FBI ระบุ “นักรบไอซิซออสเตรเลีย” ที่ยุให้ก่อเหตุระเบิดในวันครบรอบ 9/11 ที่แท้เป็นชาวยิวอเมริกัน

ในการสนทนาทางสื่อออนไลน์ โกลด์เบิร์กกล่าวว่า “ผมอยากทำให้องค์การนิรโทษกรรมและมาเรียม วีซซาเดห์ แปดเปื้อน... องค์การนิรโทษกรรมอยู่ในภาวะลำบากอยู่แล้วเพราะเกี่ยวข้องกับกลุ่ม CAGE ผมอยากจะตอกย้ำถึงความเกี่ยวข้องกับนักรบญีฮาดของพวกเขาและทำลายชื่อเสียงของพวกเขา และมาเรียมเป็นโสเภณีมุสลิม ดังนั้นการจะทำให้เธอแปดเปื้อนในฐานะนักรบญีฮาดคนหนึ่งน่าจะเป็นเรื่องง่าย”

1445
(ภาพ) โจชัว ไรน์ โกลด์เบิกร์ วัย 20 ปี จากออเรนจ์ พาร์ค รัฐฟลอริด้า ที่ใช้ชื่อในสื่อออนไลน์ว่า “Australi Witness’ ตัวแทนของไอซิซที่อยู่ในเพิร์ธ เขาถูกจับกุมที่บ้านพ่อแม่ของเขาในฟลอริด้าในข้อหาวางแผนก่อเหตุระเบิดในงานรำลึกเหตุการณ์ 9/11

mintpressnews – หนุ่มอเมริกันชาวยิวถูกตั้งข้อหาว่า ทำทีเป็นนักรบกลุ่มรัฐอิสลามที่อยู่ในออสเตรเลีย หลังจากที่ FBI ได้ทำการสืบสวนร่วมกับสำนักงานตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลีย(Australian Federal Police-AFP) ตามข้อมูลที่ได้จาก Fairfax Media

โจชัว ไรน์ โกลด์เบิร์ก วัย 20 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านพ่อแม่ของเขาในรัฐฟลอริด้า ของสหรัฐฯ เขาถูกกล่าวหาว่าโพสต์ข้อความในสื่อออนไลน์โดยใช้ชื่อ “Australi Witness” ผู้สนับสนุนคนหนึ่งของกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ที่เรียกร้องต่อสาธารณชนให้ทำการโจมตีต่อบุคคลและงานต่างๆ ในประเทศตะวันตกหลายครั้ง

เมื่อเร็วๆ นี้ Australi Witness ได้อ้างทางสื่อออนไลน์ว่า เขากำลังทำงานกับนักรบญีฮาดคนอื่นๆ เพื่อวางแผนก่อเหตุในออสเตรเลียและสหรัฐฯ เขาเผยแพร่รูปภาพของระเบิดลูกหนึ่งที่เขากำลังทำอยู่โดยมี “วัตถุระเบิดขนาด 2 ปอนด์อยู่ข้างใน”
1441934771524
อุปกรณ์นี้มีลักษณะเหมือนกับ “ระเบิดหม้ออัดแรงดัน” คล้ายกับระเบิดประเภทที่ใช้ในเหตุการณ์โจมตีการวิ่งมาราธอนที่บอสตัน

ช่วงเช้าวันศุกร์ ตามเวลาออสเตรเลีย โกลด์เบิร์ก ผู้ซึ่งไม่ใช่มุสลิม และในชีวิตจริงไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรง ถูกจับกุมที่บ้านของเขาโดยตำรวจฟลอริด้าเนื่องจาก “ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวัตถุระเบิด, อุปกรณ์ทำลายล้าง และอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง”

กฎหมายพลเมืองและความมั่นคงแห่งชาติออสเตรเลียได้เพิ่มความเข้มงวดขึ้นเมื่อปีที่แล้วเพื่อการป้องกันการสนับสนุนการก่อการร้าย ส่วนหนึ่งเพื่อหยุดการเกณฑ์นักรบญีฮาดทางสื่อออนไลน์ และนายกรัฐมนตรีโทนี่ แอบบอตต์ ได้จัดสรรเงินทุนครั้งสำคัญให้แก่หน่วยงานด้านความมั่นคง เพราะ “ชาวออสเตรเลียถูกลัทธิแห่งความตายกลุ่มนี้ล้างสมองทางสื่อออนไลน์มากเกินไปแล้ว”

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในบรรดาตัวแทนของกลุ่มรัฐอิสลามที่ชัดเจนเหล่านั้น ขณะนี้ถูกเปิดเผยออกมาแล้วว่าเป็นคนหลอกลวงทางสื่อออนไลน์ที่ไม่ใช่มุสลิมและอยู่ในอเมริกา

สำนักงานตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลียไม่มีความตั้งใจที่จะยื่นขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนสำหรับโกลด์เบิกร์ แต่กล่าวในแถลงการณ์ว่า เขาจะต้องรับโทษจำคุก 20 ปี ถ้าถูกตัดสินว่าผิด

“การสืบสวนของ AFP เมื่อเดือนมิถุนายน 2015 พบว่าไม่มีภัยคุกคามในเบื้องต้นต่อชุมชนของชาวออสเตรเลีย เมื่อการสืบสวนแน่ใจว่าผู้ที่น่าจะเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการข่มขู่เหล่านี้อยู่ในสหรัฐฯ การสืบสวนจึงตกไปอยู่ในอำนาจของ FBI โดยที่ AFP มีบทบาทในการช่วยเหลือ”

นีล กอฮาน รักษาการรองผู้บัญชาการด้านความมั่นคงแห่งชาติของ AFP กล่าวหาว่า โกลด์เบิร์ก “วางใจว่าอินเทอร์เน็ตจะช่วยปกปิดชื่อเสียงเรียงนามได้”

“ปฏิบัติการครั้งนี้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่า การบังคับใช้กฎหมายสามารถสืบสวนคนในโลกออนไลน์ได้ และใช้ความร่วมมือที่มีมายาวนานของเราเพื่อทำงานร่วมกับหน่วยงานในต่างประเทศเพื่อนำผู้คนมารับผิดชอบการกระทำของเขา”
คำเบิกความในขณะจับกุมระบุว่า ระหว่างวันที่ 19 ถึง 28 สิงหาคม นายโกลด์เบร์ “ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตวัตถุระเบิด, เครื่องมือทำลายล้าง หรืออาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง อันเป็นการส่งเสริมกิจกรรมที่ถือว่าเป็นอาชญากรรมรุนแรงของสหพันธรัฐ”

อัยการ ลี เบนท์ลีย์ ที่ 2 ของสหรัฐฯ กล่าวว่า โกลด์เบิร์กได้แนะนำแหล่งที่เป็นความลับเกี่ยวกับวิธีการทำระเบิดที่เหมือนกันกับระเบิดสองลูกที่ใช้ก่อเหตุระเบิดงานวิ่งมาราธอนที่บอสตันเมื่อสองปีที่แล้ว ท่ำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บมากกว่า 260 คน

เขาถูกกล่าวหาว่าได้แนะนำวิธีการเติมระเบิดด้วยตะปู โลหะ และวัตถุอื่นๆ ที่จุ่มในยาเบื่อหนู

ตำรวจตั้งข้อหาเขาจากการสื่อสารของเขาในห้าเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับเว็บไซต์ที่ให้คำแนะนำที่สามารถนำไปใช้เพื่อทำวัตถุระเบิด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่จะวางระเบิดในวันที่ 13 กันยายน ที่งานพิธีในเมืองแคนซัสที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ก่อการร้าย 9/11

คำเบิกความของ วิลเลียม เบอร์รี่ เจ้าหน้าที่พิเศษหน่วยป้องกันเขตแดนและศุลกากรสหรัฐฯ (US Customs and Border Protection) กล่าวว่า ตอนแรกโกลด์เบิกร์ให้การปฏิเสธต่อเจ้าหน้าที่ว่าเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการทำระเบิด แต่ก็ได้ยอมรับในภายหลัง

“โกลด์เบิร์กยังยอมรับอีกว่า เขาเชื่อว่าข้อมูลนี้จะสร้างระเบิดจริงได้” เจ้าหน้าที่เบอร์รี่กล่าวอ้าง

อย่างไรก็ตาม โกลด์เบิกร์ยังอ้างด้วยว่า เขาตั้งใจว่าถ้าคนที่เขาติดต่อด้วยไม่ฆ่าตัวเองด้วยการทำระเบิด โกลด์เบิกร์ก็ตั้งใจที่จะแจ้งตำรวจให้ทันเวลา เพื่อที่เขาจะได้รับ “ความเชื่อถือจากการหยุดการเกิดเหตุได้”

ในการพูดคุยกับ Fairfax Media ซึ่งได้ถูกนำมาอ้างถึงในคำเบิกความด้วยนั้น นายโกลด์เบิร์กระบุว่า เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีนักรบญีฮาดคนใดดำเนินการก่อเหตุจริงๆ เพราะ “คนพวกนี้เป็นแค่นักรบหน้าคีย์บอร์ด”

Fairfax Media ยังสามารถเปิดเผยได้อีกด้วยว่า โกลด์เบิร์ก ถูกสงสัยว่าใช้ชื่อ Australi Witness เป็นหนึ่งในจำนวนหลายชื่อหลอกลวงทางสื่อออนไลน์อื่นๆ รวมถึงการโพสต์ทางสื่อออน์ไลน์ในฐานะเป็นนักกฎหมายผู้มีชื่อเสียงชาวออสเตรเลียที่ชื่อ Josh Bornstein

การกระทำทางสื่อออน์ไลน์ของ Australi Witness อาจส่งผลตามมาที่ร้ายแรงในโลกของความเป็นจริงในเดือนพฤษภาคม

ก่อนหน้าที่จะถึงงานนิทรรศการณ์ในการ์แลนด์ รัฐเท็กซัส ที่จะมีการจัดแสดงภาพของศาสดามุฮัมมัด “Australi Witness” ได้ทวีตที่ตั้งของงาน และโพสต์ทวีตซ้ำๆ เพื่อกระตุ้นให้คนไปที่นั่นพร้อมด้วย “อาวุธ, ระเบิด หรือมีด”
ชายมุสลิมสองคนได้พยายามที่จะก่อเหตุโจมตีงานนิทรรศการนั้น และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฯ ไป Australi Witness จึงได้สรรเสริญเขาทั้งสองทางสื่อออนไลน์ว่าเป็น ผู้พลีชีพ

1441933946137 1441933862321
Australi Witness ยังได้กระตุ้นให้ผู้ติดตามโจมตีนักเขียนการ์ตูนชาวออสเตรเลีย แลร์รี่ พิกเคอริง ที่ได้วาดภาพศาสดามุฮัมมัดก่อนหน้านี้
1441934066039
Australi Witness ได้หลอกลวงสมาชิกของหน่วยงานข่าวกรองระหว่างประเทศ รวมถึงนักข่าวหลายคน โดยที่ ริต้า แคทซ์ นักวิเคราะห์ชื่อดังจาก SITE Intelligence Group กล่าวว่า “ผู้สนับสนุน IS” คนนี้ มีตำแหน่งที่ “ทรงอิทธิพล” ในแวดวงญีฮาดออนไลน์ และเป็น “ส่วนหนึ่งของกลุ่มบุคคลที่เป็นฮาร์ดคอร์ ที่มองหาเป้าหมายให้คนอื่นโจมตีอยู่ตลอดเวลา”

ก่อนหน้านี้ ริต้า แคทซ์ ได้ทำหน้าที่เป็น ที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ และต่างประเทศ และเคยให้การต่อสภาคองเกรสเกี่ยวกับกิจกรรมของผู้ก่อการร้ายทางสื่อออนไลน์

สำนักงานตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลียไม่เคยรู้เลยว่าตัวตนที่แท้จริงของ Australi Witness คือโกลด์เบิร์ก จนกระทั่งได้รับการติดต่อจากนักข่าวที่เป็นตัวแทนของ Fairfax Media

ในชื่อหลอกของ Bornstein โกลด์เบิร์กได้สร้างบล็อกบน Times of Israel ด้วยชื่อของนักกฎหมายผู้นี้ ก่อนที่จะโพสต์บทความเผ็ดร้อนเรียกร้องให้ “ถอนรากถอนโคน” ชาวปาเลสไตน์ให้สิ้นซาก Times of Israel ได้ถอดบทความนี้ออกและได้ขอโทษ และ Bornstein ได้เผยแพร่ต่อสาธารณะด้วยเรื่องที่ระบุว่า “ผมเวทนาการเหยียดเชื้อชาติ… ผมต่อสู้กับการเหยียดเชื้อชาติมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ”

เมื่อถูกเผชิญหน้า โกลด์เบิร์ก เขาโม้ว่าเขาเลี่ยงการตรวจจับได้ โดยบอกว่า “ผู้ชายคนนั้นไม่รู้อะไรเลย เขาคิดว่า (เว็บไซต์กลุ่มขวาจัด) Daily Storer เป็นคนทำ” เขายังกล่าวด้วยว่า เขาอยากจะได้ที่อยู่จริงของ Bornstein เพื่อที่จะ “ทำให้เขาหลุดโลกมากขึ้นอีก”

ในบทสนทนา และในบทความที่เขียนด้วยชื่อจริงของเขา โกลด์เบิร์กแสดงตัวบ่อยๆ ว่าเป็นผู้สนับสนุนเสรีภาพในการพูด และแสดงความรังเกียจต่อองค์กรหรือบุคคลที่เรียกร้องให้มีขีดจำกัดในการพูดสร้างความเกลียดชัง หรือกฎหมายเกี่ยวกับการพูดสร้างความเกลียดชัง

ในฐานะ Australi Witness เขาแสดงความเกี่ยวข้องอย่างเปิดเผยกับองค์การนิรโทษกรรมสากล โดยบอกว่าเขาเคยทำงานที่นั่น นักรบญีฮาดปลอมคนนี้ยังอ้างอีกด้วยว่าเขาเป็นเพื่อนกับ มาเรียม วีซซาเดห์ นักรณรงค์ต่อต้านโรคเกลียดกลัวอิสลาม แต่กลับมีแต่ทำให้ชื่อเสียงของเธอแปดเปื้อน

ในการสนทนาทางสื่อออนไลน์ โกลด์เบิร์กกล่าวว่า “ผมอยากทำให้องค์การนิรโทษกรรมและมาเรียม วีซซาเดห์ แปดเปื้อน… องค์การนิรโษกรรมอยู่ในภาวะลำบากอยู่แล้วเพราะเกี่ยวข้องกับกลุ่ม CAGE  ผมอยากจะตอกย้ำถึงความเกี่ยวข้องกับนักรบญีฮาดของพวกเขาและทำลายชื่อเสียงของพวกเขา และมาเรียมเป็นโสเภณีมุสลิม ดังนั้นการจะทำให้เธอแปดเปื้อนในฐานะนักรบญีฮาดคนหนึ่งน่าจะเป็นเรื่องง่าย”

มาเรียม วีซซาเดห์ กล่าวว่า เธอไม่ประหลาดใจเลยที่โกลด์เบิร์กถูกจับกุม โดยกล่าวว่า เธอ “ตกอยู่ในเรดาร์ของเขา” เนื่องจากการรณรงค์ของกลุ่มเกลียดชังต่อต้านมุสลิมกลุ่มหนึ่งที่ชื่อ Australian Defence League ที่รณรงค์เพื่อ “ปลุกระดมให้เกลียดชังและสร้างความรุนแรงกับฉันไปทั่วโลก”

ส่วน Bornstein ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น