ที่ราบสูงโกลัน – อิสราเอลเป็นชาติที่ขาดแคลนพลังงานสำรอง แต่รายงานข่าวเมื่อเร็วๆ นี้บ่งบอกว่าประเทศนี้หวังที่จะใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายของสงครามกลางเมืองในซีเรียเพื่อเข้าถึงแหล่งน้ำมันแห่งใหม่
อิสราเอลพยายามที่จะหาพลังงานให้ได้เพียงพอกับความต้องการเนื่องจากการขาดแคลนเชื้อพลิงสำรอง แต่โครงการใหม่ในที่ราบสูงโกลันที่ถูกยึดครองอาจจะเปลี่ยนปลงแนวโน้มนี้ได้ด้วยการขุดเจาะแหล่งน้ำมันแห่งใหม่ ตามข้อมูลจาก Paul Fallon นักวิจัยด้านกฎหมายจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนGolan Marsad ในรายงานฉบับหนึ่งที่เผยแพร่ทาง Electronic Intifada เว็บไซต์หนึ่งที่สนับสนุนและรายงานข่าวของปาเลสไตน์
โครงการสามปีเพื่อการสำรวจแหล่งเชื้อเพลิงใหม่ๆ นี้นำโดยบริษัท Afek Oil and Gas และบริษัทนี้ได้รับอนุญาตให้ทำการขุดเจาะบ่อสำรวจมากถึง 10 บ่อ บริษัทพลังงานของอิสราเอลแห่งนี้เป็นบริษัทสาขาของ Genie Engery บริษัทที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองนูอาร์ค รัฐนิวเจอร์ซีย์ ตามข้อมูลจาก The Times of Israel “นักลงทุนระดับสูง” ของ Genie อาจรวมถึง “อดีตรองประธานาธิบดีดิ๊ก เชนีย์ ของสหรัฐฯ, ไมเคิล สเตนฮาร์ด, จาค้อบ ร๊อธไชด์ และรูเพิร์ท เมอร์ดอค” เป็นสัญญาณของความสัมพันธ์ที่กำลังดำเนินต่อไประหว่างอิสราเอล, รัฐบาลสหรัฐฯ และ “1%” ของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
Fallon เขียนว่า :
“Afek อ้างบนเว็บไซต์ของตนว่า ที่ราบสูงโกลันที่ซีเรียยึดครองเป็นส่วนหนึ่งของ ‘รัฐอิสราเอล’ บริษัทได้รับใบอนุญาตให้ทำการสำรวจปิโตรเลียมจากคณะกรรมการออกแบบและก่อสร้างภาคเหนือ เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยตรง โดยเมินเฉยอย่างสิ้นเชิงต่อภาคผนวกที่สี่ของสนธิสัญญาเจนีวา ที่ใช้กับดินแดนที่ถูกยึดครอง
ในเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทสาขาของ ฤดำk ได้เริ่มขุดเจาะบ่อสำรวจแห่งแรก และขุดเจาะลึกลงไป 1,000 เมตร ตัวอย่างที่ได้กำลังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์และการขุดเจาะยังดำเนินต่อไป ในกรณีที่บริษัทค้นพบน้ำมัน มันจะร้องขอใบอนุญาตที่จำเป็นเพื่อเริ่มต้นขั้นตอนการผลิต”
อิสราเอลอ้างสิทธิในที่ราบสูงโกลันครั้งแรกในปี 1967 ระหว่างสงครามหกวัน มติมากมายของสหประชาชาติได้ประณามการยึดครองดินแดนแห่งนี้ของประเทศนี้ Fallon กล่าวต่อไปว่า :
“ถึงแม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติ แต่นโยบายที่เลือกปฏิบัติและแสวงหาประโยชน์โดยเนื้อแท้ของอิสราเอลภายในโกลันก็ยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีมาตรการลงโทษ รัฐมนตรีหลายคนของอิสราเอลเปิดเผยถึงความปรารถนาที่จะหาประโยชน์บนความเสื่อมเสถียรภาพของซีเรีย เพื่อเป็นข้ออ้างในการเสริมความมั่นคงในการยึดครองดินแดนแห่งนี้อย่างผิดกฎหมายของอิสราเอล”
Melanie Lidman จาก The Times of Israel รายงานว่า นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมชาวอิสราเอลก็คัดค้านโครงการขุดเจาะนี้ แผนการเหล่านี้ถูกทำให้ล่าช้าไปเมื่อปีที่แล้วเพื่อการประเมินสภาพแวดล้อม และนักเคลื่อนไหวกลัวว่าการขุดเจาะอาจจะก่อให้เกิดมลพิษได้ เพราะน้ำมันสำรองจำนวนมากในภาคนี้จะอยู่ในรูปของก๊าซธรรมชาติจากชั้นหินดินดาน หรือ shale gas ซึ่งจำเป็นต้องใช้วิธีการ hydraulic fracturing หรือเรียกสั้นๆ ว่า fracking เพื่อให้ได้มา
นับตั้งแต่การขุดเจาะได้เริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ บ่อน้ำมันของ Afek ได้กลายเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว ยิ่งเป็นการส่งเสริมความคิดที่ว่า การขุดเจาะนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการทั้งหมดที่จะทำให้การยึดครองดินแดนแห่งนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาท่ามกลางการคัดค้านของโลก “อิสราเอลได้เพิ่มความพยายามของตนเป็นสองเท่าเพื่อยึดครองโกลัน ในขณะที่ความสนใจของโลกมุ่งไปอยู่ที่เหตุการณ์นองเลือดในพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของซีเรีย” Patrik Strickland เขียนในรายงานเรื่องหนึ่งบนเว็บไซต์ Electronic Intifada เมื่อ 20 กรกฎาคม ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำที่ผิดกฎหมายและน่าสงสัยหลายอย่างในดินแดนนั้น ตั้งแต่การรุกรานของทหารเข้าไปในค่ายผู้อพยพ ไปจนถึงการมาเยือนของนักการเมืองไซออนิสต์เหยียดเชื้อชาติ
ซีเรียก็มีแผนสำหรับ “พลังงานสำรองที่ลดน้อยลง” ของตนซึ่งได้รับเงินสนับสนุนประจำปี 4 พันล้านดอลล่าร์ก่อนที่จะเข้าสู่สงครามกลางเมือง ตามข้อมูลการแสดงความเห็นของ Pepe Escobar นักข่าวจาก Asia Times เมื่อปี 2012 แผนเหล่านี้ประกอบด้วยข้อตกลงมูลค่า 10,000 ล้านดอลล่าร์ เพื่อสร้างท่อส่งผ่านซีเรีย, อิหร่าน และอิรัก และเป็นไปได้ว่าจะเข้าไปในเลบานอนด้วย
แต่การเสื่อมเสถียรภาพที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ทำให้แผนการเหล่านั้นต้องล่มไป และมีหลักฐานว่าอิสราเอลให้การสนับสนุนโดยตรงต่อความวุ่ยวายนั้น อิสราเอลได้กระทำ “หนักมือ” ในการเติมเชื้อให้แก่สงครามกลางเมืองของซีเรีย ตามข้อมูลของ Richard Silverstein นักวิเคราะห์ที่เผยแพร่ใน MintPress News เมื่อเดือนที่แล้ว ข้อกล่าวหาต่างๆ ยังประกอบไปด้วยการจัดหาอาวุธและให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่นักรบอัล-กออิดะฮ์ที่ได้รับบาดเจ็บในดินแดนนั้นด้วย