presstv – อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ระบุ แนวทางในการแก้ไขวิกฤตเยเมนก็คือ ยุติการโจมตีและการแทรกแซงของต่างชาติต่อประชาชนของประเทศนี้
ในช่วงบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา (7 เมษายน 2558 ) รอญับ ต็อยยิบ อุรดุฆอน ประธานาธิบดีตุรกี ได้เข้าพบอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ซึ่ง อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า วิกฤติในเยเมนคือ อีกตัวอย่างหนึ่งจากปัญหาใหม่ของโลกอิสลาม และกล่าวในโอกาสนี้ว่า “จุดยืนของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านเกี่ยวกับทุกประเทศรวมทั้งเยเมนนั้น คือการต่อต้านการแทรกแซงจากต่างประเทศ ดังนั้นเราเชื่อว่าแนวทางในการแก้ไขวิกฤตเยเมนก็คือการยุติการโจมตีและการแทรกแซงของต่างชาติต่อประชาชนของประเทศนี้”
ซาอุดิอาระเบีย ได้โจมตีเยเมน เมื่อวันที่ 26 มีนาคม โดยอ้างเพื่อให้มันศูร ฮาดีย์ อดีตประธานาธิบดีเยเมน กลับคืนสู่อำนาจอีกครั้ง ซึ่งฮาดีย์ เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับริยาด
ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำว่า ชาวเยเมนจะต้องตัดสินใจสำหรับอนาคตของประเทศของพวกเขาเอง และเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของ “การตื่นตัวของอิสลามโดยรวม” คือสาเหตุหลักของความวิตกกังวลของบรรดาศัตรู
ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามถือว่า เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของ “การตื่นตัวของอิสลามโดยรวม” และความกระหายของประชาชาติทั้งหลายต่ออิสลามนั้น คือสาเหตุหลักของความวิตกกังวลของบรรดาศัตรู และกล่าวว่า “ในการเผชิญหน้ากับการตื่นตัวนี้ บรรดาศัตรูของอิสลามได้เริ่มต้นการต้านทานการโจมตีตนเองมาเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว ความจริงที่น่าเศร้าใจก็คือว่า รัฐบาลอิสลามบางประเทศได้ทรยศ ได้มอบเงินและปัจจัยจำเป็นต่างๆ ของตนให้แก่ศัตรู”
อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึง แผนการต่างๆของศัตรูในการเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ว่า “วันนี้อเมริกาและไซออนิสต์ รู้สึกปิติยินดีและมีความสุขต่อความขัดแย้งภายในที่เกิดขึ้นกับประเทศอิสลาม และแนวทางในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้คือ ความร่วมมือกันระหว่างประเทศอิสลามและการดำเนินการภาคปฏิบัติต่างๆที่สร้างสรรค์และเหมาะสม”
เหตุการณ์ในอิรักและซีเรีย
อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า “เราได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่า ประเทศอิสลามจะไม่ได้รับประโยชน์อันใดในการมอบความไว้วางใจต่อตะวันตกและอเมริกา ซึ่งวันนี้เราทั้งหมดล้วนได้ประจักษ์เห็นแล้วว่า ผลของการดำเนินการต่างๆของตะวันตกในภูมิภาคนั้น มันได้สร้างความเสียหายต่ออิสลามและภูมิภาคอย่างใหญ่หลวง”
อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในบางประเทศในภูมิภาค และการกระทำต่างๆที่ป่าเถื่อนโหดร้ายของกลุ่มก่อการร้ายในอิรักและซีเรีย ว่า “หากผู้ใดไม่เห็นมือที่ซ่อนเร้นที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้แล้ว แน่นอนยิ่งพวกเขากำลังหลอกตัวเอง”
ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ได้ชี้ ถึงการปฏิบัติการของกลุ่มก่อการ้ายในภูมิภาค ยิวไซอนิสต์ และตะวันตกบางชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา ดีใจอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ และพวกเขาไม่มีการตัดสินใจอย่างจริงจังเลยในการปราบปรามทำลายไอซิสให้สิ้นซาก
ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้พูดถึงตัวอย่างบางส่วนของความโหดร้ายป่าเถื่อนที่ไม่มีใครเหมือนของกลุ่มไอซิส
นอกจากนี้ยังได้พูดถึงเป้าหมายหลักของกลุ่มก่อการร้ายนี้ในการพิชิตกรุงแบกแดด พร้อมกับนำเสนอคำถามหลักที่ว่า “ใครบ้างที่ให้การสนับสนุนทางด้านการเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์แก่คนกลุ่มเหล่านี้?!”
อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า แน่นอนยิ่งชาวต่างชาติไม่ต้องการให้ปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไข ดังนั้นบรรดาประเทศอิสลามจำเป็นจะต้องตัดสินใจในการแก้ไขปัญหานี้เอง แต่เป็นที่น่าเสียใจที่การตัดสินใจร่วมกันที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ยังไม่เกิดขึ้น
อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงสถานการณ์ในอิรัก พร้อมกับการชี้ถึงความช่วยเหลือของอิหร่านต่อประชาชนอิรักในการยับยั้งการพิชิตของกลุ่มก่อการร้าย โดยกล่าวเสริมว่า อิหร่านไม่ได้เข้าร่วมทางทหารในอิรัก แต่ทั้งสองประเทศนี้มีความสัมพันธ์อันเป็นประวัติศาสตร์ที่ใกล้ชิดและหยั่งรากฝังลึกต่อกัน
ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม แสดงความหวังในการเพิ่มขึ้นของพลังอำนาจและเกียรติศักดิ์ศรีของโลกอิสลาม พร้อมกับย้ำถึงความพร้อมของอิหร่านในการแลกเปลี่ยนทัศนะ การเจรจาและการปรึกษาหารือร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาของภูมิภาค
การเสริมสร้างและกระชับมิตรระหว่างเตหะรานและอังการ่า
อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงผลประโยชน์ร่วมระหว่างอิหร่านกับตุรกี ในการเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์ ว่า อำนาจและความแข็งแกร่งของประเทศมุสลิมในโลกอิสลามนั้น ในความเป็นจริงแล้วคืออำนาจและความแข็งแกร่งของประชาชาติอิสลาม และนโยบายทั่วไปของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน คือการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศอิสลามซึ่งกันและกัน อีกทั้งหลีกเลี่ยงการสร้างความอ่อนแอต่อกันและการเสริมสร้างความเข้มแข็งของความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและตุรกีนั้น จะสามารถช่วยตอบสนองวัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้ให้สัมฤทธิ์ผลเช่นเดียวกัน
ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำว่า เราได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่า ประเทศอิสลามจะไม่ได้รับประโยชน์อันใดในการมอบความไว้วางใจต่อตะวันตกและอเมริกา ซึ่งวันนี้เราทั้งหมดล้วนได้ประจักษ์เห็นแล้วว่า ผลของการดำเนินการต่างๆ ของตะวันตกในภูมิภาคนั้น มันได้สร้างความเสียหายต่ออิสลามและภูมิภาคอย่างใหญ่หลวง
นายรอญับ ต็อยยิบ อุรดูฆอน ประธานาธิบดีตุรกี ได้ชี้ถึงการเจรจาของตนในเตหะราน โดยกล่าวว่า ในการเดินทางครั้งนี้เราได้มีการพิจารณาปัญหาต่างๆ ร่วมกัน และเราได้ทำการเจรจากันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ รวมทั้งปัญหาต่างๆ ของภูมิภาค
เขาได้ชี้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเตหะรานและอังการ่าในด้านพลังงาน พร้อมกับกล่าวว่า สภาความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจระหว่างอิหร่านและตุรกีได้ถูกจัดตั้งขึ้นแล้ว และเราได้ออกคำสั่งแก่บรรดารัฐมนตรีของเราให้ติดตามงานต่างๆ
ประธานาธิบดีตุรกี ย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของตะวันออกกลางภายในหมู่พวกเขากันเอง โดยปราศจากการแทรกแซงของตะวันตก โดยกล่าวว่า มีปัญหามากมายในภูมิภาคที่จำเป็นต้องแก้ไขด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และจะต้องไม่รอคอยให้ตะวันตกมาแก้ไขปัญหาเหล่านี้
ประธานาธิบดีตุรกี ยังได้อธิบายอีกว่า ขอประณามอาชญากรรมต่างๆ ของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส พร้อมกับย้ำว่า ข้าพเจ้าไม่นับว่ากลุ่มไอซิส นั้นเป็นมุสลิม และข้าพเจ้าก็ได้แสดงจุดยืนต่อต้านกลุ่มนี้ไปแล้ว
อุรดุฆอน พร้อมคณะ ได้มาเยือนกรุงเตหะราน เมื่อวันเช้าวันอังคารที่ผ่านมา ( 7 เมษายน) ตามคำเชิญของประธานาธิบดีอิหร่าน