วิกฤตยูเครนส่งผลให้จำนวนการประชุมทางการทูตเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเจรจาเกี่ยวกับการผ่อนคลายความตึงเครียดบริเวณชายแดนรัสเซีย-ยูเครนยังคงมีการดำเนินต่อไป โดยที่สหรัฐฯ ส่งทหารและอาวุธไปยังยุโรปตะวันออกท่ามกลางสงครามน้ำลาย
รัสเซียกับวิกฤตยูเครน
เครมลินยืนยันการเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชูลท์ซ ของเยอรมนีเพื่อพบกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน
ตามที่โฆษกเครมลิน นาย Dmitry Peskov กล่าวว่า มาครง จะพบกับปูตินในวันที่ 7 กุมภาพันธ์
เขาไม่ได้ปฏิเสธการเยือนมอสโกของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซลินสกี ประธานาธิบดียูเครน
เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำวอชิงตันยังเรียกร้องสหรัฐฯที่ พยายามกล่าวหารัสเซียว่าเตรียมทำสงครามกับยูเครนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามสื่อ
วิกฤตยุโรปและยูเครน
รองเลขาธิการนาโต้ ระบุว่า ไม่มีการพูดถึงว่ายูเครนจะเข้าร่วมสมาชิกนาโต้ และไม่มีฉันทามติในกลุ่มพันธมิตรเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ยูเครนจะเข้าร่วม
มีรายงานว่าอังกฤษและเยอรมนีตกลงที่จะส่ง “ข้อความที่สอดคล้องกัน” เกี่ยวกับยูเครนไปยังรัสเซีย
วิกฤตสหรัฐและยูเครน
กระทรวงการต่างประเทศอเมริกากล่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศแอนโธนี บลิงเคน ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับคู่หูชาวยูเครนของเขาเกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่ามีการจัดตั้งกองกำลังทหารรัสเซียอยู่ที่ชายแดนของยูเครน
บลิงเคนยังได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ในกรุงวอชิงตัน ท่ามกลางการส่งกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ไปยังโปแลนด์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้นาโต้ ในยุโรปตะวันออก
ในถ้อยแถลงที่ส่งถึงรัฐบาลรัสเซีย รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ อ้างว่ามอสโกควรยอมรับการเจรจาหรือเผชิญกับผลที่เลวร้าย ข้อมูลตำแหน่งสำหรับการเฝ้าระวังการเดินอากาศแสดงให้เห็นการมาถึงของเครื่องบินอเมริกันลำแรกที่บรรทุกทหารส่วนเกินไปยังยุโรป
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐออกมาตอบสนองต่อการประชุมระหว่างประธานาธิบดีปูตินและประธานาธิบดีจีน ซึ่งปูติน และสี จิ้นผิง กล่าวว่าประชาคมระหว่างประเทศคาดหวังให้จีนสนับสนุนรัสเซียให้แก้ไขวิกฤตการณ์ทางการทูตและลดความตึงเครียดในยูเครน
ในข่าวอื่น ๆ สื่ออเมริกัน “บลูมเบิร์ก” หลังจากการตีพิมพ์โพสต์เรื่อง “รัสเซียบุกยูเครน” ก็ได้ออกมาลบข่าวดังกล่าว และถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดพลาด
source: