ชายชาวเยเมนเดินผ่านรถซึ่งได้รับความเสียหายจากการโจมตีทางอากาศของซาอุดีอาระเบียซึ่งอยู่ใกล้กับฐานทัพทหารในเมืองหลวงซานา (ภาพ : เอเอฟพี)
เพรสทีวี – โฆษกรัฐสภาอิหร่าน อาลี ลาริจานี กล่าวว่า การประกาศยุติปฏิบัติการทางทหารของซาอุดิอารเบียต่อเยเมน หมายถึงความล้มเหลวของปฏิบัติการุกรานอันหน่อมแน้ม
ที่พิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภาในกรุงเตหะรานวันนี้ (พุธ) อาลี ลาริจานี ได้วิพากษ์วิจารณ์ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมซาอุดิอาระเบียที่ระบุว่า การโจมตีทางอากาศประสบความสำเร็จในการกำจัด “ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศซาอุดีอาระเบียและประเทศเพื่อนบ้าน”
ถ้าพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างการรุกรานทางทหารของซาอุดีอาระเบียที่มีต่อเยเมน ลาริจานี กล่าวว่า “ประการแรก ประชาชนมากกว่าหนึ่งพันคน ที่รวมทั้งชาย สตรี และเด็กๆ ที่ถูกสังหาร ขณะที่อีกหลายพันคนได้รับบาดเจ็บ ประการที่สอง โครงสร้างพื้นฐานบางส่วนของประเทศ (เยเมน) ถูกทำลาย และประการที่สาม กองกำลังปฏิวัติอันซอรุลเลาะฮ์ร่วมกับกองทัพเยเมนยังคงควบคุมพื้นที่หลายจังหวัดในเยเมน”
“รัฐบาลซาอุดีอาระเบียในขณะนี้ควรจะถามว่า ในสามประการดังกล่าว อันไหนบ้างคือวัตถุประสงค์ของปฏิบัติการ ‘พายุขั้นเด็ดขาด” ลาริจานี กล่าว
‘พายุขั้นเด็ดขาด” หรือ Decisive Storm เป็นชื่อภารกิจทางทหารที่ประเทศซาอุดิทหารใช้โจมตีเยเเมนซึ่งได้สิ้นสุดลงแล้วในขณะนี้
โฆษกรัฐสภาอิหร่าน อาลี ลาริจานี
ลาริจานี เน้นว่า นับตั้งแต่ซาอุดีอาระเบียเริ่มมีการโจมตีทางอากาศต่อเยเมนในปลายเดือนมีนาคม เตหะรานก็เห็นแล้วว่าเป็นปฏิบัติการที่ยังประโยชน์ต่ออิสราเอล และย้ำว่า การแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการของเยเมนจะไม่มีผลใดๆ นอกเสียจากเป็นการลดทอนพลังอำนาจของชาวมุสลิม
“ซาอุฯ ที่ชาญฉลาด นับตั้งแต่นี้ต้องประเมินท่าทีของพวกเขาให้ถูกต้อง [และตระหนัก] ว่าวิธีการดังกล่าวไม่เพียงแต่จะไม่มีประโยชน์สำหรับการรักษาความมั่นคงของพวกเขา ทว่าทั้งหมดจะนำไปสู่การสูญสิ้นเกียรติภูมิแห่งอิสลามของพวกเขา” ลาริจานี กล่าว
นายพลจัตวาอาเหม็ด อัลอัซซิรี โฆษกกองทัพ ซาอุฯ ออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ในวันอังคาร (21) ประกาศยกเลิกการโจมตีของริยาดที่ มีชื่อรหัสว่า “พายุเด็ดขาด” ที่เป็นภารกิจทางทหารโจมตีเยเมน
แต่เขาระบุว่า การปิดล้อมทางทะเลของซาอุดีอาระเบียที่มีต่อเยเมนจะคงอยู่ และกองกำลังซาอุดีอาระเบียจะยังคงจับตาการเคลื่อนไหวของนักสู้ อันซอรุลเลาะฮ์ (ฮูซี) ต่อไป
ซาอุดีอาระเบียได้เริ่มต้นรุกรานทางทหารและโจมตีเยเมนเมื่อวันที่ 26 มีนาคม – โดยไม่ผ่านมติของยูเอ็น – อ้างว่าเพื่อส่งคืนอำนาจให้ฮาดีซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของริยาด รายงานระบุว่า ประชาชนชาวเยเมนกว่า 2,800 คนถูกฆ่าตายในระหว่างการรุกรานโจมตีของซาอุฯ เกือบ 1 เดือน