ชาวคริสต์ในเลบานอนที่ถูกไอซิซคุกคาม หันขอความช่วยเหลือจากฮิซบุลเลาะฮ์

“กลุ่มเดียวที่กำลังปกป้องเราก็คือขบวนการฮิซบุลเลาะห์...กลุ่มเดียวที่ยืนหยัดอยู่กับกองทัพก็คือฮิซบุลเลาะห์ เราอย่าปิดบังเรื่องนี้อีกต่อไปเลย”

2751

(ภาพ) ริฟัต นัสรุลเลาะห์ ผู้บัญชาการกองทหารอาสาคริสเตียนในราส บาลเบก ที่เป็นพันธมิตรกับกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ของชีอะฮ์ เพื่อต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลามในเลบานอน 19 เมษายน 2015


ราส บาลเบก, เลบานอน – เมื่ออาทิตย์ตกดินในเมืองของชาวคริสเตียนทางเหนือของเลบานอนใกล้ชายแดนซีเรียแห่งนี้ ริฟัต นัสรุลเลาะห์ นักธุรกิจชาวแคธอลิกจะเปลี่ยนมาใส่ชุดประจำกองรบของเขา และเข้าประจำตำแหน่งในจุดเฝ้าระวังหนึ่งในห้าจุดรอบชานเมือง จากบังเกอร์ที่ตั้งเสริมขึ้นบนดาดฟ้าบ้านว่างหลังหนึ่ง นัสรุลเลาะห์ใช้แว่นมองกลางคืนเพื่อตรวจตราแนวภูเขาที่อยู่ห่างไปเพียง 2.5 ไมล์กว่าๆ เท่านั้น และตอนนี้เป็นที่ตั้งของกลุ่มก่อการร้ายจากอีกฝั่งของเขตแดน ที่เป็นสมาชิกของทั้งกลุ่มรัฐอิสลามและกลุ่มญับฮะตุน-นุสรอ สาขาของอัล-กออิดะฮ์ ในซีเรีย

“เราอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก” ผู้บัญชาการกองทหารอาสาคริสเตียนปกป้องเมืองกล่าวที่บ้านของเขาในราส บาลเบก “ถ้ากองทัพที่นั่นแพ้การสู้รบ จะเกิดอะไรขึ้นกับเรา?”

ชาวเมืองราส บาลเบก หลายร้อยคนพากันจับอาวุธเพื่อป้องกันครอบครัว บ้าน และธุรกิจของพวกเขา ตั้งแต่กลุ่มนักรบมุสลิมหัวรุนแรงเข้ามาเสริมกำลังในที่มั่นของพวกเขาบนภูเขาตามแนวชายแดนซีเรียเมื่อเดือนมีนาคม พวกเขาสลับกันระหว่างภารกิจลาดตระเวนให้กองทัพเลบานอนในเวลากลางวันและตรวจตราจากระยะไกลตลอดกลางคืน

“เรามีสองทางเลือก หนึ่งคือสู้ที่หน้าบ้านของเราจนตาย และสองคือออกไปจากที่นี่” นัสรุลเลาะห์กล่าว แต่แล้วเขาก็เสริมขึ้นว่า “ข้อสองไม่ใช่ทางเลือกของเรา”

เมื่อมีสัญญาณแรกของการบุกรุกเข้ามา กองทหารอาสาชาวคริสเตียนที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นของนัสรุลลอฮ์ได้รับคำแนะนำให้ติดต่อกับที่มั่นของกองทัพที่ตีนเขา และเข้าประจำตำแหน่งรอบเมือง เคียงข้างกับพันธมิตรที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ นั่นก็คือ นักรบของฮิซบุลเลาะห์ สมาชิกกองทหารอาสาชีอะฮ์ ที่สหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ต่างถือว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย มีความกังวลกับพวกนักรบญีฮาดซุนนีจากซีเรียมากพอที่จะร่วมมือกับชาวคริสเตียน ที่จริงแล้ว ชาวคริสเตียนในราส บาลเบก กับกลุ่มนักรบที่อิหร่านหนุนหลังอยู่นี้เป็นมิตรต่อกัน ในการปะติดปะต่อทางลัทธิความเชื่อและความเป็นพันธมิตรที่ซับซ้อนของเลบานอน พวกเขากำลังบุกเบิกแนวทางดำเนินการใหม่ คือชาวคริสเตียนและชีอะฮ์ร่วมมือกันต่อสู้กับกลุ่มซุนนีหัวรุนแรง

christians1(ภาพ) รูปถ่ายของฮะซัน นัสรุลเลาะห์ ผู้นำฮิซบุลเลาะห์ ภายในจุดเฝ้าระวังของกองทหารอาสาคริสเตียนราส บาลเบก, 19 เมษายน 2015


ราส บาลเบกอยู่ภายนอกแนวหน้าของกองทัพเลบานอนใกล้กับอาร์ซัล ศูนย์ปฏิบัติการในละแวกนั้นของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือที่เรียกว่า ไอซิซ หรือไอซิล และกลุ่มญับฮะตุน-นุสรอ เมืองอาร์ซัลห้อมล้อมด้วยเนินเขาแห้งแล้งที่เรียกว่าญูรฺด์ เป็นเทือกเขาขรุขระที่คนส่วนใหญ่ถือว่าพอจะอาศัยอยู่ได้ ขณะนี้ พื้นที่ญูรฺด์ถูกแบ่งครึ่งระหว่างไอซิซและนุสรอ และราสบาลเบกตั้งอยู่ทางด้านเดียวกับไอซิซ นัสรุลลอฮ์ประมาณว่ามีนักรบอยู่ในพื้นที่นั้นราว 4,500 คน

เมืองนี้อยู่ใกล้พอกับระยะยิงจากตำแหน่งที่ตั้งของไอซิซ เดือนที่แล้ว โบสถ์แห่งหนึ่งถูกยิงด้วยปืนใหญ่ระหว่างมีพิธีแต่งงาน นัสรุลเลาะห์และคนอื่นๆ อีกหลายคนได้รับบาดเจ็บ เรื่องนั้นได้ทำให้กระชับข้อตกลงกับกลุ่มชีอะฮ์ เพราะกองทหารอาสาคริสเตียนหวังพึ่งการสนับสนุนจากฮิซบุลเลาะห์

“กลุ่มเดียวที่กำลังปกป้องเราก็คือขบวนการฮิซบุลเลาะห์” นัสรุลเลาะห์กล่าว “กลุ่มเดียวที่ยืนหยัดอยู่กับกองทัพก็คือฮิซบุลเลาะห์ เราอย่าปิดบังเรื่องนี้อีกต่อไปเลย”

ฮิซบุลเลาะห์เป็นกองทหารตัวแทนที่แข็งแกร่งที่สุดของอิหร่านในภูมิภาคนี้ ข้ามเขตแดนไปอีกฝั่งหนึ่ง การสนับสนุนทางทหารของกลุ่มนี้เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้รัฐบาลของประธานาธิบดีบะชัร อัสซาด ยังคงอยู่ในอำนาจอย่างมั่นคงหลังจากสงครามในซีเรียดำเนินมาถึงสี่ปี และในฝั่งนี้ ฮิซบุลเลาะห์เริ่มให้อาวุธและฝึกฝนชนกลุ่มน้อยที่ถูกคุกคามจากกลุ่มนักรบซุนนีจนต้องข้ามแดนมาจากซีเรีย และฮิซบุลเลาะห์ไม่เหมือนกับไอซิซ พวกเขาไม่เรียกร้องการเป็นพันธมิตรหรือการเปลี่ยนศาสนาจากชนกลุ่มน้อยที่พวกเขาให้การสนับสนุน

“พวกเขายอมรับเราในแบบที่เราเป็น” นัสรุลเลาะห์กล่าว “พวกเขาไม่ได้ตั้งข้อกำหนดอะไรแก่เราเลย เมื่อมีโอกาสพิเศษ พวกเขาจะมาร่วมงานวันเกิดของลูกหลานเรา ประชาชนที่นี่ยอมรับว่าฮิซบุลเลาะห์มาและช่วยเหลือเรา”

สิ่งหนึ่งที่น่าสังเกตในประเทศที่แตกแยกนี้ก็คือ หัวหน้าชาวคริสเตียนในราส บาลเบก กับผู้นำฮิซบุลเลาะห์มีชื่อสกุลเหมือนกัน นัสรุลเลาะห์ที่เป็นคริสเตียน เป็นชายร่างใหญ่ไว้หนวดเครา เขาดูเหมือนกับนัสรุลเลาะห์ที่เป็นมุสลิม หรือฮะซัน นัสรุลเลาะห์ อย่างมาก ที่บ้าน เขาติดรูปถ่ายขนาดใหญ่ของผู้ที่มีชื่อเหมือนกับเขาไว้เหนือประตู เคียงข้างกับรูปถ่ายของอายาตุลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน และบนโต๊ะกาแฟที่วางรูปถ่ายของครอบครัวก็มีรูปของอดีตประธานาธิบดีมะห์มูด อะห์มะดีเนจาด ของอิหร่านอยู่ด้วยรูปหนึ่ง

lebanon(ภาพ) รูปถ่ายของฮะซัน นัสรุลเลาะห์ ในบ้านของผู้นำกองทหารอาสาคริสเตียน ริฟัต นัสรุลเลาะห์, 19 เมษายน 2015


ทั้งหมดนี้ในราส บาลเบก เมืองของชาวคริสเตียนประมาณ 8,500 คน ที่ซึ่งผู้ที่ไม่ใช่คริสเตียนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อที่ดิน แต่ขณะนี้ เมืองนี้อยู่ตรงกลางระหว่างเมืองของชีอะฮ์ทางตะวันตกกับกลุ่มนักรุบซุนนีทางตะวันออก และถูกบีบให้ต้องเลือกข้าง

“ผมไม่เรียกมันว่าพันธมิตร ผมจะเรียกมันว่าความจริง” คุณพ่ออิบรอฮีม บาทหลวงของของเมืองนี้กล่าว เขาอธิบายว่า ถ้านักรบซุนนีสามารถเข้ามาถึงเมืองนี้ได้ ชาวเมืองกลัวว่ามันจะเป็นความหายนะที่ไม่ต่างกันกับที่ชาวยาซิดีของอิรักเคยประสบบนภูเขาซินจาร์เมื่อปีที่แล้ว นั่นก็คือ การสังหารหมู่

“ไอซิซไม่ทำเพียงแค่โจมตีแล้วจากไป พวกเขามีแผนที่จะควบคุมภูมิประเทศ” คุณพ่ออิบรอฮีมกล่าว “พวกเขาจะยึดเอาตัวผู้หญิง เงิน และเด็กๆ ไป”

ไอซิซได้แสดงการอาละวาดต่อชาวคริสเตียนในช่วงนี้ เมื่อวันอาทิตย์ มันเปิดเผยวิดีโอแสดงการประหารชาวคริสเตียนอียิปต์ 30 คน ที่กลุ่มนี้ลักพาตัวมาในลิเบีย พร้อมกับเตือนว่าชาวคริสเตียนทั้งหมดจะพบกับชาตากรรมแบบเดียวกันถ้าหากพวกเขาไม่เปลี่ยนมานับถืออิสลามหรือไม่ยอมปฏิบัติตามกฎของกลุ่มแล้วจ่ายภาษีพิเศษ หรือญิซยา วิดีโอล่าสุดก็มีลักษณะเหมือนกับที่เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งนักรบไอซิซกำลังจะตัดศีรษะชาวคริสเตียนคอปติกชาวอียิปต์ 21 คน ในลิเบีย

“ชะตากรรมของเราก็จะเป็นแบบเดียวกันกับพวกเขา แม้ว่าประชาชนไม่ต้องการจะยอมรับมันก็ตาม” ริฟัต นัสรุลเลาะห์กล่าว โดยอ้างถึงเหยื่อของไอซิซ “ความแตกต่างเดียวระหว่างเรากับพวกเขาก็คือ ยังไม่มีหัวของพวกเราวางอยู่บนทราย” คุณพ่ออิบรอฮีมได้สร้างความเปลี่ยนแปลงขึ้นในพิธีมิซซาของเขา ตั้งแต่เมืองนี้ตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามจากพวกที่ข้ามฝั่งมาจากซีเรีย เขาบอกว่าขณะนี้ เขาเสริมความคิดที่ว่า ศาสนาคริสต์เป็น “การตัดสินใจครั้งสุดท้าย” และเรียกร้องให้สมาชิกเยาวชนของโบสถ์เข้าร่วมการต่อสู้และป้องกันเมือง เขาสนับสนุนให้ลูกชายของเขาเข้าร่วมในกองทหารอาสาคริสเตียนในท้องถิ่นด้วย เขาบอกว่าตัวเขาเองก็จะสู้ถ้าเมืองนี้ถูกโจมตี

“ถึงแม้ว่าเราจะเป็นคริสเตียน และควรจะมีความรักและการให้อภัย แต่เราต้องไม่เป็นคนอ่อนแอและยืนหยัดบนแผ่นดินของเรา”

ฮิซบุลเลาะห์ก็มีเดิมพันสูงมากที่นี่เช่นกัน ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของราส บาลเบก ทำให้มันมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์สำหรับกองทหารชีอะฮ์กลุ่มนี้ ถ้ามันตกเป็นของกลุ่มนักรบซุนนี เมืองชีอะฮ์โดยรอบก็จะตกอยู่ในอันตรายโดยตรง

“ราส บาลเบก อยู่ในจุดที่เสี่ยงถูกโจมตี” คุณพ่ออิบรอฮีมกล่าว “ถ้าเมืองนี้แตก พื้นที่ทั้งหมดก็จะแตก”

การยึดราส บาลเบก จะเปิดทางสะดวกให้กลุ่มนักรบญีฮาดซุนนีขยายอิทธิพลในภาคเหนือของเลบานอน พวกเขาจะสามารถรวบรวมดินแดนทั้งหมดตลอดทางไปสู่เมืองท่าทริโปลีได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นที่ตั้งแข็งแกร่งที่สุดอันดับสองของพวกเขาในประเทศนี้

อันตรายที่ใกล้เข้ามานั้นทำให้ริฟัต นัสรุลเลาะห์โกรธมากกว่าที่เคยเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงในเลบานอน กลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ทั้งฮิซบุลเลาะห์ และไอซิซ ได้รับความช่วยเหลือจากประเทศอื่นๆ แต่ชาวคริสเตียนไม่ได้รับ

“ผมมีข่าวจะบอกกับตะวันตก” เขากล่าว “ถ้าวันหนึ่งคนพวกนี้สามารถกำจัดเราออกไปจากที่นี่ได้ รายต่อไปก็จะเป็นชาวคริสเตียนในตะวันตก”

 

 

Source http://www.ibtimes.com
แปล/เรียบเรียง กองบก.เอบีนิวส์ทูเดย์