เพรสทีวี – ชาวเยเมนกว่าหมื่นคน ร่วมเดินขบวนประณามการโจมตี ซึ่งไม่มีทีท่าจะหยุดยั้งของซาอุดิอารเบียต่อประเทศเยเมน ในเมืองหลวง ซานา
อัล มาซีระฮ์ ทีวี ประเทศเยเมน รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ชาวเยเมนจากทั่วทุกสารทิศร่วมเดินขบวนสู่ จตุรัสกลาง (central square) ประจำเมืองหลวงซานา เพื่อร่วมกันประณามการโจมตีด้วยอาวุธส งครามอย่างอุกฉกรรของซาอุดีอาระเบีย ต่อพลเมืองชาวเยเมน
ผู้ประท้วงกล่าวตะโกนคำขวัญต่อต้านการปกครองของราชวงศ์ซาอูด พร้อมกับปลุกระดม เรียกร้อง ให้องค์กรระหว่างประเทศต่างๆ หยุดท่าทีเพิกเฉยของตนที่มีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหันมาทำอะไรสักอย่างเพื่อยุติ การรุกรานอันไม่มีทีท่าจะหยุดหยั้งของซาอุดิอาระเบียนี่เสีย
ผู้ประท้วงชี้แจงว่า พวกเขาจะให้การสนับสนุน “การตัดสินเชิงกลยุทธ์” ของ ขบวนการเคลื่อนไหว เฮาซี อันซารุลลอฮ์ ในกรณีที่ริยาดได้ทำการละเมิดข้อตกลงร่วมซ้ำแล้วซ้ำอีก ว่าด้วยเรื่องที่ให้มีการยุติการสู้รบ
สมาชิกอาวุโส จากการขบวนการเคลื่อนไหวอันซารุลลอฮ ระบุว่า ผู้ประท้วงมีความรู้สึกที่ดีต่อพวกเขา ก็เนื่องมาจาก จุดยืนของพวกเขา เมื่อพูดถึงการเผชิญหน้ากับการรุกรานของซาอุดีอาระเบีย
หนึ่งในสมาชิกของ อันซารุลลอฮ์ กล่าวว่า โครงการ หรือ โปรเจกต์ เปิดตัวการโจมตีทางอากาศของซาอุดิอารเบียต่อพลเมืองเยเมน คือ “ความล้มเหลวอย่างที่สุด” เพราะชาวเยเมนจะไม่มีวันก้มหัวให้กับความกดดันเช่นนี้อีกต่อไป เขายังกล่าวอีกว่า ชาวเยเมนต่างรู้สึกซาบซึ่ง และขอขอบคุณไปยังชาติ และรัฐบาลอาหรับอื่นๆที่ให้การช่วยเหลือพวกเขาในช่วงเวลาสุดลำเข็ญนี้ อันประกอบด้วยประเทศ อิรัก ซีเรีย ตูนีเซีย เลบานอน และ ชาติ “เสรี” (“Free nations”) อื่นๆ
นอกจากนี้เขายังได้เรียกร้องไปยัง รัสเซีย ให้ยังคงสนับสนุน ชาติเยเมนในการต้อสู้ และดิ้นร้น เพื่อให้ได้มาซึ่งอิสรภาพ และการปลดแอกจากพันธนาการทางอำนาจของซาอุดีอาระเบีย
ซาอุดีอาระเบียเปิดตัวการรุกรานทางทหารกับเยเมน เมื่อวันที่ 26 มีนาคม โดยปราศจากอาณัติของสหประชาชาติ ในเจตนาเพื่อต้องการโค่นล้มทำลาย ขบวนการอันซารุลลอฮ และเรียกคืนอำนาจให้ อดีตประธานาธิบดีอับดุลฮาดี รับบะฮ์ มันซอร ในสภาวะของผู้ลี้ภัยทางการเมือง ณ ปัจจุบัน เนื่องด้วยอับดุลฮาดี ถือเป็นพันธมิตรที่แข็งขันหนึ่งของริยาด
รูเพิร์ต โคลวิลล์ (Rupert Colville) โฆษก ประจำ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ กล่าวไว้ในวันที่ 21 กรกฎาคม ว่า มีพลเมืองอย่างน้อยที่สุดจำนวนกว่า 1693 ได้ถูกฆ่าตาย และอีกกว่า 3,829 คนอื่น ๆ ในประเทศอาหรับ ได้รับบาดเจ็บ ตั้งแต่วันที่ 26มีนาคม เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม แหล่งอ้างอิงประจำท้องถิ่นส่วนมากล้วนระบุว่า มีพลเมืองสูญเสียชีวิตของพวกเขารวมทั้งสิ้นกว่า 4,500 คนแล้ว ในขณะนี้