สถานการณ์ในโลกอาหรับ เมื่อเผชิญกับการถูกรุกรานและไฟแห่งสงครามโลก

326

หนังสือพิมพ์ UAE  “Al-Khaleej”  เขียนคอลัมน์หนึ่งภายใต้หัวข้อ “สงครามโลกครั้งที่สามในดินแดนอาหรับ” เขาเขียนว่า เป็นเวลา 6 ปีมาแล้วที่เราต้องเผชิญกับการสู้รบที่รุนแรงในหลายประเทศจากอิรัก ไปยังซีเรีย ลิเบีย เยเมน ซินาย ตูนิเซีย  และโซมาเลีย เป็นต้น

หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวได้เขียนว่า จากสงครามเหล่านี้ นำไปสู่ความตายของประชาชนนับหมื่นคน บางเมืองถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง และมีผู้พลัดถิ่นนับล้านคน และมีการดำเนินการ หรือ ปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรมหลายต่อหลายครั้ง แต่โรงจักรสงครามยังคงหมุนเวียนอยู่และไม่ว่าสภาวะจะเป็นเช่นไร มันก็พร้อมจะบดขยี้ความสงบสุขของผู้คนและบ้านเมืองอยู่บนเส้นทางของมัน  มีการใช้อาวุธสงครามทั้งเก่าและใหม่และแม้แต่อาวุธที่ทดสอบเป็นครั้งแรกก็ถูกนำมาใช้ในดินแดนอาหรับเหล่านี้

ในความเป็นจริงนี่ เป็นสงครามโลกครั้งที่สามที่ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เป็นสงครามโดยตรง และเป็นตัวแทนของประเทศขนาดใหญ่ ขนาดเล็กและขนาดกลางที่กำลังดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะหากเรามองดูในประวัติศาสตร์ ทั้งสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สองก็ล้วนเป็นไปในลักษณะที่คล้ายคลึงกันนี้

หนังสือพิมพ์ Al-Khaleej ยังเขียนว่า “สงครามครั้งนี้ที่กำลังเกิดขึ้นในโลกอาหรับ มีทหารรับจ้างจาก 80 กว่าประเทศทถูกนำไปใช้ใน” ดินแดนแห่งสงคราม”  นอกจากนี้ ยังปฏิบัติการโดยองค์กรก่อการร้ายที่ผ่านการฝึกอบรม อีกทั้งยังครอบครองอาวุธที่ทันสมัยที่สุด และมียุทธวิธีและการทำลายล้างอย่างโหดเหี้ยมที่สุดเป็นประวัติการณ์  องค์กรที่ฆ่าสังหารหมู่ตัดศีรษะของประชาชน ทำการเผาศพเป็นๆ อนุมัติให้กระทำในสิ่งที่ต้องห้ามตามหลักการ  ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยึดครองประเทศและจัดตั้ง “รัฐบาล” ซึ่งสิ่งเลวร้ายเหล่านี้ล้วนแต่เป็นการกระทำขององค์กรก่อการร้ายในคราบนักบุญเหล่านี้ทั้งหมด และมันดำเนินการโดยใช้ชื่อของศาสนาอิสลาม ทั้งๆที่ในความเป็นจริง องค์กรเหล่านี้ มีจุดมุ่งหมาเพื่อสร้างความเสื่อมเสียและบิดเบือนศาสนาอิสลามต่างหาก

หลายๆรายงาน ทั้งจากสื่อกระแสหลัก และที่ไม่ใช่ ต่างชี้ว่ามีบางประเทศ ที่คอยให้การสนับสนุน ทั้งด้านการเงิน อาวุธ และสื่อ เพื่อส่งเสริมการสังหารของเหล่าผู้ก่อการร้าย และภาพลักษณ์อันชั่วร้ายที่เป็นเท็จของศาสนาอิสลาม ประเทศเหล่านั้น ได้ส่งออกเม็ดเงินนับพันล้าน เพื่อสนับสนุนการก่อการร้าย และอำนวยความสะดวกให้แก่ภารกิจของบรรดาองค์กรก่อการร้าย

กาตาร์เป็นหนึ่งในประเทศเหล่านี้ ที่ได้สนับสนุนความพยายามทำลายล้างเหล่านี้ เพื่อให้พวกเขาสามารถทำหน้าทีศัตรูของประชาชาติอิสลาม ในเป้าหมายเพื่อรื้อบ่อนทำลายความสงบสุขของประชาชน แบ่งแยกและทำลายภูมิคุ้มกันของชาติ  การดำเนินการเช่นนี้ไม่ก่อให้เกิดอะไรเลย เว้นเสียแต่เป็นเพียงผลประโยชน์ของอิสราเอลเท่านั้น ในจุดมุ่งหมายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดของการก่อตั้งรัฐอิสราเอลขึ้นมาในภูมิภาคนับแต่ต้น

บางส่วนของกองทัพและกลุ่มติดอาวุธของประเทศในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้เข้าสู่สงครามครั้งนี้ และต่างมุ่งเน้นไปที่ความมั่งคั่งและสิ่งอำนวยความสะดวกในภูมิภาคนี้ และกำลังพยายามที่จะขยายอิทธิพลของพวกเขาผ่านการดำเนินการทางทหารโดยตรง

หนังสือพิมพ์เอมิเรสต์ฉบับนี้  เขียนต่ออีกว่า  หากไม่มีการแบ่งแยก การแบ่งพรรคแบ่งพวก และความเสื่อมสภาพจากภายในประเทศอาหรับ ก็จะไม่มีอำนาจใดที่จะเปลี่ยนโลกอาหรับให้กลายเป็นเวทีและฉากแห่งการทำลายล้างและการนองเลือดในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่ไร้ขอบเขตเช่นนี้ได้  อันที่จริงแล้ว สุญญากาศทางยุทธศาสตร์สร้างชาวอาหรับให้เกิดประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมในการขับเคลื่อนกองกำลังเหล่านี้ในประเทศของตน  

คำถามในที่นี้ก็คือ ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกอาหรับไม่ใช่สงครามโลกแล้ว สงครามโลกคืออะไร ?  และเครื่องมือและอุปกรณ์ของมันคืออะไร? คำถามสุดท้ายคือ: ชาวอาหรับจะยังคงทำอย่างไรต่อไปในสถานการณ์เช่นนี้และเมื่อไรผู้ปกครองของพวกเขาจะตัดสินใจดำเนินการสิ่งใดเพื่อดินแดนของพวกเขาสำหรับประเด็นดังกล่าว?

Source: akharinkhabar