irinn – การปักหลักขงกองกำลังรักษาความปลอดพิเศษของซาอุดิอาระเบีย ในเส้นทางของผู้แสวงบุญ และการปิดกั้นทาง เป็นสาเหตุหลักของความแออัดและเบียดเสียด ทำให้ผู้แสวงบุญนับร้อยคนเสียชีวิต
เมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน ซึ่งตรงกับวันอีด อัฏฮา ได้มีผู้แสวงบุญจำนวนนับร้อยคนเสียชีวิตในช่วงเทศการประกอบพิธีทางศาสนา
เหตุการณ์เศร้าสลดครั้งนี้ เกิดขึ้นในเวลา 9:00 น ตามเวลาท้องถิ่น บรรดาผู้แสวงบุญจำนวนมากที่อยู่ในมินาหลั่งไหลสู่ ญามารอต เพื่อประกอบพิธีขว้างป่าหินตามหลักการศาสนา โดยบรรดาผู้แสวงบุญเหล่านี้ มาบรรจบกันที่ถนนเส้นสาย 204 และ 223 และจากความแออัดและเบียดเสียดของผู้แสวงบุญ ทำให้ผู้แสวงบุญเสียชีวิตเกือบพันคน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
ทางการซาอุดิอาระเบีย ได้ลงจำนวนโควตาของผู้แสวงบุญเนื่องจากกำลังดำเนินการก่อสร้างโครงการขยายบริเวณมัสยิด อัลฮะรอม โดยรับผู้แสวงบุญในปีนี้เพียงแค่ 1.5 ล้านกว่าคน
หากพิจารณาจากจำนวนผู้แสวงบุญแล้ว ในปีนี้ยอดผู้แสวงบุญน้อยกว่าปีที่ผ่านๆมา แต่ทว่า ผู้แสวงบุญนับพันคนกลับต้องเบียดกันเนื่องจากความแออัดและเบียดเสียด ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้
ข่าวและภาพของสัปดาห์ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าซาอุฯ ได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด นอกเหนือจากกองกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่พิเศษของกรมกิจกรรมฮัจญ์ แล้ว ยังมีกองกำลังพิเศษจากกองทัพ ที่ถูกส่งไปประจำการ ตามคำสั่งของ มุฮัมมัด บิน นาเยฟ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย
ผู้ปกครอง(มกุฎราชกุมาร) คนใหม่ของราชวงศ์ซาอุฯ หลังจากที่รอคอยวันเวลานับปี เพื่อได้มาซึ่งอำนาจและบัลลังก์ ตามการยืนยันของบรรดาผู้เชี่ยวชาญทางการเมืองโลก ผู้ปกครองคนใหม่นี้ขาดประสบการณ์และมีความเต้นตื่น มีความทะยอทะยานอย่างสูงที่จะแสดงอำนาจให้เห็น และอีกด้านหนึ่งเนื่องจากรู้จักกลุ่มก่อการร้ายซึ่งเป็นกลุ่มที่ตนเองให้การสนับสนุนขึ้นมาเป็นอย่างดีนั้น จึงมีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในพิธีฮัจญ์ปีนี้
การปรากฏตัวของกองกำลังพิเศษ และทหารตามจุดต่างๆของเมืองมักกะฮ์ โดยเฉพาะตามเส้นทางต่างๆนั้น เห็นได้อย่างชัดเจน นอกเหนือจากสร้างความลำบากให้กับผู้แสวงบุญแล้ว ยังสร้างความลำบากให้กับพลเมืองมักกะฮ์อีกด้วย โดยที่พลเมืองเหล่านี้แสดงความไม่พอใจและโพสตภาพต่างๆเหล่านี้กันอย่างแพร่หลายในสื่อโลกออนไลน์
ในวันอีดกุรอาน มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมากขึ้นตามเส้นทางหลักต่างๆของบรรดาผู้แสวงบุญ อีกทั้งเส้นทางย่อยก็ถูกปิด ขณะที่กองกำลังติดอาวุธ ตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยบนถนนเส้นทางทั้งสองฝั่ง ทำให้การเคลื่อนไหวของผู้แสวงบุญช้าลงและถูกจำกัดพื้นที่มากขึ้น
การตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ซาอุฯ ทำให้เกิดความแออัดของผู้แสวงบุญในเส้นทางสาย 204 เพิ่มสูงขึ้น และจากจุดนั้น การเคลื่อนไหวของผู้แสวงบุญ ในช่วงระยะทางอีกหนึ่งร้อยเมตร ก่อนถึงสะพานฟะฮัด เริ่มช้าลง และไม่มีเส้นทางอื่นที่ใกล้กับเส้นทางนี้ ในช่วงนี้เอง ในเวลารุ่งเช้าของวันพฤหัสบดี บนเส้นทาง 204 ก็เต็มและแออัดไปด้วยผู้แสวงบุญตลอดสาย และยิ่งเพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆๆ
และอีกด้านหนึ่ง ยังมีผู้แสวงบุญที่กำลังเดินบนเส้นทางสาย 223 ก็ได้มาบรรจบที่ถนนเส้นสาย 204 ทำให้ผู้แสวงบุญเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัว
ในสภาวะเช่นนี้ กองกำลังรักษาความปลอดภัยซาอุดิอาระเบีย ยังปิดเส้นทางย่อยอีก และเส้นทางหลัก เส้นสาย 215 ของบรรดาผู้แสวงบุญ ก็ถูกปิดด้วย เพื่อรักษาความปลอดภัย ตึกอาคารความมั่นคง และทหาร จากภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้น โดยที่ เส้นสาย 215 จะไปออกที่ถนน เซากุล อาหรับ ซึ่งบนถนนดังกล่าวมี สองสำนักงานใหญ่ของหน่วยงานด้านความมั่นคง ซึ่งกองกำลังความมั่นคงไม่ต้องการให้ผู้คนและผู้แสวงบุญจำนวนมากเดินผ่านไปมาผ่านเส้นทางนี้
หลังจากวางมาตรการดังกล่าวแล้ว การเคลื่อนไหวของผู้แสวงบุญก็เริ่มช้าลง และแล้วต้องมาหยุดชะงัก ใกล้กับสะพานฟะฮัด ขณะเดียวกันคลื่นของผู้แสวงบุญก็หลั่งไหลและทยอยเดินข้างหน้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกิดความชุลมุนแออัดและเบียดเสียดขึ้น …. แหละแล้วเหตุโศกนาฏกรรมอันเศร้าสลดก็ได้เกิดขึ้น
บรรดาผู้อยู่ในเหตุการณ์และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในเขตเมือง เผยว่า กองกำลังรักษาความปลอดภัยเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้
ประเด็นที่น่าสนใจในที่นี้ คือ เหตุใดทางการซาอุดิอาระเบีย ต้องปิดเส้นทางสาย 223 204 และ 215 ….. ?????