นักวิเคราะห์ เผย: ข้อตกลงระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบียจะเปลี่ยนระเบียบโลก

106

Timur Fomenko นักวิเคราะห์ประเด็นการเมืองของสำนักข่าว Rt ของรัสเซีย กล่าวถึงข้อตกลงระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบียในบทความ และย้ำว่าข้อตกลงนี้จะเปลี่ยนแปลงไม่เพียงแต่ในตะวันออกกลางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงระเบียบโลกด้วย

ข้อตกลงเตหะราน-ซาอุดิอาระเบีย ยังคงเป็นศูนย์กลางของความสนใจของนักวิเคราะห์และผู้สังเกตการณ์ประเด็นทางการเมืองในภูมิภาคและทั่วโลก เพื่อสานสัมพันธ์ทางการทูตและการเมืองอย่างรอบด้านอีกครั้งหลังจากหยุดไป 7 ปี

Timur Fomenko นักวิเคราะห์การเมืองและศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมอสโก เขียนบทความในเว็บไซต์ Rt ว่า ข้อตกลงนี้มีความสำคัญหลายประการ ประการแรก ข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงฉบับแรกที่บรรลุผ่านการไกล่เกลี่ยของจีน นอกจากนี้ ข้อตกลงเตหะราน-ริยาดยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจีนต่อความสัมพันธ์อันดีกับทุกประเทศในภูมิภาค

นักวิเคราะห์รายนี้กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่ผู้สังเกตการณ์ประเด็นทางการเมืองหลายคนระบุว่า ข้อตกลงนี้ไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนแปลงเฉพาะในตะวันออกกลางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงระเบียบโลกด้วย ซึ่งพูดง่ายๆ ก็คือ ข้อตกลงดังกล่าวเป็นข่าวร้ายสำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ และเป็นการทำลายอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างไร้ขีดจำกัดที่วอชิงตันมีมาอย่างยาวนานในภูมิภาคผ่านความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์กับประเทศต่างๆ เช่น ซาอุดิอาระเบีย

นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าวยังบั่นทอนการรณรงค์ที่นำโดยสหรัฐฯ ในการกดดันและโดดเดี่ยวอิหร่านอย่างได้ผล และขัดขวางความพยายามของอเมริกาในการกำหนดนโยบายระดับภูมิภาคเพื่อสนับสนุน (ระบอบการปกครอง) ของอิสราเอลผ่านข้อตกลงประนีประนอมหรือ Abraham และไม่น่าแปลกใจที่สื่อตะวันตกเรียกข้อตกลงนี้ว่าเป็นการท้าทายระเบียบระหว่างประเทศ Timur Fomenko กล่าว

อ้างอิงถึงพัฒนาการในช่วงสองปีที่ผ่านมาในภูมิภาคตะวันออกกลาง ตั้งแต่การที่ซาอุดิอาระเบียคัดค้านต่อสาธารณชนต่อคำขอของสหรัฐฯ ให้เพิ่มการผลิตน้ำมัน ไปจนถึงการการกลับคืนสู่อำนาจของเบนจามิน เนทันยาฮูในอิสราเอล ซึ่งตามมาด้วยความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างเทลอาวีฟและรัฐบาลอาหรับ – การพัฒนาเหล่านี้ เขาถือว่าปีนี้เป็นปีแห่งการจัดเตรียมสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่เหมาะสมสำหรับการไกล่เกลี่ยของจีนและการปรองดองของอิหร่านและซาอุดิอาระเบีย

ในตอนท้าย เขาอธิบายว่าอิหร่านและซาอุดิอาระเบียบรรลุข้อตกลงเพื่อสานสัมพันธ์ทางการทูตต่อเป็นการบ่อนทำลายผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นนโยบายของทำเนียบขาวในการสร้างเครื่องจักรสงครามถาวรเพื่อสร้างความชอบธรรมในการปรากฏตัวในภูมิภาคและลดอิทธิพลที่มีต่อประเทศอาหรับ

อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์ชาวรัสเซียผู้นี้กล่าวว่าข้อตกลงเตหะราน-ริยาดแสดงให้เห็นว่าความพยายามของอเมริกาในการแยกอิหร่านและโจมตีประเทศนี้ล้มเหลว และอเมริกาไม่สามารถแยกประเทศเหมือนในอดีตได้อีกต่อไป ยิ่งกว่านั้น หากผู้ปกครองทำเนียบขาวฉลาดก็ควรเรียนรู้จากการพัฒนาในภูมิภาคและปรับทัศนคติต่อตะวันออกกลางเสียใหม่

ทั้งนี้ เมื่อวันวันที่ 10 มีนาคม 2566 หลังจากการเจรจาหลายเดือน สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านและซาอุดิอาระเบียตกลงที่จะกลับมาสานสัมพันธ์ทวิภาคีและเปิดสถานทูตของทั้งสองประเทศอีกครั้ง

ข่าวการบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบียเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคีหลังจากตัดขาดกันมานานถึง 7 ปี เรื่องราวเบื้องหลังที่แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในความสัมพันธ์ระดับภูมิภาคและเหตุการณ์ระดับโลก….!!!

source:

irna