ซีเรียและพันธมิตรกำลังตระเตรียมขีปนาวุธของพวกเขา สำหรับการสู้รบกับอิสราเอลในอนาคต หากเทลอาวีฟตัดสินใจเปิดฉากสงครามเพื่อต่อต้านฐานทางทหารที่สำคัญภายใต้การควบคุมของกองทัพซีเรีย รัสเซียอินไซเดอร์รายงาน
อไลจาห์ เจ. แมกเนียร์ (Elijah J. Magnier) นักวิเคราะห์ความเสี่ยงทางการเมืองและนักข่าวสงคราม รายงานอ้างแหล่งข่าวที่เขาบอกว่า “ชั้นยอด” โดยไม่ระบุชื่อ บอกว่า “ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับทิศทางการเลือกตั้งของอิสราเอลที่จะเกิดขึ้น หากนายกรัฐมนตรีเบ็นจามิน เนทันยาฮู ประเมินว่า โอกาสของเขานั้นสูงพอที่จะชนะในระยะที่สอง เขาคงจะไม่เสี่ยงใดๆ ที่จะเผชิญหน้าครั้งใหม่กับซีเรียและพันธมิตรในเร็วๆ นี้ วันแห่งการสู้รบครั้งต่อไปก็จะถูกเลื่อนออกไป”
“แต่ถ้าเขาเชื่อว่า เขาจะแพ้การเลือกตั้ง ความเป็นไปได้ของการเปิดฉากสู้รบจะสูงมาก ในด้านหนึ่งคือการต่อสู้อย่างรุนแรง และในด้านหนึ่งคือการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับซีเรียและอิหร่าน ก็เพียงพอที่จะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป”
“เนทันยาฮูไม่มีทางเลือกมากมาย : เขาต้องชนะการเลือกตั้งและเลื่อนการพิจารณาคดีคอร์รัปชั่นที่เขาถูกฟ้องออกไป หรือไม่เขาก็จะต้องไปเข้าคุก”
กองบัญชาการสหรัฐภาคพื้นยุโรป (US European Command – EUCOM) เพิ่งส่งเครื่องบินทหารพร้อมด้วยทหารสหรัฐ 200 นาย นำระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAADanti ballistic เพื่อนำไปใช้ในภาคใต้ของอิสราเอล เหตุผลอย่างเป็นทางการสำหรับการติดตั้งระบบที่ทันสมัยและซับซ้อนนี้กล่าวกันว่า เป็นการเตรียมการสำหรับการฝึกซ้อมร่วมระหว่างอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา THAAD จะช่วยยกระดับระบบป้องกันและสกัดกั้นขีปนาวุธของอิสราเอลที่มีอยู่แล้ว ซึ่งคือ ไอรอนโดม (Iron Dome) สำหรับพิสัยใกล้, “David Sling” สำหรับขีปนาวุธทิ้งตัวทางยุทธวิธี และ “The Arrow” สำหรับขีปนาวุธข้ามทวีป
“สหรัฐฯ ไม่เชื่อถือระบบของอิสราเอล ดังนั้นระบบ THAAD จึงถูกนำไปติดตั้งเพื่อติดตามขีปนาวุธใดๆ ที่กองกำลังซีเรียหรืออิหร่านยิงออกมาจากในซีเรียตามที่พวกเขาสัญญาไว้ในกรณีเกิดการสู้รบที่ถูกกระตุ้นและยั่วยุโดยเนทันยาฮู ทั้งซีเรียและอิหร่านให้คำมั่นว่าจะตอบโต้ทันทีหากอิสราเอลทิ้งระเบิดโจมตีตำแหน่งทางการทหารที่สำคัญในประเทศเหล่านั้น นี่คือเหตุผลที่สหรัฐอเมริกาตัดสินใจเข้าร่วมในการเผชิญหน้าครั้งนี้ และเชื่อได้ว่าการต่อสู้ใดๆ ในอนาคตจะเป็นการทำลายล้างสำหรับทุกฝ่าย”
ประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด เยือนกรุงเตหะรานเป็นสัญญาณชัดเจนต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในสงครามซีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาว่า ดามัสกัสจะไม่ขอให้อิหร่านถอนตัวจากซีเรียเพื่อทำให้บุคคลที่สามพอใจหรือเพื่อแลกเปลี่ยนกับการฟื้นความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างอาหรับและซีเรีย หรือระหว่างตะวันตกและซีเรีย
“การเยือนอิหร่านของประธานาธิบดีซีเรีย ช่วยให้ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียสามารถชี้แจงแก่เนทันยาฮูที่เดินทางไปเยือนเขาได้ว่า มอสโกไม่สามารถช่วยอิสราเอลในการขอให้อิหร่านออกจากซีเรียได้ ความสัมพันธ์ระหว่างซีเรียและอิหร่านมีความแข็งแกร่ง และรัสเซียก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศได้” แหล่งข่าวกล่าว