ศาสนาและความศรัทธาใด ที่อนุญาตให้ฆ่าคนขณะละหมาด?

281

อีกครั้งหนึ่ง ที่ผู้ก่อการร้ายสร้างความหายนะในอียิปต์ และคราวนี้ผู้ก่อเหตุไร้ศรัทธามุ่งเป้าการโจมตีไปยังบรรดาผู้ทำการนมัสการ (ละหมาด) ในมัสยิด

แน่นอนว่า  “คนไร้ศาสนา” เป็นลักษณะเฉพาะ ที่สามารถนำมาใช้อธิบายผู้โจมตี เพราะหากพวกเขามีศาสนาหรือศรัทธา แม้แต่เศษเสี้ยวหนึ่งในตัวของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็จะไม่มีวันก่อเหตุเศร้าสลดเช่นนี้อย่างแน่นอน

ทุกศาสนาที่มาจากศาสดาอิบรอฮีม (อฺ) มีความเหมือนกัน ตรงที่พวกเขาจะทำการเคารพภักดีพระเจ้าเพียงองค์เดียว และทุกคนที่เชื่อในศาสนาหนึ่ง ศาสนาใด ที่มีต้นต่อมาจากศาสดาอิบรอฮีม (คริสต์ อิสลาม ยิว) ไม่ควรที่จะมีจิตใจมืดบอดถึงขั้น กล้าสังหารคนที่กำลังเคารพภักดีพระเจ้าองค์เดียวกัน และไม่มีหลักความเชื่อใดที่จะยอมรับการกระทำนี้ได้

มัสยิดที่ถูกโจมตีเป็นมัสยิดของมุสลิมจากสำนักคิดซูฟี  และซูฟีเหล่านี้ทั่วโลกได้ท้าทายกับ “ลัทธิวะฮาบี” มานานหลายทศวรรษ (ดูเพิ่ม: ขุดโคตร “ลัทธิแห่งการหลั่งเลือด” วะฮาบีจี้ปล้นศรัทธามุสลิม!)

ซูฟี เป็นสำนักคิดหนึ่งที่แตกสาขาย่อยออกมาจากนิกายซุนนี่อิสลาม และได้ขยายไปในหมู่ชาวมุสลิมในหลายประเทศอิสลาม และในหลายประเทศที่ไม่ใช่อิสลาม หรือ ที่มีมุสลิมเป็นประชากรส่วนใหญ่ เช่นรัสเซียและจีน หรือเอเชียตะวันออก แอฟริกาและยุโรป  เป็นเวลานานนับศตวรรษที่ชาวมุสลิมซุนนี่จำนวนมากยึดปฏิบัติตามแนวทางซูฟี

ขณะที่วาฮาบีตักฟีรีย์หัวรุนแรงได้ออกคำวินิจฉัยตัดสินและบริภาษ (ตักฟีร์) มุสลิมจากสำนักคิดชีอะฮ์ ซุนนี และซูฟี และอื่นๆ ที่ไม่ศรัทธาเหมือนเช่นตน หรือกลุ่มที่เห็นต่างกับพวกเขาว่า เป็นพวกนอกรีต และอนุญาตให้สามารถสังหารได้

ด้วยเหตุผลนี้ อาจกล่าวได้ว่า กลุ่มเดียวเท่านั้นที่สามารถกระทำการโจมตีเช่นนี้ในอียิปต์ได้ มิใช่ใครที่ไหน แต่คือกลุ่มวะฮาบีซาลาฟีตักฟีรีย์ ( Wahab Salafi ) ที่มีประวัติกระทำการสังหารผู้คนต่างศรัทธามาอย่างยาวนาน และมากมาย

อะไรคือเหตุผลที่ทำให้พวกเขาปฏิบัติการในครั้งนี้  ?

แน่นอนว่าสถานการณ์ในการโจมตี และเมื่อคำนึงถึงผู้ก่อเหตุประมาณ 15 คน ที่ปะทะกับกองกำลังรักษาความปลอดภัยอียิปต์ แสดงให้เห็นว่า พวกเขากำลังพึ่งพาปีกข้างหนึ่งข้างใด  แต่การวิเคราะห์ส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่าการกระทำครั้งนี้ไม่สามารถทำได้โดยปราศจากการสนับสนุนจากองค์กรรักษาความปลอดภัยของประเทศที่สามและเป็นไปได้อาจเป็นคำสั่งของซาอุดีอาระเบียหรืออิสราเอลหรือทั้งสองประเทศ

สาเหตุ ?

อียิปต์ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาได้แสดงจุดยืนที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของซาอุดีอาระเบียและอิสราเอล อาจจะกล่าวได้ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในจุดยืนของพวกเขา คือการต่อต้านปฏิบัติการทางทหารต่ออิหร่านและฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอน  อียิปต์ยังคงยืนกรานในการช่วยเหลือเลบานอนไม่ให้ถูกขับไล่ออกจากจากสันนิบาตอาหรับ และในกรณีของซีเรีย ก็คัดค้านการล่มสลายของรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย นอกเหนือจากนั้น อียิปต์ก็ไม่ได้เข้าร่วมกับซาอุดีอาระเบียในสงครามเยเมน แถมยังต่อต้านสงครามกับเยเมนด้วยซ้ำ  และมีจุดยืนที่แข็งกร้าวเกี่ยวกับการก่อสร้างเขื่อนโดยซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ณ บริเวณแม่น้ำไนล์

การปฏิบัติการครั้งนี้ คาดหวังหลายเป้าหมาย

เนื่องจากสื่อต่างๆที่อยู่ใต้การควบคุมของซาอุดิอาระเบียกล่าวหากาตาร์ตั้งแต่ต้นเหตุการณ์  ดังนั้น ในครั้งนี้จึงมีความเป็นไปได้ว่าซาอุดิอาระเบียจะพยายามดึงอียิปต์เข้าสู่การทำสงครามกับกาตาร์

นอกจากนี้ หากพิจารณาจากจุดยืนของอียิปต์เมื่อเร็ว ๆ นี้  พวกเขาอาจตัดสินใจที่จะลดบทบาทของ พลตรี Abdel Fatah al-Sisi ในประเทศของพวกเขา และพวกเขายังจะกระตุ้นให้พลเอก al-Sisi ไม่ต่อต้านกระแสของพวกเขาเช่นเดียวกับเป็นการส่งสัญญาณภัยคุกคามต่ออียิปต์ว่า หากไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมกับพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่สามารถที่จะก่อเหตุการณ์ความวุ่นวายได้ทุกขณะ

แน่นอนว่า อียิปต์ไม่ใช่ประเทศที่จะสั่นสะท้านด้วยลมเหล่านี้ได้อย่างง่ายๆ  แต่อย่างไรก็ตาม การก่อการร้ายนี้อาจก่อให้เกิดความโกรธแค้นของประชาชน และอาจจะกดดันให้รัฐบาลให้ออกมาตอบโต้

แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ  ไม่ว่าใครที่กระทำเช่นนี้ เขาย่อมไม่ได้ปฏิบัติตามหลักศาสนาและศรัทธาใด ๆ  และใช้บรรทัดฐานแห่งการตักฟีร์  (ตรรกบริบาษ)ต่อกันและกันเป็นข้ออ้างในการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งตราบใดที่โลกยังไม่หลุดพ้นจากความชั่วร้ายของกลุ่มตักฟีรีย์ซาลาฟี โศกนาฏกรรมเช่นนี้ก็ยังคงเกิดขึ้นต่อไปทั่วโลก

Source: ir.sputniknews.com