เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสิงค์โปร เผย “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นพื้นที่เอื้อต่อการปฏิบัติการก่อการร้าย”

1498

irna  – เจ้าหน้าที่อาวุโสสิงคโปร์ได้เผยเมื่อวันอังคารที่ 19   มกราคม 59   หลังจากผู้ก่อการร้ายไอซิส ได้โจมตีกรุง ‘จาการ์ตา’ อินโดนีเซีย และการจับกุมผู้ก่อการร้ายในประเทศมาเลเซียหลายสิบคน  ยอมรับว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นพื้นที่ที่เอื้ออำนวยและพร้อมในการปฏิบัติการก่อการร้าย

คี ชอง ควน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสิงคโปร์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมและมหาดไทย–รับผิดชอบในงานด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  กล่าวว่า ความล้มเหลวที่ผ่านมาของการเป็นผู้นำในภูมิภาคเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับ ‘การระเบิดของก่อการร้ายบนพื้นฐานของศาสนา’

เขากล่าวว่า ความล้มเหลวเหลานี้เป็นผลมาจาก ‘การแสวงหาผลประโยชน์แห่งการเหยียดหยาม’ ด้านเชื้อชาติและศาสนาซึ่งถูกกำหนดโดยผู้นำทางศาสนาบางคนและ Secular  อีกทั้งการไม่มุ่งเน้นการพัฒนา การศึกษาจากรัฐบาล และการขาดความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาการเมืองหลายชาติเผ่าในประเทศ

เจ้าหน้าที่อาวุโสของสิงคโปร์เชื่อว่า สถานการณ์เช่นนี้ในปีที่ผ่านมาหลังจากการปรากฏตัวของกลุ่มตักฟีรีไอซิสในตะวันออกกลางได้ทวีความรุนแรงขึ้น  และการโจมตีที่ร้ายแรงที่ผ่านมาในใจกลางกรุงจากาตาร์อินโดนีเซียนั้น มีความสัมพันธ์โดยตรงกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส

เขากล่าวเสริมว่า การบรรยายของนักพูดที่สนับสนุนความอคติและความรุนแรง  การเข้าถึงหลักคำสอนแห่งความรุนแรงอย่างง่ายดายจากโลกอินเทอร์เน็ตและการยกย่องการก่อการร้าย ความรุนแรงและการตัดศีรษะ คือปัจจัยแห่งการเติบโตและการพัฒนาของการก่อการร้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เขากล่าวเสริมว่า กลุ่มหัวรุนแรงดังกล่าวต้องการที่จะล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและสร้างรัฐอิสลามขึ้นมา
เขากล่าวย้ำว่า ค่าใช้จ่ายในการนี้จะมีแต่เลือดความทุกข์ยากและความสูญเสียเท่านั้น  แต่ทว่าอุดมการณ์และความคิดเช่นนี้จะไม่มีวันประสบความสำเร็จ

ตามรายงานสำนักข่าวเอเชีย เผยว่า  เจ้าหน้าที่ของสิงค์โปรแสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ล่าสุดในมาเลเซียและการที่เจ้าหน้าที่สามารถการสกัดกั้นการวางแผนก่อเหตุโจมตีของผู้ก่อการร้าย และกล่าวเสริมว่า  ในบรรดาผู้ที่ถูกจับกุมมีบุคลากรกองกำลังความมั่นคงร่วมอยู่ด้วย เช่น คอมมานโด ตำรวจ ข้าราชการและลูกจ้าง ซึ่งบุคคลเหล่านี้รู้จักสถานที่มีความละเอียดอ่อน อาวุธ และสามารถเข้าถึงข้อมูลซึ่งจะเป็นภัยคุกคามความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

เขาได้ชี้ถึง ผลการสำรวจของสำนักโพล  Pew Research Center   ที่บ่งชี้ว่าร้อยละ 10 ของชาวมาเลเซียให้การสนับสนุนความรุนแรง ความคลั่งไคล้ และกลุ่มก่อการร้ายตักฟีรี

ตามสถิติของศูนย์การศึกษา ‘Merdeka  เผยว่า ร้อยละ 53 ของมาเลเซียให้การสนับสนุนกฎหมายการตัดแขนขาสำหรับการโจรกรรมและการป่าหินลงโทษผู้ที่ล่วงประเวณี

เขาเชื่อว่า การปล่อยตัวนักโทษก่อการร้ายจำนวนมากจะก่อให้เกิดภัยอันตรายของก่อการร้ายในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น  ซึ่งเรือนจำที่ได้คุมขังผู้ก่อการร้ายจำนวนมากนั้น กลายเป็นสถานปมเพาะและดึงดูดบรรดากองกำลังของกลุ่มก่อการร้าย

เขากล่าวว่า นักโทษหลายร้อยคนในอินโดนีเซียจะได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ ตามเงื่อนไขของเรือนจำ หรือจะได้รับการปล่อยตัวในช่วงปลายปีนี้ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค

เขากล่าวเสริมว่า การร้องเรียนและเงื่อนไขทางเศรษฐกิจและสังคมของชนกลุ่มน้อยในประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และพม่า จะยิ่งเพิ่มภัยคุกคามของการก่อการร้ายมากขึ้น

บางสถิติแสดงให้เห็นว่า มีพลเมืองของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับพันคนได้เข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในอิรักและซีเรีย และกลับมายังประเทศของตนก็จะเพิ่มความเสี่ยงและภัยคุกคามต่อภูมิภาค
http://www.irna.ir/fa/News/81927394/