ผู้นำสูงสุดอิหร่านชี้ ทางแก้วิกฤตเยเมน คือยุติการโจมตีและการแทรกแซงของต่างชาติ

937

presstv – อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ระบุ แนวทางในการแก้ไขวิกฤตเยเมนก็คือ ยุติการโจมตีและการแทรกแซงของต่างชาติต่อประชาชนของประเทศนี้

ในช่วงบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา (7 เมษายน 2558 )   รอญับ ต็อยยิบ อุรดุฆอน  ประธานาธิบดีตุรกี ได้เข้าพบอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี  ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม   ซึ่ง อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี   ถือว่า วิกฤติในเยเมนคือ  อีกตัวอย่างหนึ่งจากปัญหาใหม่ของโลกอิสลาม  และกล่าวในโอกาสนี้ว่า “จุดยืนของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านเกี่ยวกับทุกประเทศรวมทั้งเยเมนนั้น  คือการต่อต้านการแทรกแซงจากต่างประเทศ ดังนั้นเราเชื่อว่าแนวทางในการแก้ไขวิกฤตเยเมนก็คือการยุติการโจมตีและการแทรกแซงของต่างชาติต่อประชาชนของประเทศนี้”

ซาอุดิอาระเบีย ได้โจมตีเยเมน เมื่อวันที่   26    มีนาคม โดยอ้างเพื่อให้มันศูร ฮาดีย์ อดีตประธานาธิบดีเยเมน กลับคืนสู่อำนาจอีกครั้ง ซึ่งฮาดีย์ เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับริยาด

ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำว่า ชาวเยเมนจะต้องตัดสินใจสำหรับอนาคตของประเทศของพวกเขาเอง  และเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของ  “การตื่นตัวของอิสลามโดยรวม” คือสาเหตุหลักของความวิตกกังวลของบรรดาศัตรู

ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามถือว่า  เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของ “การตื่นตัวของอิสลามโดยรวม” และความกระหายของประชาชาติทั้งหลายต่ออิสลามนั้น คือสาเหตุหลักของความวิตกกังวลของบรรดาศัตรู และกล่าวว่า   “ในการเผชิญหน้ากับการตื่นตัวนี้ บรรดาศัตรูของอิสลามได้เริ่มต้นการต้านทานการโจมตีตนเองมาเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว ความจริงที่น่าเศร้าใจก็คือว่า รัฐบาลอิสลามบางประเทศได้ทรยศ ได้มอบเงินและปัจจัยจำเป็นต่างๆ ของตนให้แก่ศัตรู”

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี    ได้ชี้ถึง แผนการต่างๆของศัตรูในการเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ว่า   “วันนี้อเมริกาและไซออนิสต์ รู้สึกปิติยินดีและมีความสุขต่อความขัดแย้งภายในที่เกิดขึ้นกับประเทศอิสลาม   และแนวทางในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้คือ ความร่วมมือกันระหว่างประเทศอิสลามและการดำเนินการภาคปฏิบัติต่างๆที่สร้างสรรค์และเหมาะสม”

 

เหตุการณ์ในอิรักและซีเรีย

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี  กล่าวย้ำว่า   “เราได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่า ประเทศอิสลามจะไม่ได้รับประโยชน์อันใดในการมอบความไว้วางใจต่อตะวันตกและอเมริกา  ซึ่งวันนี้เราทั้งหมดล้วนได้ประจักษ์เห็นแล้วว่า  ผลของการดำเนินการต่างๆของตะวันตกในภูมิภาคนั้น มันได้สร้างความเสียหายต่ออิสลามและภูมิภาคอย่างใหญ่หลวง”

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในบางประเทศในภูมิภาค และการกระทำต่างๆที่ป่าเถื่อนโหดร้ายของกลุ่มก่อการร้ายในอิรักและซีเรีย ว่า  “หากผู้ใดไม่เห็นมือที่ซ่อนเร้นที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้แล้ว  แน่นอนยิ่งพวกเขากำลังหลอกตัวเอง”

ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ได้ชี้ ถึงการปฏิบัติการของกลุ่มก่อการ้ายในภูมิภาค ยิวไซอนิสต์ และตะวันตกบางชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา ดีใจอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ และพวกเขาไม่มีการตัดสินใจอย่างจริงจังเลยในการปราบปรามทำลายไอซิสให้สิ้นซาก

ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้พูดถึงตัวอย่างบางส่วนของความโหดร้ายป่าเถื่อนที่ไม่มีใครเหมือนของกลุ่มไอซิส

นอกจากนี้ยังได้พูดถึงเป้าหมายหลักของกลุ่มก่อการร้ายนี้ในการพิชิตกรุงแบกแดด  พร้อมกับนำเสนอคำถามหลักที่ว่า “ใครบ้างที่ให้การสนับสนุนทางด้านการเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์แก่คนกลุ่มเหล่านี้?!”

อยาตุลลอฮ์  คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า   แน่นอนยิ่งชาวต่างชาติไม่ต้องการให้ปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไข ดังนั้นบรรดาประเทศอิสลามจำเป็นจะต้องตัดสินใจในการแก้ไขปัญหานี้เอง  แต่เป็นที่น่าเสียใจที่การตัดสินใจร่วมกันที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ยังไม่เกิดขึ้น

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี  ได้ชี้ถึงสถานการณ์ในอิรัก พร้อมกับการชี้ถึงความช่วยเหลือของอิหร่านต่อประชาชนอิรักในการยับยั้งการพิชิตของกลุ่มก่อการร้าย โดยกล่าวเสริมว่า อิหร่านไม่ได้เข้าร่วมทางทหารในอิรัก แต่ทั้งสองประเทศนี้มีความสัมพันธ์อันเป็นประวัติศาสตร์ที่ใกล้ชิดและหยั่งรากฝังลึกต่อกัน

ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม แสดงความหวังในการเพิ่มขึ้นของพลังอำนาจและเกียรติศักดิ์ศรีของโลกอิสลาม พร้อมกับย้ำถึงความพร้อมของอิหร่านในการแลกเปลี่ยนทัศนะ การเจรจาและการปรึกษาหารือร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาของภูมิภาค
การเสริมสร้างและกระชับมิตรระหว่างเตหะรานและอังการ่า

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงผลประโยชน์ร่วมระหว่างอิหร่านกับตุรกี ในการเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์ ว่า  อำนาจและความแข็งแกร่งของประเทศมุสลิมในโลกอิสลามนั้น ในความเป็นจริงแล้วคืออำนาจและความแข็งแกร่งของประชาชาติอิสลาม  และนโยบายทั่วไปของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน คือการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศอิสลามซึ่งกันและกัน  อีกทั้งหลีกเลี่ยงการสร้างความอ่อนแอต่อกันและการเสริมสร้างความเข้มแข็งของความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและตุรกีนั้น จะสามารถช่วยตอบสนองวัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้ให้สัมฤทธิ์ผลเช่นเดียวกัน

ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำว่า เราได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่า ประเทศอิสลามจะไม่ได้รับประโยชน์อันใดในการมอบความไว้วางใจต่อตะวันตกและอเมริกา  ซึ่งวันนี้เราทั้งหมดล้วนได้ประจักษ์เห็นแล้วว่า  ผลของการดำเนินการต่างๆ ของตะวันตกในภูมิภาคนั้น มันได้สร้างความเสียหายต่ออิสลามและภูมิภาคอย่างใหญ่หลวง

นายรอญับ ต็อยยิบ อุรดูฆอน  ประธานาธิบดีตุรกี ได้ชี้ถึงการเจรจาของตนในเตหะราน โดยกล่าวว่า ในการเดินทางครั้งนี้เราได้มีการพิจารณาปัญหาต่างๆ ร่วมกัน และเราได้ทำการเจรจากันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ รวมทั้งปัญหาต่างๆ ของภูมิภาค

เขาได้ชี้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเตหะรานและอังการ่าในด้านพลังงาน พร้อมกับกล่าวว่า สภาความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจระหว่างอิหร่านและตุรกีได้ถูกจัดตั้งขึ้นแล้ว และเราได้ออกคำสั่งแก่บรรดารัฐมนตรีของเราให้ติดตามงานต่างๆ

ประธานาธิบดีตุรกี  ย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของตะวันออกกลางภายในหมู่พวกเขากันเอง โดยปราศจากการแทรกแซงของตะวันตก โดยกล่าวว่า  มีปัญหามากมายในภูมิภาคที่จำเป็นต้องแก้ไขด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และจะต้องไม่รอคอยให้ตะวันตกมาแก้ไขปัญหาเหล่านี้

ประธานาธิบดีตุรกี ยังได้อธิบายอีกว่า  ขอประณามอาชญากรรมต่างๆ ของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส    พร้อมกับย้ำว่า  ข้าพเจ้าไม่นับว่ากลุ่มไอซิส  นั้นเป็นมุสลิม และข้าพเจ้าก็ได้แสดงจุดยืนต่อต้านกลุ่มนี้ไปแล้ว

อุรดุฆอน พร้อมคณะ ได้มาเยือนกรุงเตหะราน เมื่อวันเช้าวันอังคารที่ผ่านมา ( 7   เมษายน)  ตามคำเชิญของประธานาธิบดีอิหร่าน