กลุ่มพันธมิตรซาอุดิอาระเบียได้เปิดตัวสงครามที่โหดร้ายกับชาวเยเมนตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 2015
ทางตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา มีส่วนสำคัญในการทำสงคราม ด้วยการให้การสนับสนุนด้านลอจิสติกส์ ข้อมูล และการสนับสนุนด้านการทหารในทุกรูปแบบแก่ซาอุฯและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
เครื่องบินของสหรัฐฯในช่วงสงครามระหว่างซาอุดิอาระเบียกับเยเมน ภายใต้เงื่อนไขที่จำเป็น ได้ทำการเติมน้ำมันให้กับเครื่องบินรบของซาอุดิอาระเบีย และยูเออี อีกทั้งให้การช่วยเหลือด้านข้อมูล และการข่าวให้กับพันธมิตรซาอุฯ
ทว่าภายใต้บัญชีดำนี้ อเมริกายังคงแอบอ้างตนเป็นผู้สนับสนุนและปกป้องสิทธิมนุษยชน ในขณะที่พวกเขากลับไม่เคยแยแสใดๆเลยกับการก่ออาชญากรรมของซาอุดิอาระเบีย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทิ้งระเบิด และการเข่นฆ่าผู้หญิงและเด็กๆชาวเยเมน และในวันนี้ ความเป็นจริงต่างๆก็ได้ประจักษ์ชัด ด้วยถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (James Mathis) เจมส์ แมทิส ที่ได้กล่าวว่า วอชิงตันไม่ได้เป็นเพียงผู้สนับสนุนพันธมิตรซาอุดีอาระเบียเท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมโดยตรงในปฏิบัติการทิ้งระเบิดและโจมตีเยเมน
ในเรื่องนี้ James Mathis ได้ออกมายอมรับเป็นครั้งแรกถึงการปรากฏตัวของนักบินชาวอเมริกัน ในการทิ้งระเบิดทางอากาศในเมืองต่างๆของเยเมน และนี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่อเมริกันยอมรับการมีส่วนร่วมของนักบินอเมริกันในการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมนี้
ขณะเดียวกัน James Mathis ก็เน้นย้ำถึงการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของประเทศของเขาต่อพันธมิตรผู้รุกรานเยเมน James Mathis ในแถลงข่าว ในอาคารของกระทรวงกลาโหม “เพนตากอน” กล่าวว่า “เรามีนักบินอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งเราได้ตระหนักถึงอันตรายของภารกิจ และเรามีอำนาจในการตัดสินที่จะไม่เข้าร่วมแต่เราเลือกที่จะปฏิบัติภารกิจเหล่านี้”
James Mathis ยังชี้ถึงบทบาทของนักบินอเมริกันในการนำเครื่องบินเชื้อเพลิงเต็มน้ำมันให้กับเครื่องบินของซาอุดิอาระเบียและเอมิเรตสต์ ซึ่งถือได้ว่า เป็นการมีส่วนร่วมโดยตรงในการทิ้งระเบิดในเยเมน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองอัล – ฮาดีดาห์
ในขณะเดียวกัน James Mathis อ้างว่า การช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯกับพันธมิตรซาอุดิอาระเบียในสงครามเยเมนนั้นไม่มีเงื่อนไขและข้อผูกมัดใดๆทั้งสิ้น
คำถามในที่นี้คือ ซาอุดิอาระเบียและคู่เจรจาของพวกเขาจะดำเนินการก่ออาชญากรรมอีกมากเท่าไหร่ ชาวเยเมนต้องเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บอีกเท่าใด ที่จะทำให้วอชิงตันทบทวนและพิจารณานโยบายการสนับสนุนของตน? ซึ่งมันตรงกันข้ามกับสิ่งที่แอบอ้างโดยกระทรวงกลาโหม โดยมีหลักฐานแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของการมีส่วนร่วมโดยตรงของอเมริกาในการฆ่าผู้บริสุทธิ์ในเยเมนอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ การเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินอเมริกา ให้กับเครื่องบินรบซาอุดิอาระเบีย ในน่านฟ้า al-Hadidah ทางชายฝั่งตะวันตกของเยเมน ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่า เครื่องบินรบดังกล่าวได้ทิ้งระเบิดเมืองอัล – ฮาดีดาห์หลังจากเติมน้ำมัน
เหตุการณ์เป็นสิ่งที่ยืนยันในความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของวอชิงตันกับระบอบซาอุดีอาระเบียในการเข่นฆ่าชาวเยเมน จะอย่างไรก็ตาม การก่ออาชญากรรมของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียต่อประเทศเยเมนนั้นก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
อาชญากรรมที่สะเทือนขวัญล่าสุดเกิดขึ้นในพื้นที่ al-Daraemi ของจังหวัด al-Hadidah ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหลายสิบคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก อาชญากรรมที่เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2018 ทำให้เด็กเยเมนในพื้นที่ดังกล่าว ถูกฆ่าตายจำนวน 22 คน
Mark Leukook รองเลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายสิทธิมนุษยชน ได้กล่าวประณามการสังหารเด็กในการทิ้งระเบิดของเครื่องบินรบซาอุดีอาระเบียอย่างรุนแรง และระบุไว้ในแถลงการณ์ว่า “นี่เป็นครั้งที่สองในรอบสองสัปดาห์ที่พันธมิตรซาอุดีอาระเบียกำลังก่ออาชญากรรมซึ่งมีพลเรือนเสียชีวิตนับสิบราย ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯมีบทบาทสำคัญในการดำเนินสงครามที่ไร้มนุษยธรรมของซาอุฯ ต่อเยเมน”
สหรัฐอเมริกา ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้ค้าอาวุธที่สำคัญที่สุดให้กับซาอุดีอาระเบีย และให้การสนับสนุนด้านลอจิสติกส์ของกระทรวงกลาโหม ต่อกองทัพอากาศซาอุดีอาระเบียอย่างต่อเนื่อง และด้วยการส่งระเบิดและขีปนาวุธชนิดต่างๆเหล่านี้ ทำให้พันธมิตรซาอุฯไม่ลังเลที่จะดำเนินการทิ้งระเบิดโจมตีเยเมนอย่างป่าเถื่อนต่อไป
Source: parstoday