เหตุการณ์เสทือนใจที่ทหารอิสราเอลได้เข้าไปปราบปรามสลายการชุมนุมชาวปาเลสไตน์ในบริเวณมัสยิดอัล-อักซอ โดยการยิงกระสุนและปาระเบิดจนทำให้ชาวปาเลสไตน์ ซึ่งกำลังรวมตัวกันปฏิบัติศาสนกิจช่วงท้ายของเดือนรอมฏอน ได้รับบาดเจ็บกันเป็นจำนวนมากนับเกือบ 200 คน
กองกำลังอิสราเอลได้บุกโจมตีมัสยิดอักศอ สถานที่สำคัญลำดับ 3 ของโลกอิสลาม อิสราเอลยิงกระสุนและปาระเบิดเข้าไปในมัสยิดและไล่ต้อนผู้คนออก ทำให้การละหมาดทั้งหมดเมื่อคืน ถูกยุติ
ชาวปาเลสไตน์และมุสลิมที่กำลังละหมาดบาดเจ็บจากการสลายการปฏิบัติศาสนศนกิจ (ละหมาด) เป็นจำนวนมาก หลายคนโดนทางการอิสราเอลจับกุม
การรวมตัวของชาวปาเลสไตน์จำนวนมากในค่ำคืนที่ผ่านมามิได้มีเป้าประสงค์ที่จะปฏิบัติศาสนกิจเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการรวมตัวกันประท้วงกระบวนการทางศาลของอิสราเอลที่กำลังจะตัดสินให้บ้านเรือนของชาวปาเลสไตน์บางส่วนใน เชค ญัรเราะฮ์ (Sheikh Jarrah) กลายเป็นสิทธิของผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศาลในกรุงเยรูซาเล็มก็มีคำสั่งให้ครอบครัวชาวปาเลสไตน์ 6 ครอบครัว ย้ายออกจากบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่มาเกือบ 70 ปี เพื่อหลีกทางให้กับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวยิว
ที่ผ่านมาชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนที่อาศัยอยู่ใน เชค ญัรเราะฮ์ ต้องเผชิญกับกระบวนการทางศาลอย่างนี้มาหลายครั้งแล้ว ทำให้ตั้งแต่ต้นปี 2020 มีชาวปาเลสไตน์ประมาณ 36 ครอบครัว ถูกขับออกจากบ้านที่อยู่อาศัยของพวกเขา กลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยถึง 165 คน
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ Peace Now องค์กรที่เคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพ ออกมาอธิบายว่า สิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องกฎหมาย แต่เป็นเรื่องการเมือง ศาลเป็นเพียงเครื่องมือที่ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลใช้ โดยได้รับความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดจากหน่วยงานของรัฐในการกระทำความผิด โดยมีเป้าหมายเพื่อแทนที่ชุมชนทั้งหมด ด้วยการตั้งถิ่นฐานของผู้ยึดครอง
อิสราเอลต้องการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกไปจากเยรูซาเล็มตะวันออกทั้งหมด โดยใช้กระบวนการทางศาล เพื่อให้เยรูซาเล็มตะวันออกมีแต่ชาวยิวเท่านั้นที่จะเป็นเจ้าของ
source: https://www.aljazeera.com