สหรัฐฯ ไม่ต้องการน้ำมันและก๊าซจากตะวันออกกลาง จริงหรือ ?

258

ทรัมป์ ทวีต ว่า เราไม่ได้ต้องการน้ำมันและก๊าซจากตะวันออกกลาง และในความเป็นจริงที่นั่นมีแทงค์เก็บน้ำมันน้อยมาก แต่เรายินดีจะช่วยพันธมิตรของเรา!!!   

การโจมตีโรงงานน้ำมันของซาอุดิอาระเบียเมื่อสองวันก่อนทำให้เกิดความผันผวนอย่างรุนแรงในตลาดการเงินระหว่างประเทศในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ (วันจันทร์ที่ 16กันยายน)

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ปฏิกิริยาของโดนัลด์ ทรัมป์  ต่อสถานการณ์เหล่านี้

ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ทวีต ว่า  “เราเป็นผู้ส่งออกน้ำมันสุทธิและขณะนี้เราเป็นผู้ผลิตน้ำมันเบอร์หนึ่งของโลก   เราไม่ได้ต้องการน้ำมันและก๊าซจากตะวันออกกลาง และในความเป็นจริงที่นั่นมีแทงค์เก็บน้ำมันน้อยมาก แต่เรายินดีจะช่วยพันธมิตรของเรา ! “

คำถามคือ….  อเมริกาไม่ต้องการน้ำมันจากตะวันออกกลางจริงหรือ !

สหรัฐฯนำเข้าน้ำมันดิบครึ่งหนึ่งจากซาอุดิอาระเบีย จะต้องเผชิญกับการปรับตัวสูงขึ้นของราคาก๊าซเนื่องจากการหยุดชะงักของการผลิตน้ำมันในซาอุดิอาระเบียในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งประเด็นนี้มีผลกระทบโดยตรงต่อการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกาและอาจเป็นข่าวร้ายสำหรับทรัมป์ 

ในวันนี้ราคาน้ำมันเบนซินได้เพิ่มขึ้นแล้วในบางส่วนของสหรัฐอเมริกา และได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา  ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยในสหรัฐอเมริกาในขณะนี้อยู่ที่ 2 ดอลลาร์ และ 57 เซนต์ต่อแกลลอน (ประมาณ 3.8 ลิตร)  

ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าชาวแคลิฟอร์เนียในตะวันตกของสหรัฐฯจะเผชิญกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะแคลิฟอร์เนียขึ้นอยู่กับการนำเข้าจากซาอุดิอาระเบียเป็นอย่างมากและเนื่องจากอยู่ห่างจากแหล่งน้ำมันเช่นเท็กซัสและไม่มีท่อส่งน้ำมัน  

ตามรายงาน ยูโรนิวส์ :  ซาอุดิอาระเบียส่งออกน้ำมันดิบมากกว่า 7  ล้านบาร์เรลต่อวันไปยังสหรัฐอเมริกาซึ่งมีอัตรามากกว่าการส่งออกไปยังทวีปเอเชียทั้งหมด   ประมาณ 47 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกน้ำมันทั้งหมดของซาอุดีอาระเบียไปยังสหรัฐอเมริกาส่งตรงจากฝั่งตะวันตกของประเทศ

นอกเหนือจากราคาเบนซินแล้ว ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯซึ่งเป็นราคาที่กำหนดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเอเชียตะวันตก

น้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 20%  เป็น71ดอลลาร์และ95เซนต์ ในการซื้อขายช่วงต้นวันนี้

สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า  นี่เป็นราคาน้ำมันที่สูงที่สุดในรอบห้าปี นับจากปี 1991 

ราคาใน West Texas Intermediate เพิ่มขึ้นร้อยละ 15/50  ต่อบาร์เรล ทำให้ราคาสูงถึง 63 ดอลลาร์และ 34 เซนต์ต่อบาร์เรล ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา 

สถานการณ์เหล่านี้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดสหรัฐเกือบ 11 %

เอเอพพี ยังรายงานถึงการอ่อนค่าของหุ้นของสายการบินและ บริษัทการเดินเรือในสหรัฐท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากการโจมตีโรงงานผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย

อย่างไรก็ตามจากการที่ได้อธิบายไปข้างต้น สามารถสรุปได้สหรัฐอเมริกาก็ยังคงต้องการน้ำมันจากตะวันออกกลางอยู่ดี  ด้วยปริมาณสำรองที่มีอยู่เพียงแค่รองรับเชื้อเพลิงที่ต้องการในระยะสั้นเท่านั้น แต่เป็นที่ชัดเจนเลยว่าราคาที่สูงขึ้นนั้นจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจของมัน

ดังนั้น การทวีตครั้งนี้ของทรัมป์ดูเหมือนจะเป็นเกมส์ทางจิตวิทยามากกว่า เพื่อที่จะได้รีดเงินจำนวนมากขึ้นจากบรรดาผู้ปกครองชาติอาหรับโดยเฉพาะอย่างยิ่งซาอุดิอาระเบีย

กระนั้นก็ตาม ประธานาธิบดีสหรัฐเล็งถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งหน้าและการทวีตครั้งนี้ก็เพื่อพยายามลดผลกระทบด้านลบต่อประชาชนจากผลพวงของราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

source: www.jamnews.com

https://thehill.com