bbc – เหตุการณ์ก่อการร้ายในกรุงปารีสเมื่อ วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน ทำให้ประชาคมโลกต้องหันกลับมาให้ความสนใจแก่กลุ่มก่อการร้ายไอซิสอีกครั้งหนึ่ง เหตุการณ์ก่อการร้ายในปารีสคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวน 129 คนและบาดเจ็บอีกนับร้อยคน
ปฏิบัติการครั้งนี้ หาใช่ว่าทุกขบวนการของกลุ่มก่อการร้ายสามารถที่จะก่อเหตุได้ แต่ทว่าไอซิสเป็นกลุ่มขบวนการหนึ่งที่ถูกยกเว้นจากกลุ่มดังกล่าว เนื่องจากเป็นกลุ่มที่อ้างรัฐอิสลาม แต่สามารถแผ่ขยายอิทธิพลถึงยุโรป แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านี้คือ ความมั่งคั่งและความร่ำรวยของกลุ่มไอซิส
ประเด็นคือว่า ความร่ำรวยเหล่านี้ได้มาจากอะไร?? ใครเป็นผู้ให้การสนับสนุนท่อน้ำเลี้ยงและแหล่งเงินทุกของไอซิส??
การบริจาคและการช่วยเหลือด้านเงินทุน
องค์กรการกุศลอิสลามและบุคคลที่ร่ำรวยในตะวันออกกลาง – โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซาอุดิอาระเบียและกาตาร์ – เป็นสปอนเซอร์หลักของกลุ่มไอซิส โดยมีเป้าหมายเพื่อโค่นรัฐบาลบัชชาร์ อัสซาดแห่งซีเรีย
แม้นว่ากลุ่มบุคคลและสถาบันดังกล่าว จะให้ค่าจ้างแก่บรรดานักรบจากต่างประเทศที่เดินทางไปยังประเทศซีเรียและอิรักก็ตาม ทว่าไอซิสก็ถือเพียงพอแล้วสำหรับพวกเขาที่มีแหล่งทุนมากมายเช่นนี้
น้ำมัน
ตามการคาดการณ์ของกระทรวงการคลังสหรัฐ เมื่อปี 2014 ไอซิสได้ขายน้ำดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมให้กับพ่อค้าคนกลาง ซึ่งมีมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์
แต่ดูเหมือนว่าการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย ต่อโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมน้ำมันในลักษณะนี้ของไอซิส ทำให้รายได้ของไอซิสต้องลดลงอย่างแน่นอน
การลักพาตัว

ในปี 2014 ไอซิส ได้รายได้ จากการเรียกค่าไถ่ อย่าง น้อย 20 ล้านดอลลาร์
สมาชิกของไอซิสคนหนึ่งที่สามารถหลบหนีจากไอซิสมาได้ เผยว่า มีการจัดตั้งองค์กรเฉพาะเพื่อการลักพาตัว โดยใช้ชื่อองค์กรว่า “หน่วยงานความมั่นคง” ซึ่งจะมีภารกิจจะคอยลักพาตัวบรรดาผู้สื่อข่าวหรือบุคคลสำคัญที่เข้ามาในพื้นที่เขตเมืองที่อยู่ใกล้ชายแดนซีเรีย
การลักพาตัวนอกจากจะได้รับค่าไถ่จำนวนมหาศาลแล้ว ยังถือเป็นการโฆษณา – สงครามจิตวิทยา อีกด้วย
ขโมย ปล้นและกรรโชก
กระทรงการคลังขององเมริกา เผยว่า ไอซิสจะทำการการขู่กรรโชกและปล้นประชาชนที่อยู่ภายใต้การปกครองของพวกเขาและเขตบริเวณใกล้เคียงทุกเดือน ซึ่งสามารถได้เงินจำนวนนับล้านดอลลาร์ ทุกคนที่เดินทางผ่านเขตเมืองการปกครองของไอซิสจะต้องจ่ายค่าทางผ่าน หรือแม้แต่บุคคลที่อาศัยในเขตปกครองก็ต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้กับไอซิส “เพื่อรักษาชีวิต”
นอกจากไอซิสยังได้ปล้นธนาคาร ปล้นทรัพย์สิน ขายของเก่า ควบคุมราคาการซื้อขายปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์การเกษตรอีกด้วย
เก็บส่วย
ชนกลุ่มน้อยทางศาสนาที่อาศัยอยู่ในดินแดนของรัฐอิสลามจะต้องให้ส่งส่วยให้กับไอซิส
ในเรื่องนี้ เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมาโดยการประกาศแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของกลุ่มไอซิสในมัสยิดโมซูลอิรัก ซึ่งในแถลงการณ์ได้เรียกร้องจากคริสตชนในเมือง ถ้าต้องการอยู่เมืองนี้ ต้องจ่ายส่วย หรือไม่ก็ออกไปจากที่นี้ หรือไม่ก็จะต้องถูกฆ่า
ในแถลงการณ์ ได้ยืนข้อเสนอสามทางให้กับพวกเขา ว่า อิสลามมีภาระผูกพันตามพันธะสัญญา รวมทั้งการจ่ายส่วย หากไม่ยอมจ่าย “ดาบ” คือบทลงโทษของพวกเขา
ขายทาส

ไอซิสได้เงินมาจากการลักพาตัว การขายเด็กและสตรีเพื่อเป็นทาสทางเพศ
ชนกลุ่มชนน้อยทางศาสนาชาวยาซีดี ในซินจาร์ทางภาคเหนือของอิรักหลังจากที่ได้รับการยึดคืนจากไอซิสแล้ว เผยว่า เด็กหญิงและสตรีของเรานับพันคนถูกไอซิสจับเป็นเชลย ซึ่งเป็นเชลยที่พวกเขานำมาเป็นทาสทางเพศ
หญิงชาว Yazidi นางหนึ่งเธออ้างหลังจากที่สามารถหนีออกมาจากน้ำมือของไอซิสได้ เผยว่า เธอพร้อมกับผู้หญิงคนอื่น ๆอีก 200 คน ถูกนำมาขายในตลาดค้าทาส เป็นแหล่งที่เหล่านับรบของไอซิสทั้งหลายมีสิทธิที่จะเอาตัวพวกเขาคนไหนก็ได้ตามใจชอบเพื่อบำเรอความใคร่ของพวกมัน