สวรรคตกษัตริย์ซาอุดี้-วิกฤตเยเมน สั่นคลอนสหรัฐในตะวันออกกลาง

1684

Hromedia – 23 Jan 2015

ซาอุดี้ในฐานะหนึ่งในพันธมิตรเพื่อความมั่นคงที่สำคัญที่สุดของวอชิงตันในภูมิภาค ขณะนี้กำลังตกอยู่ในสภาวะที่มีความเสี่ยงสูง ภายหลังการสวรรคตของกษัตริย์อับดุลลอฮ์ ประกอบกับสถานการณ์ในเยเมน ที่มีรายงานว่าประธานาธิบดีเยเมนและคณะะรัฐบาลกำลังจะลาออกจากตำแหน่ง หลังจากกลุ่มเฮาซีย์ยึดทำเนียบและควบคุมเมืองหลวงซานาได้อย่างเบ็ดเสร็จ
การตายของกษัตริย์ซาอุดีอาระเบียและ เหตุการณ์ไม่สงบในเยเมน ถือเป็นความเสี่ยงของตะวันออกกลางที่เพิ่มขึ้นและ เป็นความท้าทายใหม่สำหรับสหรัฐฯที่จะเกิดการก่อตัวของอาหรับสปริงครั้งที่ 3 เพราะกองกำลังทหารจะค่อยๆหายไป กองกำลังอัลกออิดะห์ อยู่ในสภาวการณ์เผชิญหน้าและสู้รบกับกลุ่มเฮาซีย์

ในขณะวิกฤติ หลังการสวรรคตของกษัตริย์อับดุลลอฮ์ ในซาอุดิอาระเบีย
ได้สร้างสูญญากาศที่จะส่งผลให้สหรัฐฯต้องเผชิญกับ อิทธิพลของอิหร่านที่ทวีอำนาจเพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง และภัยอันตรายที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง(ISIS)
hromedia รายงานว่า กษัตริย์อับดุลลอฮ์เป็นพันธมิตรเก่าแก่ของวอชิงตัน ที่ช่วยให้สหรัฐต่อสู้กับอัลกออิดะห์และไอซิส (ISIS) และยังป้องกันไม่ให้อิหร่านตั้งฐานที่มั่นคงและแข็งแกร่งในภูมิภาคนี้
อดีตนักการทูตสหรัฐฯที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชสำนักของซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า การตายของกษัตริย์อับดุลลอฮ์ในสัปดาห์นี้ มาพร้อมกับการล่มสลายของรัฐบาลเยเมน(ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา)ได้รับการกล่าวว่าเป็น “สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด” เพราะเป็นการขจัดอุปสรรคของเตหะรานในการขยายอิทธิพลของตนในตะวันออกกลาง หลังจากที่สองทศวรรษที่ผ่านมานั้น ยังอยู่ในอำนาจของกษัตริย์อับดุลลอฮ์มาโดยตลอด
เจ้าชายซัลมาน บินอับดุลอาซิซ อัล-ซูด รัชทายาทคนต่อไปในราชบัลลังก์ซาอุอาระเบีย เดินทางกลับประเทศในวันศุกร์ เพื่อลดความกังวลต่างๆของประเทศ โดยเฉพาะประเด็นนโยบายระหว่างประเทศ และนโยบายที่มีต่อประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต เจ้าชายซัลมานได้แถลงถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ทั่วประเทศว่า
“เราจะยังคงยึดมั่นในนโยบายที่ถูกต้อง ซึ่งซาอุดีอาระเบียได้ถือปฏิบัติ นับตั้งแต่การก่อตั้งรัฐมา” เจ้าชายซัลมานกล่าว ในขณะที่ยังอำพรางข้อเท็จจริง เกี่ยวกับที่มาของความวุ่นวายในตะวันออกกลาง ที่ซึ่งกลุ่ม ISIS ได้ควบคุมพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลของอิรักและซีเรีย
“ประเทศอาหรับและอิสลามกำลังอยู่ในสภาวะแห่งความหายนะและต้องการความสามัคคีเพื่อการทำงานร่วมกัน” เจ้าชายซัลมานยังกล่าวต่อว่า
“รัชสมัยของกษัตริย์อับดุลลอฮ์ จัดว่าเป็นศูนย์กลางในการป้องกันการขยายอิทธิพลของอิหร่านในภูมิภาคนี้ และเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังการสนับสนุนฝ่ายพันธมิตรในการต่อต้านเตหะรานในหลายประเทศ ขณะที่อิหร่านอยู่เบื้องหลังการสนับสนุนฮิสบุลลอฮ์ในเลบานอน

โดย Fausiyah Baniwan
https://hromedia.com