินดาเนา ชี้ให้เห็นว่ารากเหง้าแห่งความคลั่งไคล้ในภูมิภาคในการกำจัดกลุ่มก่อการร้ายเมาเต้นั้นไม่อาจง่ายดายอย่างที่คิด