ปัจจัยภายนอกเท่านั้นที่จะสามารถทำให้สายการบินรัสเซียแตกเป็นชิ้นและตกได้

915
(ภาพ) ประชาชนจัดเทียนเป็นรูปไม้กางเขนเพื่อรำลึกถึงเหยื่อ 224 ชีวิตของสายการบินรัสเซียที่ตกในอียิปต์ บนบันไดวิหาร Christ the Saviour Cathedral ในกรุงมอสโก รัสเซีย เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2015 © Maxim Shemetov / Reuters

RT สื่อรัสเเซีย รายงาานความคืบหน้าสาเหตุสายการบินรัสเซียตกในอียิปต์ ระบุมาจาก ‘ปัจจัยภายนอก’ ไม่ใช่เครื่องยนต์ขัดข้อง หรือ ความผิดพลาดของนักบิน ด้านโฆษกเครมลิน เรียกร้องให้หยุดการคาดเดาจนกว่าการสืบสวนสอบสวนจะแล้วเสร็จ

“มันคงไม่ถูกต้องที่จะเชื่อมโยงการคาดเดาในเบื้องต้นหรือแสดงความคิดเห็นที่ไม่ได้มีพื้นฐานอยู่บนอะไรเลย” นายดมิทรี เปสคอฟ  โฆษกประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวเมื่อวันจันทร์ “ปล่อยให้ทีมสืบสวนสอบสวนอย่างน้อยก็ได้ทำงานให้ได้ผลบางอย่างก่อน”

เห็นได้ชัดว่าลูกเรือของสายการบินโคลาเวีย 7K9268 สูญเสียการควบคุม ก่อนที่เครื่องบินจะเริ่มดิ่งลงอย่างรวดเร็วและตกลงในคาบสมุทรซีนายเมื่อวันเสาร์ วิคเตอร์ ยัง รองผู้อำนวยการของสายการบินดังกล่าวบอกกับสื่อเมื่อวันจันทร์

“ขณะที่เหตุการณ์ร้ายแรงนี้เริ่มเกิดขึ้นนั้น สมาชิกที่เป็นลูกเรือถูกทไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยสิ้นเชิง สิ่งนี้อธิบายว่าทำไมพวกเขาจึงไม่พยายามติดต่อกับเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศและรายงานเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นบนเครื่อง” เขากล่าว

สายการบินนี้ยังไม่เชื่อว่าความผิดพลาดของมนุษย์จะเป็นสาเหตุของความหายนะครั้งนี้ด้วย โดยอ้างถึงประสบการณ์ของกัปตันและลูกเรือคนอื่นๆ

“เราแน่ใจว่าไม่ใช่ความผิดปกติด้านเทคนิคหรือความผิดพลาดของนักบิน” ที่เป็นสาเหตุของภัยพิบัติครั้งนี้ อเล็กซานดรา ซามินอฟ ผู้ดูแลหมู่เรือของบริษัทนี้กล่าว

(ภาพวิดีโอ) ภาพแรกของที่เกิดเหตุเครื่องบินรัสเซียตกในซีนาย


บริษัทเชื่อว่าความเสียหายทางโครงสร้างอย่างหนักที่เกิดจากปัจจัยภายนอกอาจเป็นสาเหตุของเครื่องบินตก

บริษัทให้การรับประกันว่า เครื่องบินแอร์บัสที่ตกนี้ได้ผ่านการทดสอบที่จำเป็นทุกอย่างแล้ว รวมทั้งการตรวจสอบความล้าของโลหะในปี 2014 ซึ่งเป็นการตรวจสอบที่ต้องทำทุกๆ หกปี

หัวหน้ากรมการบินรัสเซีย อเล็กแซนด์ เนราสโก กล่าวว่า แถลงการณ์ของ โคกาลิมาเวีย แอร์ เป็น “การพูดก่อนเวลาอันควร และไม่ได้ตั้งอยู่บนข้อเท็จจริงที่แท้จริงเลย”

“ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมากเพื่อศึกษาซากของเครื่องบินและข้อมูลจากกล่องบันทึกการบิน” เขาบอกกับช่องข่าว Rossiya 24 “ซากเครื่องกระจายครอบคลุมพื้นที่กว้าง บ่งบอกให้เห็นว่าเครื่องบินตกเป็นชิ้นที่ระยะสูง แต่การคาดเดาสาเหตุนั้นเป็นเรื่องที่ยังไม่ถึงเวลา”

สายการบิน Kogalymavia ซึ่งใช้ชื่อว่า เมโทรเจ็ท เป็นเจ้าของเครื่องบินแอร์บัส เอ 321 ที่ตกในอียิปต์เพียง 20 นาทีหลังจากออกจากท่าอากาศยานนานาชาติ ชาร์ม เอล-ชีค ผู้ที่อยู่บนเครื่องทั้งหมด 224 คนเสียชีวิตในหายนะครั้งนี้ ทำให้มันเป็นเหตุการณ์ในประเภทนี้ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์การบินของรัสเซีย

ทีมสืบสวนสอบสวนกล่าวว่า พวกเขากำลังพิจารณาดูถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ทั้งหมดของเครื่องบินตกครั้งนี้ รวมถึงความผิดพลาดของมนุษย์ ความผิดพลาดด้านเทคนิค และการทำผิดกฎหมาย

สถานการณ์นี้คาดว่าจะมีความกระจ่างชัดขึ้นหลังจากมีการกู้ข้อมูลจากเครื่องบันทึกการบิน ซึ่งถูกค้นพบบริเวณที่เครื่องบินตก และอยู่ “ในสภาพดี”  หัวหน้ากระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซียบอกกับสื่อเมื่อวันจันทร์ หลังจากตรวจสอบอุปกรณ์ดังกล่าว อียิปต์จะตัดสินใจว่าจะทำการวิเคราะห์บันทึกข้อมูลที่ไหน เพราะตามกฎข้อบังคับระหว่างประเทศอียิปต์ต้องรับผิดชอบการสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์นี้

กลุ่มนักรบที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มไอซิสอ้างว่าได้ยิงเครื่องบินรัสเซียลำนี้ และคำอ้างนี้ดูเหมือนจะเชื่อถือไม่ได้ เพราะขีปนาวุธต่อต้านเครื่องบินแบบตั้งบ่าที่พวกเขาอาจจะมีในครอบครองมีระยะยิงที่สั้นเกินกว่าจะยิงเครื่องบินที่บินอยู่ในระดับสูงให้ตกได้

“ขณะนี้ มีรายงานจากสื่ออื่นว่า เครื่องบินโดยสารรัสเซียลำหนึ่งที่บินจากชาร์ม เอล-ชีค ไปยังเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ถูกอ้างว่าโดนยิงตกโดยขีปนาวุธต่อต้านเครื่องบินที่ยิงโดยกลุ่มก่อการร้าย ข้อมูลนี้ไม่อาจถือว่าเชื่อถือได้” รัฐมนตรีการขนส่งของรัสเซียกล่าว

นายกรัฐมนตรีชาริฟ อิสมาอิล ของอียิปต์ได้แสดงความสงสัยเกี่ยวกับการกล่าวอ้างนี้ด้วยเช่นกัน

“ผู้เชี่ยวชาญยืนยันแล้วว่า โดยทางเทคนิค เครื่องบินที่บินในระดับความสูงนี้ไม่สามารถูกยิงตกได้ และกล่องดำจะเป็นสิ่งที่เปิดเผยสาเหตุของการตกครั้งนี้” สำนักข่าว MENA ของรัฐอ้างคำพูดของอิสมาอิล

ไม่มีร่องรอยของระเบิดบนชิ้นส่วนเครื่องบินที่ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทีมสอบสวนบอกกับ RIA Novosti เมื่อวันจันทร์