ปูติน เยือนซาอุฯ กระชับความสัมพันธ์

193
เมื่อวันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พศ 2562 ที่ผ่านมาประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ปูติน เดินทางไปประเทศซาอุดิอาราเบีย และได้พบปะกับกษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลลาซิซ อัล ซาอุด ในพระราชวังอัลยามามะห์ ประจำกรุงริยาฎ หลังจากที่ไม่ได้มาเยือนซาอุฯเ ป็นเวลานานถึง 12 ปี ทั้งสองประเทศเจรจากันเรื่องการลงนามข้อตกลงด้านพลังงาน ภัยคุกคามก่อการร้าย รวมไปถึงการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดิอาระเบียกับรัสเซีย 
1.ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย -ซาอุ และรัสเซีย-อิหร่าน
การสร้างความสัมพันธ์ของรัสเซียต่อประเทศอื่นมีลักษณะที่แตกต่างจากสหรัฐฯ ในเรื่องของการวางตัว จะเห็นว่าในขณะที่รัสเซียมีสัมพันธไมตรีที่ดีต่ออิหร่าน ในด้านหนึ่งพวกเขาก็มีความสัมพันธ์กับซาอุดิอาระเบียและอิสราเอล หรือ แม้แต่ตุรกี กับ ซีเรีย แนวทางการฑูตของรัสเซีย จึงมีลักษณะคล้ายประโยชน์นิยมของตนเอง ในขณะที่ทรัมป์ทำไม่ได้แบบนั้น ตัวอย่างจากการหารือร่วมกันระหว่างปูติน ฮัสซันรูฮานี และ เออร์โดกาน  ปูติน ยกองค์การอัลกุรอานที่บอกว่ามุสลิมเป็นพี่น้องกัน เมื่อมีข้อพิพาทก็ต้องตัดสินกันแบบพี่น้อง ในขณะที่ทรัมป์จะเล่นบทการฑูตแบบแบ่งดำแบ่งขาว  ใครไม่ใช่พวกเราเขาเป็นผู้ก่อการร้าย จึงทำให้หลายประเทศในตะวันออกกลางพร้อมที่จะเจรจาหารือร่วมกับรัสเซียมากกว่าสหรัฐ
และการที่รัสเซียมาเยือนซาอุดิอาระเบียในครั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเตหะรานจะต้องตัดความสัมพันธ์กับรัสเซีย ถึงแม้ว่ามุมมองทางด้านการเมืองในภูมิภาคตะวันออกกลางของรัสเซียอาจจะต่างกับประเทศอื่นๆ เช่นตุรกี หรือซาอุดิอาระเบียก็ตาม แต่มันเป็นความต่างแบบมีกาละเทศะ
2.เป้าหมายปูติน 
หลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย ประเทศนี้ ไม่มีโอกาสขยายอิทธิพลของประเทศตนในภูมิภาคตะวันออกกลาง แม้ว่า project ดังกล่าวจะคุยกันตั้งแต่สมัยสหภาพยังไม่ล่มแล้ว แต่ที่มาทำได้สำเร็จจริงคือในยุคของวลาดิเมียร์ปูติน
เป้าหมายหลักของปูติน คือการขยายอิทธิพลของรัสเซียในภูมิภาคตะวันออกกลางและอ่าวเปอร์เซีย การขายระบบขีปนาวุธให้ตุรกี และการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้อิรัก หลังการมาเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงการทำข้อตกลงพลังงาน ย่อมเป็นข้อเท็จจริงที่ดีที่กำลังบอกเราว่ารัสเซียกำลังขยับไปสู่การขยายอำนาจที่มากขึ้น
3.รัสเซียกับสหรัฐคู่แข่งในตลาดพลังงาน 
แน่นอนว่ารัสเซียมีเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการส่งเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์และอาวุธยุทโธปกรณ์ในทางทหาร แต่ในซาอุฯ มอสโกยังถือว่ายังไม่ใช่คู่แข่งของสหรัฐที่จะเข้ามาจดทะเบียนเปิดกิจค้าขายทางการทหารกับซาอุดิอาระเบีย เพราะสหรัฐได้ทำการค้ากับซาอุในปริมาณมหาศาลก่อนหน้านี้ไปแล้ว ในปีล่าสุดตัวเลขการค้าอาวุธให้ซาอุดิอาระเบีย ถูกบันทึกไว้เป็นจำนวนเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นเพื่อแข่งขันในตลาดจึงไม่แปลก ถ้าจะเห็นรัสเซียพยายามเสนอโครงการหรือข้อตกลงในการขายพลังงานนิวเคลียร์,ระบบป้องกันขีปนาวุธให้กับซาอุดิอาระเบีย
อย่างไรก็ตาม ตลาดพลังงาน ถือเป็นตลาดที่น่าจับตามองอยู่เสมอ เพราะมันเป็นตลาดที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะสิทธิและความชอบธรรมในการซื้อขายจะเกี่ยวข้องกับมุมมองของประชาคมโลกต่อประเทศนั้นๆ
source: