Opinion:  สงครามไม่ใช่ความภาคภูมิใจ แต่เป็นจุดจบและความขมขื่นสำหรับทหารอเมริกัน !

493

”    ประธานาธิบดีทรัมป์ในอีกหลายปีข้างหน้า ต้องพยายามทำให้สงครามที่ยาวนานจบสิ้นลงโดยเร็ว ไม่ใช่เปิดศึกสงครามระลอกใหม่ … “

The  National Interest  ได้ทำการเผยแพร่รายงานเรื่อง “สงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น  ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจสำหรับทหารอเมริกัน” ทั้งนี้ได้เขียนวิจารณ์เกี่ยวกับ นโยบายของสหรัฐฯว่าด้วยการสงครามที่เกิดขึ้นทั่วโลก เช่นเดียวกับแผนการเผชิญหน้ากับอิหร่าน

ในรายงานได้ระบุว่า:

เราเพิ่งผ่านพ้นวัน “ทหารผ่านศึกอเมริกัน” (1) – พิธีการดั้งเดิมนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง  นักการเมืองที่ไม่ได้ทำหน้าที่ในกองทัพ และกองกำลังติดอาวุธได้เริ่มต้นก่อสงครามที่ไม่จำเป็น ส่งผลทำให้บุคลากรทางทหารต้องเสียชีวิต แต่แล้วจากนั้น พวกเขาก็จัดพิธีการดังกล่าวขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงถึงบรรดาทหารอเมริกัน

เป็นที่ชัดเจนว่า บางครั้งสำหรับวอชิงตัน ก็มีความจำเป็นที่จะต้องเริ่มต้นสงคราม แต่มักไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป  แม้จะมีการแอบอ้างที่ไม่รู้จบสิ้น ว่าเรากำลังมีชีวิตอยู่ในโลกที่อันตราย แต่ความจริงก็คือ อเมริกามีความปลอดภัยโดยสิ้นเชิง และไม่มีภัยคุกคามและภัยอันตรายที่ยิ่งใหญ่ต่อสหรัฐอเมริกาตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

จะมีเพียงรัสเซียเท่านั้นที่มีคลังแสงนิวเคลียร์ที่สามารถเทียบเท่ากับสหรัฐอเมริกาได้ แต่กระนั้นการปะทะจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อ ทั้งสองเผชิญกับการบุกรุกซึ่งกันและกัน และในกรณีที่มีการโจมตีสหรัฐอเมริกา ส่วนในแง่ของอาวุธธรรมดาทั่วไป ทั้งรัสเซียและจีนก็ยังตามหลังอเมริกาอยู่ ในขณะเดียวกัน ประเทศเหล่านี้ก็มีข้อจำกัดด้านการสื่อสารเชิงกลยุทธ์มากกว่าสหรัฐฯ และวอชิงตัน ที่มีอำนาจทางอุตสาหกรรมเกือบทั้งหมดของโลก

ประเทศที่อเมริกาเรียกพวกเขาว่า “รัฐอันธพาล” เช่นเกาหลีเหนือและอิหร่าน ก็ไม่มีแผนการณ์จะโจมตีสหรัฐฯก่อน  ซึ่งในความเป็นจริง พวกเขากำลังพยายามปกป้องตัวเองจากการถูกโจมตีที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากสหรัฐฯมากกว่า มันเห็นได้ชัดว่าเมื่อวอชิงตันกำลังมองหาการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในประเทศที่ถูกขึ้นบัญชีดำอยู่ตลอดเวลา “คิม จ็อง อึน” ก็จำเป็นต้องหาทางสร้างโล่ป้องกัน(ขีปนาวุธ) เพื่อปกป้องรัฐบาลของตน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ถูกต้องทางตรรกะ แม้ว่าบางคนจะถือว่า มันเป็นการฆ่าตัวตายก็ตาม

บางทีความท้าทายด้านความปลอดภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกาคือการก่อการร้าย แต่เมื่อมองไปที่อิรักหลังจากที่วอชิงตันได้ทำการการรุกรานประเทศนี้ แล้วก็ได้นำไปสู่สงครามการแบ่งแยกที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศนี้อย่างเห็นได้ชัด  ว่าการก่อการร้ายเริ่มที่จะเติบโตขึ้น ดังนี้การแทรกแซงกิจการของประเทศอื่น การบุกรุกและการยึดครองของประเทศอื่นๆ ที่สหรัฐฯกระทำมาโดยตลอด มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาในการต่อสู้กับการก่อการร้าย

สหรัฐอเมริกาไม่ควรแสวงหาปฏิปักษ์ให้กับตนเอง เช่นในเยเมน  สหรัฐอเมริกากำลังช่วยผู้ปกครองซาอุดิอาระเบียที่อหังการและโหดเหี้ยมในการสังหารหมู่ผู้ที่ไม่เคยทำอะไรเลยให้แก่สหรัฐอเมริกา

คนเยเมนตระหนักดีว่า ใครเป็นผู้ส่งมอบอาวุธให้กับซาอุดิอาระเบียในการทิ้งระเบิดใส่บ้านเมืองของพวกเขา และเข้ามาช่วยเหลือกองทัพซาอุดิอาระเบียเพื่อกำหนดเป้าหมายในเยเมน และเติมเชื้อเพลิงให้กับเครื่องบินรบของซาอุดีอาระเบีย

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันเป็นไปได้ที่ในอนาคต พลเมืองชาวเยเมนจะตั้งกิจการเคลื่อนไหวเพื่อสังหารชาวอเมริกัน

สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมในสงครามต่างๆอย่างต่อเนื่อง ในประเทศที่ชาวอเมริกันเองไม่เคยได้รับข่าวสารเลย  สงครามในอัฟกานิสถานกำลังเข้าสู่ปีที่ 17 แล้ว นอจากนี้ บุคลากรทางทหารของสหรัฐฯก็ยังอยู่ในอิรัก พวกเขากำลังสู้รบในซีเรีย ในฟิลิปปินส์ ตลอดจนแอฟริกา รวมถึงประเทศไนเจอร์ ซึ่งทหารสหรัฐฯได้เสียชีวิตไปสี่รายเมื่อไม่นานมานี้  ยังมีอากาศยานไร้พลขับของอเมริกา ที่ปฏิบัติการโจมตีอยู่ในปากีสถาน โซมาเลียและเยเมนอีกอย่างต่อเนื่อง

ส่วนใหญ่ของสงครามเล็ก สงครามน้อยที่สหรัฐอเมริกาไล่ตามทั่วโลก มันไม่ได้เพิ่มความมั่นคงต่อสหรัฐฯเลย เช่นการสนับสนุนของสหรัฐฯต่อซัดดัม ฮุสเซน ผู้ปกครองแบบเผด็จการแห่งยุคสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรุกรานอย่างรุนแรงของเขาต่ออิหร่านในอดีต

หลังจากนั้นการรุกรานและการโจมตีอิรักในยุคสมัยของจอร์จ ดับเบิลยู บุช  ได้สร้างหายนะอย่างร้ายแรง และนำไปสู่ความขัดแย้งทางนิกายและชาติพันธ์ และมันได้ปูพื้นฐานไปสู่การเติบโตของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส  ในที่สุด สงครามสิ้นสุดลง ด้วยชัยชนะของอิหร่าน อันนำไปสู่การขยายตัวของอิทธิพลของอิหร่านในอิรัก

บรรดาชายหญิงที่ทำหน้าที่รับใช้ในกองทัพสหรัฐอเมริกา ได้ปฏิบัติหน้าที่ในสภาวะที่ยากลำบาก แต่นักการเมืองอเมริกันกลับใช้ประโยชน์จากความมุ่งมั่นและความกล้าหาญของพวกเขา ดูเหมือนว่า นักการเมืองของเราลืมไปว่า สหรัฐอเมริกาเป็น “สหพันธ์สาธารณรัฐ” ไม่ใช่จักรวรรดิ และหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อเมริกันคือการปกป้องประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่ปกป้องประเทศอื่นๆ ในโลก  ประธานาธิบดีทรัมป์ในอีกหลายปีข้างหน้าต้องพยายามทำให้สงครามที่ยาวนานจบสิ้นลงโดยเร็ว ไม่ใช่เปิดศึกสงครามระลอกใหม่

(1)** วันทหารผ่านศึก(Veterans Day)เป็นชื่อหนึ่งในวันหยุดราชการในสหรัฐอเมริกา ตรงกับวันที่ 11 พฤศจิกายนของทุกปี  ซึ่งเป็นวันหยุดราชการที่กำหนดรัฐบาลกลาง เป็นวันแห่งการรำลึกถึงทหารผ่านศึกและชาวอเมริกันที่เกษียณแล้ว

Source: jamnews.ir