irna – ตะวันตกได้สร้างเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ต่างๆรวมถึงซีเรีย อิรักและอัฟกานิสถานทำให้เกิดการอพยพจำนวนมากซึ่งทำให้ยุโรปกำลังเผชิญกับวิกฤติครั้งสำคัญที่ไม่สามารถแก้ไขได้
การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายไอซิสของบางประเทศในรูปแบบต่างๆเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเมืองและเศรษฐกิจ นอกเหนือจากประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องตกเป็นเหยื่อความรุนแรงเหล่านี้แล้วยังทำให้เกิดวิกฤติการอพยพลี้ภัยของประชาชนนับล้านคนซึ่งขณะนี้ยุโรปไม่สามารถที่จะให้การรองรับพวกเขา
การตัดสินใจของเบอร์ลินและกรุงเวียนนาที่จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยชายแดนและป้องกันการเข้ามาของผู้ลี้ภัยสงครามได้สร้างปัญหาครั้งใหญ่สำหรับประเทศในแถบคาบสมุทรบอลข่าน สโลวีเนียและโครเอเชียได้ประกาศครั้งล่าสุดว่าถ้าออสเตรียบังคับใช้ข้อจำกัด เกี่ยวกับการเข้ามาของผู้ลี้ภัย ทั้งสองประเทศก็จะดำเนินการตามข้อคับดังกล่าวด้วยกันเช่นกัน
Miro Cerar นายกรัฐมนตรีสโลวีเนียได้กล่าวว่าถ้าออสเตรียบังคับใช้การจำกัดจำนวนของผู้ลี้ภัยแล้ว ทางลูบลิยานาก็จะดำเนินการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวทันทีตามชายแดนของตนที่ติดกับกับโครเอเชีย
Miro Cerar ให้สัมภาษณ์กับสื่อรัฐบาลของประเทศว่า การดำเนินการของออสเตรียเพื่อจำกัดจำนวนผู้ลี้ภัย นั้นหมายความว่า สโลวีเนียก็ทำการควบคุมชายแดนจะเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่หน้าและในหลายเดือนข้างหน้า
เขากล่าวเสริมว่า หากข้อตกลงในประเด็นการจำกัดจำนวนผู้อพยพลี้ภัยทางภาคใต้ของสโลวีเนียบรรลุผลแล้ว ออสเตรียก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปที่จะเข้มงวดในการจำกัดจำนวนผู้ลี้ภัยสงคราม
นายกรัฐมนตรีของสโลวีเนียยังได้ชี้ถึงการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรปในสัปดาห์หน้าในประเด็นวิกฤตผู้อพยพลี้ภัย และแสดงความหวังว่าจะมีการการตัดสินใจร่วมกันเพื่อแก้ไขวิกฤตินี้สำหรับการควบคุมนอกเขตชายแดน
นอกจากนั้นเขายังกล่าวย้ำว่ายุโรปควรจะยอมรับผู้ลี้ภัยเหล่านี้เพราะพวกเขาจำต้องได้รับการดูแลและช่วยเหลือจากนานาชาติ และชี้ถึงการขาดความร่วมมือที่ดีระหว่างสโลวีเนียกับโครเอเชียในประเด็นผู้อพยพลี้ภัยในอดีตว่า ปัจจุบันรัฐบาลลูบลิยานากับรัฐบาลใหม่ของโครเอเชียมีความร่วมมือที่ดีในประเด็นวิกฤตผู้ลี้ภัย
ด้วยความช่วยเหลือของคณะกรรมาธิการสหประชาชาติ โครเอเชียได้มีการตรวจสอบผู้อพยพผิดกฎหมายที่เป็นผู้อพยพลี้ภัยสงครามตามชายแดนที่ติดกับประเทศเซอร์เบีย และส่งตัวกลับ และในกรีซก็มีการดำเนินการเช่นนี้เหมือนกัน
Mirko Kovach รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศและยุโรปของโครเอเชียให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์ RTL ในประเทศ ว่า หากออสเตรียปิดชายแดนของตนเพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาของผู้ลี้ภัยสงคราม สโลวีเนียก็จะดำเนินการเช่นนี้ด้วยแล้วจากนั้นโครเอเชียก็จะบังคับใช้มาตรการดังกล่าวนี้ตามมา
เขากล่าวเสริมว่า ทางเลือกของโครเอเชียที่มีประสิทธิคือ ความร่วมมือกับสโลวีเนีย เซอร์เบียมาซิโดเนีย กรีซ ออสเตรียและเยอรมัน แต่ถ้าออสเตรียปิดชายแดนของตนมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติและปรกติที่สโลวีเนียและโครเอเชียจะต้องปิดชายแดนของตนเองด้วย
เขากล่าวเสริมว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของผู้อพยพจากคาบสมุทรบอลข่านยังตะวันตก โครเอเชียก็จำเป็นต้องปิดพรมแดนกับเซอร์เบีย และเซอร์เบียเองก็จะปิดชายแดนที่ติดกับมาซิโดเนีย
รัฐบาลสโลวีเนียประกาศว่าในสัปดาห์หน้าสโลวีเนียจะอนุญาตเฉพาะผู้อพยพลี้ภัยจากเขตพื้นที่สงครามเท่านั้นที่สามารถออกจากประเทศ และการตัดสินใจนี้จะมีการแจ้งไปยังประเทศอื่น ๆในคาบสมุทรบอลข่านที่มีมีผู้อพยพลี้ภัยเข้ามา
Ivica Dachych รองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่งและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเซอร์เบียได้เรียกร้องสหภาพยุโรปให้มีความร่วมมือและความสามัคคีกันในการแก้ไขปัญหาวิกฤตผู้ลี้ภัยสงคราม และกล่าวเสริมว่า หากออสเตรียและประเทศอื่น ๆในคาบสมุทรบอลข่านที่เป็นเส้นทางของผู้อพยพลี้ภัยได้ปิดพรมแดนของพวกเขา เซอร์เบียก็จำเป็นที่ต้องดำเนินการลักษณะนี้เหมือนกัน
เขาชี้ว่า เซอร์เบียได้ต้อนรับบรรดาผู้ลี้ภัยสงครามเป็นอย่างดี ทำให้เซอร์เบียได้รับการยกย่องจากทั่วโลก และเสริมกล่าวว่า ในปีที่ผ่านมามีผู้ลี้ภัยสงครามได้ข้ามผ่านประเทศเซอร์เบีย จำนวน 600,000 กว่าคน แต่ในวันนี้ทางเบลเกรดมีความกังวลในเรื่องนี้เนื่องจากความไม่ลงรอยกันของสหภาพยุโรป
มาซิโดเนียเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นเส้นทางของผู้ลี้ภัยสงครามในการเข้าไปยังประเทศทางตอนเหนือของสหภาพยุโรป กำลังเผชิญกับปัญหามากมายในประเด็นผู้ลี้ภัยสงคราม ซึ่งปัจจุบันหลายต่อหลายครั้งด้วยเหตุผลต่างๆมีการปิดพรมแดนของตนเพื่อมิให้ผู้อพยพลี้ภัยเข้าในประเทศ
รัฐบาลมาซิโดเนียได้สร้างกำแพงชายแดนกับกรีซเพื่อดำเนินนโยบายจำกัดจำนวนการเข้ามาของผู้ลี้ภัยสงครามและผู้อพยพที่ผิดกฎหมาย
ฮังการีเป็นหนึ่งในชาติสมาชิกสหภาพยุโรปและเป็นหนึ่งเส้นทางสำหรับผู้ลี้ภัยสงครามที่จะเดินทางไปยังภาคเหนือของยุโรป ซึ่งในปีที่ผ่านมาเนื่องจากเกิดปัญหาต่างๆในพรมแดนที่ติดกับเซอร์เบียและโครเอเชียจึงทำการปิดพรมแดนเพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาของผู้ลี้ภัยสงคราม
ทางการฮังการีเปิดเผยว่าหลังจากติดรั้วชายแดนที่ติดกับเซอร์เบียและโครเอเชียแล้ว อาจจะมีการสร้างกำแพงติดกับชายแดนโรมาเนียเพื่อป้องกันการเข้ามาของผู้ลี้ภัยสงคราม ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางของผู้อพยพบอลข่านแล้วแผนการดังกล่าวก็จะดำเนินการจริงอย่างแน่นอน
องค์การระหว่างประเทศด้านกิจกรรมผู้อพยพลี้ภัยเผยว่าในช่วงเดือนมกราคมปีนี้มีผู้ลี้ภัยสงครามจำนวน 62,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวซีเรียโดยใช้เรือในการอพยพจากตุรกีเข้าไปยังกรีซ
ผู้อพยพเหล่านี้เพื่อให้สามารถเข้าไปถึงปลายทางในประเทศทางภาคเหนือของสหภาพยุโรป จะต้องไปผ่านเส้นทาง มาซิโดเนีย เซอร์เบีย โครเอเชียและสโลวีเนีย ฮังการี และออสเตรีย
เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันในยุโรป ทำให้บรรดาผู้ลี้ภัยและผู้อพยพต้องประสบและเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบากต่อการเข้าไปถึงยังสถานที่ที่ปลอดภัยในสหภาพยุโรปและประเทศอื่น ๆในยุโรปโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อพยพผิดกฎหมายที่นอกเหนือจากประเทศซีเรีย อิรักและอัฟกานิสถาน
ความแออัดของผู้อพยพลี้ภัยสงครามในช่วงฤดูหนาวในคาบสมุทรบอลข่านไปยังประเทศออสเตรียและเยอรมนีอยู่ในระดับต่ำมากเมื่อเทียบกับฤดูกาลอื่นๆ
ตามสถิติจากองค์กรด้านมนุษยธรรม “ช่วยเด็ก” เผยว่า ในปีที่ผ่านมามีเด็กผู้ลี้ภัยอพยพสงครามจำนวน 26,000 กว่าคนเดินทางเข้าสหภาพยุโรปปราศจากผู้ปกครอง
นอกจากนั้นบรรดาผู้อพยพลี้ภัยสงครามเกือบหนึ่งล้านกว่าคนที่เข้ายุโรปในปี 2015 นั้น ร้อยละ 27 เป็นวัยรุ่น