ผู้อยู่ในเหตุการณ์พิธีฮัจย์ เล่านาทีสุดระทึก ชี้ความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ซาอุ คือต้นเหตุโศกนาฏกรรม

4822

ขณะที่ทางการซาอุฯพยายามที่จะโยนความผิดให้กับบรรดาผู้แสวงบุญต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น  ในขณะเดียวกันบรรดาผู้อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวบางคน เผยว่า  ต้นเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เนื่องจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ซาอุฯ

Presstv  –    คอลิด อัลฟาและห์  รัฐมนตรีกระทรงสาธารณสุขของซาอุดิอาระเบีย  ประกาศว่า โศกนาฏกรรมอันเศร้าสลดครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากความไร้ระเบียบและไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของเรา  ซึ่งหาก “บรรดาผู้แสวงบุญปฏิบัติตามคำแนะนำของเราแล้ว เหตุการณ์อันเศร้าสลดครั้งนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น”

แต่ทว่าผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอีกลักษณะหนึ่ง ที่ต่างจากคำกล่าวอ้างของทางการซาอุดิอาระเบีย
ผู้รอดชีวิตบางคนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เล่าว่า  ความแออัดชุลมุนของผู้แสวงบุญเกิดขึ้นหลังจากกองกำลังรักษาความปลอดภัยของซาอุดิอาระเบีย  ได้พยายามสกัดเคลื่อนขบวนของผู้แสวงบุญยังถนนแคบๆ ซึ่งไม่มีทางออก

อับดุลลอฮ์ ลุตฟี วัย  44   ปี  ผู้แสวงบุญชาวอียิปต์ ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับ หนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน  ว่า   ผมเห็นชายคนหนึ่งมีอาการอ่อนเพลีย ขาสั่น  ล้มลงทับชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนรถเข็นคันหนึ่ง  ถัดจากนั้นก็ได้มีชายจำนวนหนึ่งได้ล้มทับบนเรือนร่างของชายดังกล่าว  (หลังจากนั้น) ประชาชนผู้แสวงบุญต่างตกตระหนกพากันวิ่งหนีอลมาน เพื่อสูดอากาศหายใจ ….. มันเหมือนดังคลื่นมหาชน….  จากนั้นผมก็ได้เดินก้าวไปข้างหน้าและแล้วก็หันกลับ

ผู้อยู่ในเหตุการณ์อีกคนหนึ่ง ดร. อับดุลรอฮ์มาน  ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว เอเอพพี ว่า  “ ผมเห็นผู้แสวงบุญจำนวนหนึ่งล้มลงกับพื้น  ซึ่งล้มทับใส่เรือนร่างอีกจำนวนหนึ่ง  จากนั้นได้ยินเสียงร้องของผู้แสวงบุญที่เป็นสตรีและผู้สูงวัย  ร้องขอความช่วยเหลือ…….  ผมพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเอาตัวเองให้หลุดออกจากผู้คนที่แออัดจำนวนดังกล่าว  เสื้อผ้าของผมหลุดออกมาและขาดวิ่นเป็นชิ้นๆ  แต่มันไม่ใช่สิ่งสำคัญ และในที่สุดก็สามารถหลุดออกมาได้”

829c3f5f-e34b-41e3-86a6-1e878a469b5c

กองกำลังรักษาความปลอดภัยของซาอุดิอาระเบีย สร้างวิกฤติของเหตุการณ์ให้รุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีก

ดร อับดุลเราะฮ์มาน ยังเปิดเผยถึงบทบาทของกองกำลังรักษาความปลอดภัยของซาอุฯ ที่พยายามสร้างวิกฤติให้รุนแรงมากขึ้นว่า  “จากนั้นผมพยายามที่จะเข้าไปในแคมป์ที่อยู่ข้างๆ  แต่ทางกองกำลังรักษาความปลอดภัยปิดกั้นและไม่อนุญาตให้เข้าไป  ไม่ยอมให้ใครเข้าไปในแคมป์  ซึ่งทำให้วิกฤติเหตุการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้น”

“ผมตระหนักว่า ปัญหาหลักคือ ขาดทางออกฉุกเฉิน  ซึ่งควรที่จะมีการสร้างทางออกฉุกเฉินตลอดเส้นทางไว้ ในทุกๆระยะทาง 50   เมตร”

เขาได้ตำหนิบทบาทของเจ้าหน้าที่ซาอุฯ ในการควบคุมวิกฤติ ว่า   เจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบีย มีความเฉื่อยชาในการเข้าไปช่วยเหลือต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้

dbb6556e-f8e4-4f22-9277-3d9ae4d8f5c7ผมเห็นเจ้าหน้าที่ของกองกำลังกรมป้องกันภัยพลเรือน  แต่พวกเขามาถึงที่เกิดเหตุช้ามาก

อะห์มัด อบูบักร์  ผู้แสวงบุญชาวลิเบีย วัย  45   ปี  ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ฝรั่งเศส  ต่อความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ซาอุฯ ต่อเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ว่า  “คลื่นขบวนเริ่มหลั่งไหลจำนวนมาก  ตำรวจได้ปิดเส้นทางออกทั้งหมดที่จะเข้าถึงยังแคมป์ของผู้แสวงบุญ  โดยเปิดเส้นทางเพียงแค่หนึ่งทางเท่านั้น…..  พวกเขาเหล่านี้ไม่เป็นอะไรสักอย่าง และไม่รู้อะไรแม้แต่สัญลักษณ์เส้นทาง และแคมป์รอบๆ ดังกล่าว”

อิรฟาน อัลอาลาวี  ประธานมูลนิธิมรดกอิสลาม  ได้เห็นเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด เล่าว่า  “ตำรวจที่เข้ามาทำหน้าที่ ไม่เป็นอะไรสักอย่าง  ไม่รู้ว่าจะสื่อสารกับผู้แสวงบุญอย่างไร  พวกเขาไม่สามารถที่จะควบคุมผู้แสวงบุญ”

หมิ่นผู้แสวงบุญ

ผู้แสวงบุญชาวอียิปต์คนหนึ่ง ได้ตำหนิการทำงานของตำรวจซาอุดิอาระเบีย ว่า   ตำรวจซาอุดิอาระเบีย ได้ดูหมิ่นผู้แสวงบุญชาวแอฟริกา

“กองกำลังจำนวนมากที่รวมตัวกัน ณ สถานที่ดังกล่าว  แต่ไม่ได้ทำอะไรเลย  และได้พูดกับผมว่า “ช่วยมาตรวจสอบดูศพนี่หน่อย ว่าเป็นผู้เสียชีวิตชาวอียิปต์หรือไม่”

892b3b43-53b8-49d0-bc21-b10c35ef8966

การทุจริตของรัฐบาล  และไม่มีกฎระเบียบ ของเจ้าหน้าที่ซาอุ คือต้นเหตุหลักในโศกนาฏกรรมที่ มินา

นักการเมืองคนหนึ่งที่ไม่ประสงค์ออกนาม เพราะเกรงว่าทางการซาอุดิอาระเบียจะปราบปราม ได้เปิดเผยว่า  การทุจริตของรัฐบาล  และไม่มีกฎระเบียบของเจ้าหน้าที่ซาอุ คือต้นเหตุหลักในโศกนาฏกรรมที่ มินา

นักการเมืองอีกคนหนึ่งในเมืองมักกะห์ เปิดเผยกับ หนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน ว่า  “เราไม่ได้แปลกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้  เพราะเรากำลังรอดูเหตุการณ์ที่มีความเลวร้ายกว่านี้อีกที่จะเกิดขึ้นในช่วงพิธีฮัจญ์ ”

“ทว่า บางครั้งประเด็นนี้อาจไม่ใช่เป็นเรื่องปรกติสำหรับประเทศอื่นๆ   แต่หากพิจารณาในประเด็นเรื่องการทุจริตอย่างแพร่หลายในประเทศนี้นั้น  เหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นมันจะเปลี่ยนให้เป็นโศกนาฏกรรมขึ้นมาสำหรับเรา  ซึ่งเราต้องรอดูโศกนาฏกรรมที่อาจจะเลวร้ายกว่านี้เสียอีก”

เขาได้ชี้ถึงแผนการขยายบริเวณรอบเมืองมักกะฮ์ ในระยะเวลายี่สิบปี ว่า  ทางการซาอุดิอาระเบีย ได้สร้างโรงพยาบาลแห่งเดียวเท่านั้นสำหรับการให้บริการแก่บรรดาผู้แสวงบุญ  และไม่ได้ติดตั้งระบอบการป้องกันภัยดับเพลิงเลยในบริเวณมัสยิดอัลฮะรอม

ในแต่ละปีจะมีผู้แสวงบุญจากทั่วทุกโลกหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ประมาณ  สอง ล้านกว่าคน   ซึ่งในปีนี้ ตามการประกาศของซาอุดิอาระเบีย  มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครนยักษ์ถล่มและเหตุการณ์เหยียบกันตาย ที่มินา  จำนวน 1000   กว่าคน    และเหตุการณ์ที่มินา  ทำให้เกิดข้อสงสัยอย่างจริงจังขึ้นมา  ถึงการไร้ความสามารถของทางการซาอุดิอาระเบียในการบริหารจัดการดูแลความปลอดภัยของผู้แสวงบุญที่มาจากทั่วทุกมุมโลก

http://www.presstv.ir/DetailFa/2015/09/25/430632/Saudi-Stampede-Survivors