เพรสทีวี – สหรัฐได้เพิ่มบุคลากรทางทหารที่ชำนาญทางด้านข่าวกรอง ติดตั้งกระสุนและเติมน้ำมันเครื่องบินรบ กว่าเท่าตัวเพื่อสนับสนุนการโจมตีทางอากาศขอซาอุดิอารเบียแก่เยเมน
ตามรายงานของสำนักข่าว Los Angeles Times จำนวนขาวอเมริกันที่ปฏิบัติการให้คำปรึกษาและช่วยเหลือทางการทหารร่วมกับซาอุดิอารเบียและบาห์เรนเพิ่มขึ้นจาก 20 คนเป็น 45 คนแล้ว
นอกจากนี้ เรือรบของสหรัฐยังมีส่วนร่วมในการปิดล้อมเรือในอ่าวเอเดนและทะเลอาหรับทางตอนใต้อีกเช่นกัน
ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐได้ออกมาอ้างว่าการปิดล้อมดักล่าวทำเพื่อป้องกันไม่ให้มีการส่งอาวุธรบแก่ขบวนการต่อสู้อันศอรุลลอฮ์ในเยเมน
ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนได้ออกมากล่าวว่า การปิดล้อมดังกล่าวยังได้กีดกั้นไม่ให้ส่งสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น เช่น อาหาร น้ำมันเชื้อเพลิงและอื่นๆอีกด้วย
ซาอุดิอารเบียได้เริ่มโจมตีเยเมนตั้งแต่วันที่ 6 เมษายนโดยไม่ได้รับอาณัติจากสหประชาชาติ และการโจมตียังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อพยายามลดบทบาทและการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการอันศอรุลลอฮ์ ซึ่งอับดียะฮ์ มันซูร ฮาดี อดีตประธานาธิบดีเยเมนได้ลี้ภัยและถูกขับไล่ออกจากประเทศ
ทีมปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐเคยใช้ฐานทัพอากาศที่ใหญ่ที่สุดในเยเมนเป็นฐานทำการรวบรวมข้อมูลและปฏิบัติการในการโจมตีทางตอนใต้ของเยเมน ต่อมาได้ถูกขับไล่ออกจากพื้นที่โดยเครื่องบินรบของอันศอรุลลอฮ์
เจ้าหน้าที่สหรัฐคนหนึ่งได้ออกมาประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตราบใดที่ฮาดียังไม่รับอำนาจคืนพวกเขาก็จะไม่มีวันกลับสู่ประเทศของตน
ในขณะที่สถาการณ์ด้านมนุษยธรรมในเยเมนถือเป็นเรื่องสำคัญ จึงมีองค์กรต่างๆทางการแพทย์ระหว่างประเทศอย่างมากมายที่กำลังหาช่องทางที่ปลอดภัยในการเข้าไปยังประเทศเยเมนเพื่อช่วยเหลือประชาชนทั้งทางด้านการแพทย์และมนุษยธรรม
องค์กรนิรโทษกรรมสากลได้รายงานว่า เป้าหมายในการโจมตีทางอากาศของซาอุดิอารเบียนั้นจะเล็งไปยังพื้นที่ที่มีประชากรแออัดซึ่งไม่ได้มีเป้าหมายโจมตีไปยังทหารของฝ่ายตรงข้ามจึงเป็นเหตุทำให้พลเรือนได้รับบาดเจ็บและล้มตายเป็นจำนวนมาก
ตามรายงานของสหประชาชาติ ตั้งแต่เกิดการรุกรานของซาอุดิอารเบียแก่เยเมนนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วราย 4300 คนและมากกว่า 1 ล้าน 3 แสนคนต้องละทิ้งบ้านเกิดไร้ที่อยู่อาศัย
