กระทรวงต่างประเทศอิหร่านประณามสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์อย่างรุนแรง กรณีให้การต้อนรับนายกรัฐอิสราเอล นาฟตาลี เบ็นเน็ตต์ โดยนาย ซาอีด กาติบซาเดะห์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า
“รัฐเถื่อนอิสราเอลเป็นศัตรูหมายเลข 1 ของทั้งโลกอิสลามและโลกอาหรับ การไม่ดำเนินการใดๆ ในนโยบายการปรับความสัมพันธ์ให้เกับรัฐเถื่อนสราเอล อาจเป็นเหตุผลให้เป้าหมายของพี่น้องชาวปาเลสไตน์สูญสิ้นไป”
เบนเน็ตต์ ได้พบกับผู้ปกครองโดยพฤตินัยของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และมกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี Sheikh Mohammed bin Zayed Al Nahyan ซึ่งเบนเน็ตต์ กลายเป็นผู้ปกครองคนแรกของระบอบการปกครองเถื่อนอิสราเอลที่ไปเยือนรัฐอ่าวเปอร์เซีย
การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้น1ปีหลังจากทั้งสองฝ่ายได้มีการปรับความสัมพันธ์เป็นปกติโดยการทำหน้าที่ประสานของสหรัฐอเมริกา
“ประชาชนในภูมิภาคนี้จะไม่มีวันลืมการกระทำที่เลวร้ายและพยาบาทของระบอบการปกครองเถื่อนอิสราเอลซึ่งเป็น “ต้นเหตุ” ของปัญหาในภูมิภาค” กาติบซาเดะห์ กล่าว
การมาเยือนดังกล่าวมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากกองกำลังเถื่อนอิสราเอลยิงเยาวชนชาวปาเลสไตน์ที่ศีรษะจนเสียชีวิต ระหว่างการปะทะกันที่เมืองนาบลุส ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านยังกล่าวว่า“อาบูดาบีได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรีของระบอบการปกครองที่ผิดกฎหมาย แม้ว่าเทลอาวีฟจะมีประวัติยาวนานถึง 70 ปีในการทำหน้าที่เป็นแหล่งที่มาของความไม่มั่นคง ความตึงเครียด และความกระหายสงครามในประเทศอาหรับและประเทศมุสลิม”
ทั้งนี้ ขบวนการต่อสู้เพื่อปาเลสไตน์หลายกลุ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรุนแรงต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ดังกล่าวของสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์เช่นกัน โดยขบวนการอิสลามิฮาดที่มีฐานในฉนวนกาซา พิจารณาว่า ประเทศมุสลิมใด กระทำการที่ทำให้ความสัมพันธ์กับระบอบเทลอาวีฟกลายเป็นปกติ เท่ากับพวกเขาทรยศต่อพี่น้องปาเลสไตน์”
source: