‘อิรัก’ และยุทธศาสตร์การเมืองในตะวันออกกลางของ ‘รัฐบาลทรัมป์

380

อิรักมีบทบาทพิเศษต่อยุทธศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐฯในปัจจุบันสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันตก

นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ Rex Tilerson รัฐมนตรีว่าการกระทวรงต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดการประชุมในกรุงริยาด ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีอิรัก Haidar al-Abbadi และกษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุฯเข้าร่วม

การประชุมถือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวทางใหม่โดยรัฐบาลสหรัฐฯในประเด็นอิรัก

แน่นอนอิรักเป็นจุดโฟกัสของนโยบายตะวันออกกลางของสหรัฐอเมริกามานานกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา

ในช่วงเวลาดังกล่าว อิรักถูกสหรัฐฯบุกรุกทางทหารสองครั้ง และอีกครั้งถูกยึดครองอำนาจทางทหารของประเทศ

นอกจากนั้นสหรัฐอเมริกายังคงให้การสนับสนุนกลุ่มหัวรุนแรงและกลุ่มคลั่งไคล้ในประเทศให้มีความแข็งแกร่ง เพื่อรักษาสถานะของตนในอิรัก และก่อให้เกิดความวุ่นวายในภูมิภาคนี้ และในที่สุดนำไปสู่การสร้างกลุ่มก่อการร้ายไอซิสที่ก่ออาชญากรรมป่าเถื่อน

ในขณะเดียวกันก็ได้ให้การสนับสนุนความแตกแยกภายใน และผลักดันเคอร์ดิสถานอิรักไปสู่อิสรภาพ และจนกระทั่งสามารถประกาศอิสรภาพได้อย่างชัดเจน เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งจากกลยุทธ์ต่างๆ ของวอชิงตันที่มีต่ออิรักในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา

ตอนนี้รัฐบาลใหม่ที่ขึ้นมามีอำนาจในวอชิงตัน  ได้กำลังพยายามที่จะรวมให้อิรักและซาอุดีอาระเบียเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยผ่านการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรต่อต้านอิหร่านขึ้นใหม่ในภูมิภาคนี้

“อำนาจและอิทธิพลของอิหร่านในเอเชียตะวันตก” คือภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ของอเมริกา

ในมุมมองของรัฐบาล “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา  อิหร่านเป็นมหาอำนาจที่กำลังเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดสำหรับระบอบอเมริกันในเอเชียตะวันตก  และสหรัฐฯจำเป็นต้องใช้ขีดความสามารถทางการเมือง เศรษฐกิจ และแม้แต่การทหารและการรักษาความปลอดภัยเพื่อเผชิญหน้ากับอิหร่าน

ขณะเดียวกัน อเมริกากำลังพยายามที่จะนำเสนอให้มาตรการต่อต้านอิหร่านในภูมิภาคเป็นหน้าที่ของซาอุดีอาระเบีย และนำประเทศอาหรับทั้งหมดมาผนึกกำลังกับริยาด

ในขณะที่ประสบการณ์ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า การพัฒนาทางการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันตก มักจะอยู่ห่างไกลจากความต้องการและความปรารถนาของอเมริกา

ขณะที่ความทรงจำของการแทรกแซงโดยซาอุดีอาระเบียในอิรัก และการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มผู้ก่อการร้ายและกลุ่มอาชญากรไอซิสยังไม่ได้ถูกลบออกจากจิตใจของชาวอิรัก เช่นเดียวกับการตระหนักถึงบทบาทของอิหร่านในการต่อสู้กับไอซิส และการปลดปล่อยอิรักออกจากกลุ่มนี้ที่ยังคงอยู่ในจิตใจของชาวอิรัก

ในทางตรงกันข้าม หลักฐานประวัติศาสตร์ ความมั่นคงทางการเมือง ความมั่นคงและความเชื่อมั่นในหมู่ประเทศอาหรับมีความลึกซึ้ง และมีรากฐานที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรอย่างถาวรในการต่อต้านประเทศมุสลิมและประเทศที่มีอิทธิพล เช่นอิหร่าน

กรณีตัวอย่างล่าสุดของข้อพิพาทดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นอยู่อย่างเห็นได้ชัด จากกรณีระหว่างซาอุดีอาระเบีย  และกาตาร์

ในขณะที่ผลประโยชน์มหาศาลของอเมริกาในภูมิภาคเอเชียตะวันตก อยู่บนพื้นฐานของความแตกแยก และความขัดแย้งทั้งภายในและระหว่างประเทศในภูมิภาค และการมีแรงจูงใจชั่วคราวไม่ได้เป็นจุดเริ่มต้นของความสามัคคีในภูมิภาค

ในท้ายที่สุด การจัดตั้งสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันตกทำได้โดยการมีส่วนร่วมของนักแสดงระดับภูมิภาคทั้งหมด ไม่ใช่นโยบายที่แตกต่างกันของนักแสดงข้ามชาติ(เช่นอเมริกา)

Source: parstoday