แม้กลุ่มก่อการร้ายไอซิสจะพ่ายแพ้อย่างกว้างขวาง ในอิรักและซีเรีย อย่างไรก็ดี ขบวนการนี้ยังคงถูกรู้จักในนาม “กลุ่มก่อการร้าย” อิสลามสุดโต่ง หนึ่งกลุ่มที่อันตรายที่สุดในโลก
กลุ่มไอซิสได้สูญเสียฐานประจำการต่างๆในอิรักและซีเรียในปี 2017 โดยที่ พวกเขาต้องสูญเสียการควบคุมเมืองอิรักทั้งหมดและเมืองต่างๆในซีเรีย อย่างไรก็ตาม ทางสถานีNBC ได้เขียนไว้ในรายงานเชิงวิเคราะห์ว่า “กลุ่มอิสลามสุดโต่งนี้จะยังคงเป็นภัยคุกคามที่อันตรายที่สุดต่อประชาคมระหว่างประเทศ ในปี 2018”
Peter Vincent ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการก่อการร้ายในการสนทนากับสถานีดังกล่าว ระบุว่า “แม้ว่ากลุ่มนี้ได้สูญเสียกำลังอย่างจริงจัง แต่ก็เป็นเหมือนเสือดาวบาดเจ็บที่กำลังหลบซ่อนตัวในมุมหนึ่ง ซึ่งมันจะย้อนกลับมาด้วยความรุนแรงและความป่าเถื่อนที่มากขึ้น” ตามความเชื่อของ Peter Vincent ถือว่า สงครามกับ ISIS จะดำเนินการต่อไปในปี 2018 และจะมีผู้คนจำนวนมากที่ต้องตกเป็นเหยื่อ
ในปี 2017 ไอซิสสูญเสียการควบคุมเมืองหลวงสองแห่งในอิรักและซีเรีย คือเมือง โมซูลและรักกาห์ ในช่วงต้นเดือนธันวาคมกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาได้ออกรายงาน โดยระบุว่า กลุ่มนี้ได้สูญหายพื้นที่ไปร้อย 97 ในอิรักและซีเรียในปี2017 อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีอิรัก Haydar Ebadi กล่าวว่า “เราต้องระมัดระวังอย่างเต็มที่หลังจากที่ไอซิสพ่ายแพ้ ในอิรัก เนื่องจากกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่อาจจะประสบความสำเร็จในการยึดพื้นที่อีกครั้ง”
ริชาร์ด เบร็ท อดีตพนักงานของสำนักงานข่าวกรองของสหราชอาณาจักร MI6 กล่าวว่า ความพ่ายแพ้อย่างกว้างขวางของไอซิสในอิรักและซีเรีย ทำให้ความนิยมในหมู่กลุ่มหัวรุนแรงอิสลามและหมู่ชนมุสลิมลดน้อยลง ด้วยเหตุผลนี้การดึงแนวร่วมเป็นสมาชิกของไอซิสจากชาติตะวันตกจึงไม่ง่ายเหมือนปีที่ผ่านมา
ตรงกันข้ามกับมุมมองนี้ ชีรัค เฮอร์ อาจารย์มหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจ ในกรุงลอนดอนเชื่อว่า แม้ว่ากลุ่มนี้จะพ่ายแพ้ให้แก่ปฏิบัติการทางทหารของกลุ่มพันธมิตรและอิหร่านและรัสเซีย แต่ก็ไม่สามารถกล่าวได้ว่า ความนิยมในหมู่เยาวชนมุสลิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศตะวันตกจะลดน้อยลง เพราะแท้จริงแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นจากไอซิส อยู่ในลักษณะของ “การก่อการร้ายและการฆ่าตัวตาย” ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงเวลาทั่วโลก และการเผชิญหน้ากับมันก็ยังคงอยู่นอกการควบคุมของสถาบันความมั่นคงและหน่วยข่าวกรอง
ไอซิส-แม้ว่าจะประกาศสถาปนารัฐกำมะลอได้มาตั้งแต่ปี 2014 โดยมีการขยายกำลังทหารในซีเรียและอิรัก แต่แกนหลักและอัตลักษณ์ของกลุ่มนี้ก็ยังคงเป็นองค์กรก่อการร้าย ด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถกล่าวได้ว่า เมื่อกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ไม่สามารถควบคุมเหนือดินแดนต่างๆในอิรักและซีเรียได้แล้ว องค์กรและขบวนการของพวกเขาจะถูกทำลายไป
สมาชิกจำนวนมากในกลุ่มนี้ มีการเคลื่อนไหวในสังคมออน์ไลน์ และหลายคนเป็นพลเมืองของประเทศในแถบตะวันตก จาก 5 ถึง 6,000 คนในกลุ่มนักรบเหล่านี้ที่เป็นชาวยุโรป พวกเขาได้กลับบ้านของตัวเองแล้ว ราว 25% ถึง 30% ในปีที่ผ่านมา และหลายคนอาจมีความสามารถในการดำเนินการก่อการร้าย
เจ้าหน้าที่ Europol เจ้าหน้าที่ตำรวจของสหภาพยุโรป เผยว่า นักรบไอซิสจำนวน 2,500-3,000,000 คนเสียชีวิตในซีเรียและอิรักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้สมาชิกในกลุ่มตามที่ได้แสดงไว้ในปี 2017 จึงสามารถดำเนินการฆ่าตัวตายและการโจมตีของผู้ก่อการร้ายทั่วโลกได้ และเนื่องจากความพ่ายแพ้อย่างรุนแรงในอิรักและซีเรีย การโจมตีเหล่านี้อาจใช้วิธีการ “ระเบิดฆ่าตัวตาย” ได้มากขึ้นกว่าเดิม
Source: fa.euronews