นโยบายการเมืองของอเมริกา คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ในตะวันออกกลางนับล้านคน

2640

สถิติล่าสุด เผยว่า ผลการโจมตีของอเมริกาในตะวันออกลาง โดยเฉพาะในอิรัก นับตั้งแต่ปี  2003   ภายใต้การนำเสนอประชาธิปไตยสู่อิรัก   ได้คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์มาแล้ว  1.5   ล้านคน และสตรีต้องกลายเป็นหญิงม่าย 1   ล้านกว่าคน   และทรัพยากรใต้ดินและน้ำของประเทศถูกปล้นสะดมเกือบหมดสิ้น

สำนักข่าวอับน่าของอิหร่านรายงานว่า ดีน ดาร์ ซีนบอรีย์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลกิจการผู้อพยพผลัดถิ่นชนส่วนน้อยแห่งเมืองเคริด์ ในอิรัก เผยถึงสถานะภาพล่าสุดของพี่น้องชาวอิรักว่า  ปัจจุบัน มีพี่น้องประชาชนต้องอพยพผลัดถิ่นแล้วจำนวน 2,300,000    คน   ขณะเดียวกันผู้อพยพหนี้ภัยสงครามจากซีเรียเข้าอิรักอีกจำนวน  230,000   คน  ทำให้การดูแลและการให้ความช่วยเหลือมีอุปสรรค์ปัญหามากยิ่งขึ้น

อีกด้านหนึ่ง สืบเนื่องจากนโยบายทางการเมืองของอเมริกาในการส่งออกระบอบประชาธิปไตยยังซีเรียนั้น ทำให้ประชาชนชาวซีเรียจำนวน  4   ล้านกว่าคน ต้องอพยพหนี้ออกจากประเทศ

ทางคณะกรรมการของสหประชาชาติเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่น  เผยว่า ยอดผู้อพยพลี้ภัยยังประเทศต่างๆที่ใกล้เคียงจากนโยบายการส่งออกประชาธิปไตยของอมริกา   มีจำนวนทั้งสิ้น 4  ล้านคน    อพยพยังประเทศตุรกี   2   ล้านคน    ยังเลบานอน   1.1   ล้านคน   จอร์แดน  961,000   คน  และ 230,000    คนยังอิรัก  นอกเหนือจากนั้นกระจัดกระจายสู่ประเทศต่างๆทั่วโลก  ภายในประเทศซีเรีย มีผู้อพยพผลัดถิ่นจำนวน  6.5    ล้านคน

นโยบายการส่งออกประชาธิปไตยของอเมริกา ยังอัฟกานิสถาน ทำให้ประชาชนไร้อาคารบ้านเรือนที่อยู่อาศัย   10    ล้านคน   โดยที่พี่น้องชาวอัฟกานิสถานจำนวน 5   ล้าน ต้องเร่ร่อนอพยพอาศัยยังประเทศต่างๆทั่วโลก  นอกจากนั้น  ยังต้องนอนค่ายผู้อพยพลี้ภัยอีก จำนวน 3.6   ล้านคน

นโยบายการสร้างความแตกแยกและการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในแอฟริกของอเมริกา ทำให้พี่น้องประชาชนในแอฟริกาตกอยู่ในสถานะภาพเช่นเดียวกับชาวตะวันออกกลาง  ซึ่งปัจจุบัน ผลของเกิดวิกฤติเหตุการณ์ทางการเมือง ทำให้ชาวแอฟริกาต้องอพยพเข้าสู่เยเมน จำนวน  660,000   คนแล้ว

ในลิเบีย จากเหตุการณ์สงครามภายในและหลังจากที่นาโต้เข้าไปแทรกแซงโดยตรง  ทำให้ชาวลิเบียต้องอพยพผลัดถิ่นภายในประเทศ แล้วจำนวน  600,000   คน

ทั้งหมดเหล่านี้เป็นผลลัพธ์ของนโยบายการส่งออกประชาธิปไตยของอเมริกา…