หนึ่งปีหลังจากการตัดสินใจของประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ประกาศยอมรับเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ซึ่งเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์บางคนได้กล่าวในโอกาสนี้ว่าการกระทำดังกล่าวจะไม่สามารถเปลี่ยนความเป็นจริงของเยรูซาเล็มได้
ปีที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ประธานาธิบดี Donald Tramp ได้ประกาศการตัดสินใจอันชั่วช้าของเขาในการประกาศกรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลและได้ย้ายสถานทูตจากกรุงเทลอาวีฟไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
การตัดสินใจของทรัมป์ในครั้งนี้เพื่อเป็นการดำเนินการตามแผนที่เรียกว่า “ธุรกรรมแห่งศตวรรษ” ซึ่งเป็นแผนที่ซาอุดิอาระเบียและบางชาติอ่าวอาหรับมีส่วนร่วมด้วย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยุติขบวนการต่อสู้ของปาเลสไตน์ในการเผชิญหน้ากับผู้ยึดครองและให้ชาวปาเลสไตน์ร่นถอยจากดินแดนที่เหลือไม่ว่าจะถูกคุกคามหรือสมัครใจก็ตามซึ่งตอนนี้กรุงริยาดกำลังส่งเสริมการดำเนินการและพยายามที่จะกำหนดให้กับชาวปาเลสไตน์
สหรัฐอเมริกาประกาศการตัดสินใจครั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนระบอบยิวไซอนิสต์อย่างเต็มที่ซึ่งวอชิงตันมีความพยายามที่จะดำเนินการแผนอันชั่วร้ายนี้มานานกว่า 20 ปี ในปี 1995 สภาคองเกรสอนุมัติกฎหมายการยอมรับเยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงของระบอบยิวไซออนิสต์และการย้ายสถานทูตสหรัฐฯไปยังเยรูซาเล็มแต่ไม่มีรัฐบาลใดของสหรัฐฯก่อนหน้านี้พร้อมที่จะดำเนินการดังกล่าว
นายมุสตาฟา บาร์โกคิส เลขาธิการแห่งการริเริ่มปาเลสไตน์แห่งชาติกล่าวกับสำนักข่าว Sanaa ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนความเป็นจริงของเยรูซาเล็มได้ วอชิงตันพยายามผลักดันให้หลายประเทศย้ายสถานทูตของตนไปยังเยรูซาเล็มแต่ล้มเหลว และในบรรดา193 ประเทศ มีเพียงสองประเทศคือกัวเตมาลาและปารากวัยที่เห็นด้วยกับแผนการของทรัมป์
มุสตาฟา บาร์โกคิส กล่าวย้ำว่าอเมริกาถูกโดดเดี่ยวเพราะนโยบายโดยรวมในภูมิภาคโดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบการปฏิสัมพันธ์กับประเด็นปาเลสไตน์ และชาวปาเลสไตน์ด้วยการเสียสละและการยืนหยัดต่อสู้อันยั่งยืนจะทำให้แผน “ธุรกรรมแห่งศตวรรษ” พบกับความล้มเหลว
ISAM Abudoghah สมาชิกคณะกรรมการกลางของแนวร่วมประชาธิปไตยเพื่อปลดปล่อยปาเลสไตน์ยังเน้นย้ำว่า การยืนหยัดและการประท้วงของชาวปาเลสไตน์ในการปฏิเสธการตัดสินใจของสหรัฐฯ ทำให้แผนการของวอชิงตันเพื่อขจัดปัญหาปาเลสไตน์พบกับความล้มเหลว ชาวปาเลสไตน์จะไม่มีวันยอมสูญเสียสิทธิของตนเป็นอันขาด
เขากล่าวเสริมว่า วอชิงตันกดดันให้ประเทศต่างๆทั่วโลกเกี่ยวกับประเด็นปาเลสไตน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำลายกรุงเยรูซาเล็ม แต่ล้มเหลว
Talat Safadi สมาชิกพรรคการเมืองของพรรคประชาชนปาเลสไตน์ (PKK) กล่าวว่าการทูตปาเลสไตน์ประสบความสำเร็จในการยับยั้งท่าทีของอเมริกา ท่าทีที่เป็นการละเมิดสิทธิอันขอบธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศและการละเมิดสิทธิของชาวปาเลสไตน์อย่างชัดเจน
และเขาเน้นย้ำว่าการเสียสละและการยืนหยัดต่อสู้ของชาวปาเลสไตน์เป็นเหมือนการตบหน้ารัฐบาลสหรัฐฯและระบอบปกครองยิวไซออนิสต์
14 พฤษภาคม 2018 มีพิธีย้ายสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯจากเทลอาวีฟไปยังเยรูซาเล็ม ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาและฝั่งตะวันตกออกมาเดินประท้วงจำนวนมาก ผู้ชุมนุมประท้วงกว่า 60 คนได้เสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 2,800 คน
สถานที่ตั้งของสถานทูตสหรัฐฯในกรุงเยรูซาเล็มเรียกว่า “Tramp Neighborhood” ตั้งอยู่ในพื้นที่ Arnona ในฝั่งตะวันตก