หลังจากที่อิสราเอลบุกโจมตีระลอกใหม่ในตำแหน่งของกองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากกรุงเตหะรานในซีเรีย และเน้นย้ำว่า อิสราเอลจะยังคงดำเนินการโจมตีดังกล่าวต่อไปจนกว่ากองกำลังอิหร่านทั้งหมดจะถูกขับไล่ออกไปจากซีเรีย
นาย เบน เน็ตต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล เตือนอิหร่านเมื่อคืนวันอังคาร (5 เมษายน )ว่า เราจะเปลี่ยนเขตแดนซีเรียให้เป็น “เวียดนาม”สำหรับอิหร่าน หลังจากการโจมตีครั้งล่าสุดในดินแดนซีเรีย
อย่างไรก็ตาม นาย เบน เน็ตต์ ปราศจากการแสดงความคิดเห็นใดๆในการโจมตีทางอากาศในคืนวันจันทร์ โดยที่สื่อของทางการของซีเรียและองค์กรสิทธิมนุษยชนตระหนักถึงเหตุการณ์ในซีเรียว่าเป็นฝีมือกองทัพอากาศอิสราเอล ซึ่งเขากล่าวว่า: “อิหร่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับซีเรียและเราจะดำเนินการต่อไปจนกว่าพวกเขาจะออกไปจากซีเรีย”
รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอลกล่าวก่อนหน้านี้ว่า กองกำลังที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่านในซีเรีย จะต้องได้รับการตอบโต้ที่หนักหน่วงและรุนแรงจากเทลอาวีฟอย่างแน่นอน
กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งเป็นองค์กรเอกชนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบสถานการณ์ในประเทศ ซึ่งเข้าถึงทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างกว้างขวาง สังเกตถึงบทบาท ในความ “เป็นไปได้” ของอิสราเอลที่จะเพิ่มความรุนแรงการโจมตีทางอากาศจากดินแดนอิสราเอล ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายนเป็นต้นมา ว่าในการโจมตีลักษณะนี้ต่อตำแหน่งทหารอิหร่านและกองกำลังติดอาวุธที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนได้รับการกำหนดเป้าหมายโดยเครื่องบินรบอิสราเอลมาแล้วอย่างน้อย 6 ครั้ง
อิหร่านและฮิซบุลเลาะห์ทั้งคู่เป็นศัตรูและปรปักษ์กับอิสราเอลในภูมิภาค นับตั้งแต่เริ่มต้นของความขัดแย้งซีเรีย อิหร่านและฮิซบุลเลาะห์เสมือนปีกหนึ่งของซีเรียได้ช่วยเหลือรัฐบาลบาชาร์ อัลอัสซาดในการต่อสู้กับผู้ก่อความไม่สงบและกองกำลังไอซิสตักฟีรีย์
นาย เบน เน็ตต์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอลยังเตือนถึงการมีอยู่ของทหารอิหร่านในดินแดนซีเรียว่า “ อิหร่านเข้ามาในประเทศในช่วงสงครามต่อเนื่องในซีเรีย และตอนนี้พวกเขาตั้งใจที่จะคุกคามเมืองต่างๆเช่นเทลอาวีฟ, เยรูซาเล็มและไฮฟา โดยจัดตั้งกองกำลังตัวเองในพื้นที่ตามแนวชายแดนของซีเรียกับอิสราเอล”
source: per.euronews