บทความ: ฉนวนกาซ่า “สถานคุมขังเดี่ยว” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

313

หนังสือพิมพ์อิสราเอลฮาเร็ตซ์( Haaretz) ถือว่าการกำหนดข้อจำกัดใหม่ต่อฉนวนกาซ่าเป็นสิ่งที่โหดร้าย และอธิบายว่า: การกระทำครั้งล่าสุดของอิสราเอลกับฉนวนกาซ่า ได้ทำให้สถานที่กังกล่าวกลายเป็น “สถานคุมขังเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก”

ระบอบการปกครองอิสราเอล หรือ ยิวไซออนิสต์ภายใต้กรอบการกดดันที่รุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์ โดยเฉพาะชาวฉนวนกาซ่า  ได้ทำการปิดชายแดน Kerem Abosalem ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าเพียงแห่งเดียวของฉนวนกาซ่า และได้กำหนดข้อจำกัด การนำเข้าสินค้าในพื้นที่ดังกล่าว 

หนังสือพิมพ์อิสราเอล Haaretz เขียนในบทบรรณาธิการว่า การกระทำนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของอิสราเอล และความล้มเหลวในการกระทำความรุนแรงของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์

ระบอบการปกครองอิสราเอล เพิ่มความรุนแรงในการบุกโจมตีและปิดล้อมฉนวนกาซ่า ตั้งแต่ปี 2007   และได้สกัดกั้นไม่ให้อุปกรณ์และสินค้าเชื้อเพลิง รวมถึงวัสดุสินค้าพื้นฐาน ที่สำคัญเข้าถึงเขตพื้นที่ ที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างแน่นหนา ก่อให้เกิดสถานการณ์ความหายนะในฉนวนกาซ่า นำไปสู่มหันต์ภัยด้านมนุษยธรรม

อิสราเอลกำลังผลักดันให้ชาวปาเลสไตน์ยอมรับและยอมจำนนต่อนโยบายการขยายตัวและการล่าอานานิคมของตน พร้อมกับให้ประชาคมระหว่างประเทศยอมรับนโยบายดังกล่าว ทว่าการตอบสนองของประชาคมระหว่างประเทศในการสนับสนุนประชาชนในกาซา และการสังเกตการณ์ถึงผลกระทบร้ายแรง ที่มาจากการกระทำของอิสราเอลในฉนวนกาซานั้น ได้แสดงให้เห็นถึงความอ่อนไหวของประชาคมระหว่างประเทศต่อสถานการณ์ของชาวปาเลสไตน์

โลก เรียกร้องให้ยุติอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับฉนวนกาซ่า แต่ระบอบอิสราเอล ยังคงยืนกรานที่จะดำรงความอยุติธรรมนี้ ภายใต้การสนับสนุนของสหรัฐฯ ในสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้อาชญากรรมของอิสราเอลในฉนวนกาซ่ามีมิติกว้างขึ้น    กระนั้นก็ตาม แม้ว่าระบอบยิวไซออนิสต์ถูกบังคับให้ต้องร่นถอยออกจากฉนวนกาซาเนื่องจากความพ่ายแพ้ต่อกองกำลังมุกอวิมัต (ต้านทาน)ของชาวปาเลสไตน์ในปี 2005  แต่ก็ยังมีการเพิ่มแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชาวปาเลสไตน์ยอมจำนนและหวนกลับยึดครองกาซ่าอีกครั้ง

โดยหลังจากการร่นถอยของระบอบยิวไซออนิสต์จากฉนวนกาซ่า ไม่เพียงแต่นโยบายที่ไม่เป็นมิตรของรัฐบาลยิวไซออนิสต์ซึ่งมุ่งเป้าไปที่ชาวกาซ่าจะไม่ลดลงเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขากลับเพิ่มมาตรการที่ไร้มนุษยธรรมกับชาวเมืองในภูมิภาคนี้ เช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของดินแดนปาเลสไตน์ ซึ่งได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วและในเวลาเดียวกันอย่างรุนแรงมากขึ้น

ผลของการกระทำของอิสราเอลในการปิดล้อมดินแดนปาเลสไตน์ ทำให้พื้นที่เหล่านี้กลายเป็นสถานคุมขังนักโทษที่ใหญ่ที่สุดสำหรับชาวปาเลสไตน์  ในขณะที่สถานการณ์ในบางพื้นที่ของปาเลสไตน์กลับทวีความเลวร้ายยิ่งขึ้น และส่วนนี้ของดินแดนปาเลสไตน์เป็นเสมือนสถานที่คุมขังเดี่ยว “ที่ใช้ในการกดดัน”

ระบอบอิสราเอล กำลังจะดำเนินการตามนโยบายการกดขี่และอยุติธรรมในการปิดล้อมกาซ่าอย่างต่อเนื่อง แต่การตอบสนองของประชาคมจากทั่วโลกต่อการสนับสนุนผู้อยู่อาศัยในกาซ่าและการสังเกตการณ์ผลกระทบที่ร้ายแรงของอิสราเอลในฉนวนกาซ่า  ซึ่งความคิดเห็นของสาธารณชนแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของอิสราเอลในการบรรลุเป้าหมายการบิดเบือนความคิดเห็นของสาธารณชนเรื่องอาชญากรรมในปาเลสไตน์

หนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียนของอังกฤษระบุว่า: ฉนวนกาซ่าเป็นคุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการสนับสนุนของชาติตะวันตกที่มีต่ออิสราเอล

Mick Nepire นักกิจกรรมชาวสก็อตแลนด์ ยังเน้นย้ำอีกว่า: การปิดล้อมฉนวนกาซ่าโดยระบอบปกครองยิวไซออนิสต์เป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ  และกล่าวเสริมว่า “ฉนวนกาซ่าเป็นคุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก”

ความล้มเหลวของระบอบยิวไซออนิสม์สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน แม้แต่สื่อบางส่วนของระบอบการปกครองยิวไซออนิสต์ได้รายงานและยอมรับเรื่องการก่ออาชญากรรมบางอย่างของอิสราเอล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าขอบเขตของการวิพากษ์วิจารณ์และความรังเกียจในนโยบายของยิวไซออนิสม์ได้เข้าสู่วงในของระบอบการปกครองยิวไซออนิสต์แล้ว

http://parstoday.com