ในรายงานฉบับหนึ่ง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติระบุว่าอิสราเอลเป็นสาเหตุหลักของวิกฤตและความไม่มั่นคงในภูมิภาค
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง เขียนในรายงานล่าสุด โดยระบุถึงความต่อเนื่องของการยึดครองและการรุกรานของอิสราเอลและการเลือกปฏิบัติต่อชาวปาเลสไตน์เป็นสาเหตุหลักของวิกฤตการณ์และความไม่มั่นคงที่ต่อเนื่องกัน รวมทั้งการยืดเยื้อของความขัดแย้งในภูมิภาค และได้เน้นที่ประเด็น การบังคับพลัดถิ่น การคุกคาม การทำลายบ้านเรือนและการตั้งถิ่นฐานของชาวปาเลสไตน์ การใช้ความรุนแรงโดยผู้ตั้งถิ่นฐาน และการปิดล้อมฉนวนกาซาอันเป็นสาเหตุของความรุนแรงและวิกฤต
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติยังกล่าวเสริมด้วยว่า การที่ระบอบไซออนิสต์ไม่ถูกรับโทษใดๆ ได้เพิ่มความโกรธแค้นของชาวปาเลสไตน์มากขึ้น
กระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลกล่าวในการประท้วงรายงานนี้ว่า “รายงานนี้เป็นรายงานด้านเดียวและแสดงความเกลียดชัง และเป็นการสิ้นเปลืองทรัพย์สินระหว่างประเทศ และความพยายามของหน่วยงานของสหประชาชาติในการประณามอิสราเอลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนที่ต่อต้านอิสราเอลเท่านั้น”
อิสราเอลยังอ้างว่ารายงานไม่ได้กล่าวถึงความรุนแรงของชาวปาเลสไตน์ต่อไซออนิสต์แต่อย่างใด
รายงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองมีกำหนดจะนำเสนอในการประชุมสมัยที่ 50 ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในวันที่ 13 มิถุนายนนี้
Source: