เจาะประเด็น: เออร์โดกานกับสัญญาปราบปรามการก่อการร้ายในซีเรีย

182

Recep Tayyip Erdoğan ประธานาธิบดีตุรกี กล่าวว่า อังการาจะขยายปฏิบัติการในซีเรียไปยังพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ เพื่อกวาดล้างพื้นที่เหล่านี้ให้พ้นจากการก่อการร้าย

ประธานาธิบดีตุรกี Rajab Tayyip Erdogan กล่าวว่า แม้ว่ากองกำลังสหรัฐอเมริกาจะตั้งอยู่ในหนึ่งร้อยกิโลเมตรทางตะวันออกของ Afarin และเคียงข้างกองกำลังติดอาวุธพีเพิลส์ โพรเทคชั่น ยูนิตส์ หรือ YPG ของชาวเคิร์ดในซีเรีย แต่พวกเขายังคงจะถูกกวาดล้างโดยกองกำลังตุรกีอย่างแน่นอน

ในความเป็นจริง ถ้อยแถลงและคำพูดของประธานาธิบดีตุรกีแสดงให้เห็นว่า หลังจากที่ได้ปักหลักในอาฟรินแล้ว ก็จะส่งกองกำลังทหารรุกคืบไปยัง manbij ต่อ

ในขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ Recep Tayyip Erdogan กล่าวว่า กองทัพตุรกีจะถอนตัวออกจากพื้นที่ “Afrin” ในภาคเหนือของซีเรียทันทีหลังจากเสร็จสิ้นปฏิบัติการ “กิ่งมะกอก”

คำพูดของ Erdogan ยังระบุถึงความทะเยอทะยานและความตะกละที่มากเกินไปของประธานาธิบดีตุรกีต่อความพยายามที่จะให้กองกำลังทหารของตนปรากฏตัว อย่างแพร่หลายในดินแดนซีเรีย

แม้ว่ารัฐบาลอังการ่าจะอ้างเหตุผลในลักษณะต่างๆ แต่ทางรัฐบาลของดามัสกัสได้ออกมาคัดค้านการยึดครองดินแดนซีเรีย

กระทรวงการต่างประเทศของซีเรียประณามการบุกรุกของกองทัพตุรกีใน Afrin และกล่าวว่า “การกระทำของตุรกีนี้เป็นการละเมิดอธิปไตยของซีเรีย”

ในความเป็นจริง ปฏิบัติการทางทหารของตุรกีในประเทศซีเรียเป็นสิ่งผิดกฎหมายและขัดต่อหลักการและกฎหมายระหว่างประเทศ

นอกเหนือจากความขัดแย้งของรัฐบาลดามัสกัสแล้ว รัฐบาลในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้คัดค้านแผนการครอบครองดินแดนซีเรียของตุรกีและประณามรัฐบาลดังกล่าว

ภายในประเทศตุรกีเอง ก็ยังมีผู้ประท้วงทั้งในอังการ่าและอิสตันบูล โดยประณามนโยบายต่างประเทศที่ผิดพลาดของรัฐบาลและเรียกร้องให้มีการถอนกองทัพออกจากซีเรีย

ในการประท้วงและที่มีเสียงคัดค้าน แน่นอนว่า นักการเมืองอิสลามนิยมชาวตุรกีนอกจากจะกล่าวหาว่าพวกเขาสนับสนุนการก่อการร้ายกับสหรัฐฯแล้ว ยังไม่เชื่อใจในเป้าหมายที่ชั่วร้ายของประเทศในตะวันออกกลางอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น Emel Karamollaoğlu หัวหน้าพรรคอิสรภาพของตุรกีได้กล่าวในครั้งล่าสุดว่า สหรัฐอเมริกากำลังพยายามดำเนินแผนตะวันออกกลางใหญ่ที่สำคัญในภูมิภาค

ตามที่นักการเมืองเติร์กได้เปิดโปงนั้น “ในแผน” ที่เรียกว่า แผนตะวันออกกลางใหม่ของอเมริกา จะไม่มีการพูดถึงเรื่องเชื้อชาติใด ๆ รวมทั้งเคิรด์ เติกส์และเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและจะมีอยู่เพียงสิ่งเดียวคือปกป้องและรักษาการมีอยู่ของอิสราเอลในตะวันออกกลางให้ปลอดภัยเท่านั้น”

การปรากฏตัวทางทหารของตุรกีในกาตาร์และซีเรีย

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า นโยบายการทหารของรัฐบาล Erdoğan ในซีเรียเกิดจากความตะกละของเจ้าหน้าที่รัฐในอังการา

ในเรื่องนี้ซามูเอล รามานี ซา เขียนบทความเรื่อง “ความทะเยอทะยานของตุรกี สามารถเปลี่ยนแปลงในตะวันออกกลางได้อย่างไร” ซึ่งเขียนลงเว็บไซด์ National InterStat ว่า “การปรากฏตัวทางทหารของตุรกีในกาตาร์และซีเรียถูกประเมินว่าเกิดจากความตะกละของผู้นำ

โดยรวมแล้วอาจกล่าวได้ว่า ประธานาธิบดีตุรกีกำลังพยายามแข่งขันในภูมิภาคนี้กับสหรัฐฯ
ในขณะที่มีฝ่ายค้านจำนวนมากที่คัดค้านและเผชิญหน้ากับประธานาธิบดีตุรกี ทั้งนี้กองทัพตุรกีเปิดแนวรบใหม่ในสงครามซีเรียที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่เดือน มี.ค. 2554 ที่เมืองอาฟริน เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อกวาดล้างกลุ่มก่อการร้าย ไม่ให้ตรึงกำลังตามแนวชายแดน หลังสหรัฐฯ ประกาศการก่อตั้งกองกำลังความมั่นคง ที่อาจมีสมาชิกมากถึง 30,000 คน ในบริเวณนี้ และส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกวายพีจี กลุ่มติดอาวุธที่รัฐบาลตุรกีมองว่าเป็น กลุ่มก่อการร้าย พวกเดียวกับกองกำลังของพรรคคนงานเคอร์ดิสถาน ( พีเคเค ) ที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนทางตอนใต้ของตุรกี

Via: parstoday