ประธานาธิบดีตุรกีเผยว่า เงื่อนไขของตุรกีในการฟื้นสัมพันธ์กับอิสราเอล คืออิสราเอลต้องขอโทษ เหตุการณ์นาวิกโยธินเทลอาวีฟสังหารหมู่ชาวเติร์ก 10 คน บนเรือของนักเคลื่อนไหวฝักใฝ่ปาเลสไตน์ที่พยายามฝ่ามาตรการปิดกั้นฉนวนกาซาของอิสราเอลเมื่อปี 2553 และชดเชยค่าสินไหมทั้งหมดให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตอีกทั้งยกเลิกการปิดล้อมกาซา แต่ทั้งนี้ตุรกีและอิสราเอลก็มีความจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
presstv / tasnimnews – อุรดุฆอน ประธานาธิบดีตุรกี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังจากบินกลับเยือนซาอุดิอาระเบีย โดยแสดงปฏิกิริยาในความพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับอิสราเอล ว่า อิสราเอล ต้องการและมีความจำเป็นต่อประเทศในภูมิภาคนี้ เช่น ตุรกี และจำต้องยอมรับว่า เราเองก็มีความจำเป็นต่ออิสราเอลเช่นกัน แหละนี่คือข้อเท็จจริงในภูมิภาค
เขากล่าวเสริมว่า ทางฝ่ายอิสราเอลออกมายอมรับที่จะส่งสิ้นค้าและเครื่องมือวัสดุก่อสร้างอาคารของตุรกีไปยังกาซา แต่ทางอังการารอให้มีการลงนามเป็นลายอักษรเสียก่อน
“หากเราสามารถก้าวไปตามขั้นตอนที่วางไว้ การฟื้นฟูความสัมพันธ์ก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เราตระหนักในการดูแลพี่น้องชาวปาเลสไตน์ของเราอยู่เสมอ” อุรดุฆอน กล่าว
และ กล่าวเสริมว่า “การละเมิดสิทธิของมัสยิดอัลอักศอต้องสิ้นสุดลงก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง ซึ่งมีความสำคัญสำหรับตุรกีเช่นกัน”
อุรดุฆอน ออกมาปฏิเสธการวิจารณ์การจัดตั้งพันธมิตรใหม่ในการต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย ภายใต้การนำโดยซาอุดีอาระเบียอันเป็นแผนการทางนิกาย ว่า กลุ่มพันธมิตรดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้กับการก่อการร้ายและอัตลักษณ์ของพันธมิตรดังกล่าวไม่ใช่การก่อการร้าย
http://www.presstv.ir/DetailFa/2016/01/02/444195/Turkey-Israel-diplomacy-blockade/
http://www.tasnimnews.com/fa/news/1394/10/12/959726/