Jerusalem Post รายงาน: ความพ่ายแพ้ของกลุ่มกบฏและการล่มสลายของกูต้าตะวันออก เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลและสหรัฐอเมริกา และทั้งสองจะต้องเข้าแทรกแซงโดยเร็วที่สุด
จากการพิจารณาถึงปฏิบัติการของกองทัพซีเรีย เพื่อปลดปล่อยกูต้าตะวันออกของกรุงดามัสกัส หนังสือพิมพ์ Jerusalem Post ได้เขียนระบุว่า การพ่ายแพ้ของฝ่ายตรงข้าม(กบฏ)ในภูมิภาคนี้ จะเป็นการคุกคามต่อผลประโยชน์ของอิสราเอลและสหรัฐอเมริกา
ในช่วงเริ่มต้นของบันทึกนี้ ได้อ้างว่า การปรากฏตัวทางทหารของอิหร่านในซีเรียได้ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่ออิสราเอล ทั้งนี้ภัยคุกคามดังกล่าวหมายถึง อิทธิพลของรัสเซียที่เพิ่มขึ้นในซีเรีย และเขียนเสริมว่า: “การล่มสลายของกูต้า จะเป็นการสื่อไปยังความหมายสองประการ ประการแรกอิหร่านจะเป็นนายของกรุงดามัสกัส ซึ่งหมายถึงภัยคุกคามถาวรต่ออิสราเอล ประการที่สอง อเมริกาจะแพ้พ่ายต่อรัสเซียในซีเรีย “
นอกจากนี้ Jerusalem Post ยังชี้ถึงสถานะของกูต้าตะวันออกว่าเป็น “ฐานสุดท้ายของกลุ่มกบฏที่ตั้งมั่นอยู่ใกล้ดามัสกัส” โดยเขียนว่า: “มีการชุมนุมใหญ่ขององค์กรกลุ่มต่อต้าน โดยไม่มีผู้ก่อการร้าย ISIS แต่มีกลุ่มขบวนการ Jaysh al-Islam ในจังหวัดทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสมาชิกนักรบประมาณ 11,000 คน
ขบวนการ Filagur-rahman มีนักรบประมาณ 10,000 คน และขบวนการ Ahrar al-Sham มีนักรบมากกว่า 6,000 คน ในบรรดากลุ่มติดอาวุธในพื้นที่ โดยกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่ได้จัดอยู่กลุ่มผู้ก่อการร้ายในระดับนานาชาติแต่อย่างใด แต่รัสเซียยืนยันว่าพวกเขาเป็นผู้ก่อการร้าย
หนังสือพิมพ์อิสราเอลยังอ้างว่า อิหร่านและรัสเซียยังคงละเมิดมติ 2401 ของคณะมนตรีความมั่นคง ในการหยุดยิง โดยอ้างว่า “ทั้งสองต้องการที่จะยึดกูต้ากลับคืนมา และแต่ละฝ่ายก็มีเหตุผลเชิงตรรกะของตัวเอง การล่มสลายของกูต้าสำหรับรัสเซียแล้วหมายถึงการรักษาอำนาจของรัฐบาลซีเรียให้คงอยู่ต่อไป และสร้างความมั่นใจว่า รัสเซียจะมีสถานะอยู่ในซีเรีย และสามารถรักษาฐานทัพของตนได้ในระยะยาว “
Jerusalem Post ได้อ้างอีกว่า “คำสั่งของอิหร่านในปฏิบัติการกูต้านั้น เพื่อกวาดล้างและยึดเมืองคืนกลับมา และอิหร่านคือ ผู้กุมบังเหียนของดามัสกัสที่แท้จริง และจะสามารถควบคุมถนนเส้นทางจากเตหะราน – เบรุต มันทำให้เตหะรานมีอำนาจและอิทธิพลเหนืออิสราเอลและตะวันตก และเป็นพลังที่จะผลักดันการเจรจานิวเคลียร์ “
หนังสือพิมพ์อิสราเอลเขียนเสริมว่า สหรัฐฯต้องกังวลในเรื่องนี้ เพราะการล่มสลายของกูต้าจะเป็นการกดดันพื้นที่ของดิรอาและกลุ่มกบฏในภาคใต้ของซีเรีย และสิ่งนี้จะเป็นภัยคุกคามต่ออิทธิพลของอังกฤษและอเมริกันในภาคใต้ของซีเรียเช่นเดียวกับฐานทัพในอัลตันฟ์ ที่ควบคุมโดยพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ
ในตอนท้ายของบทความนี้ชี้ว่า สหรัฐฯและอังกฤษกำลังสนับสนุนกลุ่มต่อต้าน ที่เรียกว่ากองทัพปลดปล่อยซีเรียในภาคใต้ โดยเขียนเสริมว่า “ถ้าวอชิงตันและอิสราเอลไม่สามารถทำหน้าที่ปกป้องกูต้าได้ หรืออย่างน้อยรักษาความปลอดภัย(ให้กับกลุ่มกบฏ)ทางใต้ของซีเรีย ก็จะเป็นเรื่องหนักอึ้งสำหรับทั้งสองประเทศอย่างแน่นอน เพราะการล่มสลายของกูต้าจะหมายถึง การสูญเสียความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯในกลุ่มฝ่ายต่อต้าน และกลุ่มกบฏของซีเรีย ขณะที่การแทรกแซงอย่างรวดเร็ว (ของสหรัฐฯและอิสราเอล) ต้องรีบดำเนินการ เพื่อหยุดความเข้มแข็งของอิหร่านและความเป็นมหาอำนาจของรัสเซียในซีเรีย ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯและความมั่นคงของอิสราเอล ”
Source: iuvmpress